น้ำมันเบรก
เป็นชิ้นส่วนที่สำคัญมากต่อรถยนต์ ถ้าน้ำมันเบรกไม่ดี จะส่งผลต่อประสิทธิภาพต่อการเบรก และชิ้นส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบเบรก นอกจากนั้น อาจนำพาไปสู่เรื่องของอุบัติเหตุได้ ดังนั้น น้ำมันเบรกจะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายทุกๆ 40,000 กิโลเมตร ตามระยะทางที่กำหนดครับ
ไม่เปลี่ยน – การส่งถ่ายแรงเบรกด้อยลง
เปลี่ยน – การไหลของน้ำมันเบรกได้เต็มที่ และรวดเร็ว
ไม่เปลี่ยน – การคืนตัวของผ้าเบรกช้า
เปลี่ยน – ผ้าเบรกคืนตัวได้เร็วหลังจากถอนเท้าออกจากคันเหยียบเบรก
ไม่เปลี่ยน – แม่ปั้มเบรก, ลูกยางเบรก ชำรุด(รั่ว) เร็วกว่าที่ควรเป็น
เปลี่ยน – ชิ้นส่วนเสียหายช้า ประหยัดเงินในการซ่อม
ไม่เปลี่ยน – กระบอกเบรก เกิดเป็นตามด ไม่สามารถซ่อมได้ ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งลูก (ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น)
เปลี่ยน – กระบอกเบรก ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์
ไม่เปลี่ยน – ใช้แรงในการเบรกมากกว่าที่ควรจะเป็น
เปลี่ยน – แรงที่ใช้ในการเหยียบเบรกเหมือนปกติ
ไม่เปลี่ยน – เกิดฟองอากาศในระบบเบรกง่ายขึ้น อาการเบรกจมหายง่ายขึ้น
เปลี่ยน – โอกาสที่เบรกจมหายในระบบจะไม่เกิดขึ้น
น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
จะต้องมีการเปลี่ยนเหมือนน้ำมันทั่วๆไป บางท่านอาจมองข้ามกันไปว่า ไม่สำคัญเท่าไหร่ อะไรทำนองนี้ ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะว่า หากไม่เปลี่ยนตามระยะทางที่กำหนด จะนำพาหรือเป็นเหตุให้ชิ้นส่วนอื่นเสียหายมากขึ้น นอกจากนั้นยังทำให้ประสิทธิภาพในการบังคับเลี้ยวด้อยลง การเปลี่ยนถ่ายก็ทุกๆ 40,000 กิโลเมตร ดังนั้น เรามาลองทำความเข้าใจกันครับ
ไม่เปลี่ยน – ชิ้นส่วนต่างๆ จะมีการชำรุดสึกหรอ ง่ายขึ้น
เปลี่ยน – อายุการใช้งานของชี้ยาวนาน
ไม่เปลี่ยน – หากมีการชำรุด แล้วมีการซ่อม ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ใช้เวลาก็มาก
เปลี่ยน – ประหยัดเงิน และ เวลาได้มาก
ไม่เปลี่ยน – เกิดเสียงดังเวลาปั้มเพาเวอร์ทำงาน
เปลี่ยน – ไม่เกิดเสียงดังแต่อย่างใด
ไม่เปลี่ยน – การส่งถ่ายแรงในการบังคับเลี้ยว ได้ไม่เต็มที่
เปลี่ยน – การบังคับเลี้ยวเป็นไปอย่างสมบูรณ์
ไม่เปลี่ยน – ปั้มเพาเวอร์มีการทำงานหนักมากขึ้น การสึกหรอย่อมสูงขั้น
เปลี่ยน – การทำงานของปั้มเพาเวอร์ทำงานเป็นปกติ การใช้งานนาน
ไม่เปลี่ยน – หากมีการรั่วแล้วเลอะเทอะบนถนน ผู้ร่วมใช้เส้นทางเกิดอุบัติเหตุได้
เปลี่ยน – ปัญหาของอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์ของเรา จะไม่เกิดขึ้น
น้ำมันเกียร์ (ธรรมดา, อัตโนมัติ)
เป็นชิ้นส่วนที่สำคัญชิ้นหนึ่ง จำเป็นจะต้องมีการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนถ่ายตามระยะทางที่กำหนด ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละแบบจะแตกต่างกันไป อย่างไรแล้วท่านผู้อ่านศึกษาได้จากคู่มือการใช้รถยนต์ของท่าน แต่ถ้าไม่มีคู่มือการใช้รถก็สามารถสอบถามไปยังแผนกบริการ รถยนต์รุ่นนั้นๆได้อีกทางหนึ่ง น้ำมันเกียร์เหมือนกับน้ำมันอื่นๆ ดังนั้น หากไม่ปฏิบัติอาจส่งผลถึงสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้
ไม่เปลี่ยน – ชิ้นส่วนของเกียร์มีการสึกหรอสูงขึ้นกว่าปกติ
เปลี่ยน – ชิ้นส่วนของเกียร์มีการใช้งานยาวนาน
ไม่เปลี่ยน – การรั่วของน้ำมันเกียร์ผ่านทางชิ้นส่วนต่างๆง่ายขึ้น
เปลี่ยน – การรั่วของน้ำมันเกียร์ผ่านซีลช้าขึ้น
ไม่เปลี่ยน – การระบายความร้อนของตัวเกียร์ไม่ดี (กว่าที่ควรจะเป็น)
เปลี่ยน – การถ่ายเทความร้อนของตัวเกียร์ดีเป็นปกติ
ไม่เปลี่ยน – การไหลลื่นของเกียร์ด้อยลง
เปลี่ยน – การไหลลื่นของเกียร์เป็นไปอย่างสมบูรณ์
ไม่เปลี่ยน – ในการเลื่อนเข้าเกียร์ยาก
เปลี่ยน – การเลื่อนเข้าเกียร์นุ่มนวล
ไม่เปลี่ยน – กินเชื้อเพลิงมากขึ้น สำหรับเกียร์อัตโนมัติ
เปลี่ยน – อัตราเร่งดี การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยลง
ไม่เปลี่ยน – หากมีการซ่อมชุดเกียร์ จะมีค่าใช้จ่ายและเวลาที่มาก
เปลี่ยน – การที่จะมีการซ่อมเกียร์ยากมาก ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับความเข้าใจในครั้งนี้ หากผู้ขับขี่พบเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งก็แสดงว่ามีการขัดข้องเกิดขึ้น ก็ให้รีบตรวจสอบโดยด่วน คงไม่มีใครไม่รักรถนะครับ ข้อกำหนดต่างๆที่อยู่ในคู่มือการใช้รถนั้น ถือว่าเป็นมาตรฐานในการดำเนินการปฏิบัติครับ หลายท่านอาจจะไม่นำรถเข้าศูนย์บริการแล้ว ก็ให้คำนึงถึงตามที่กล่าวมาด้วยครับ ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านใช้รถยนต์อย่างมีความสุขและคุ้มค่าสูงสุดครับ สวัสดีครับ
เริ่มจาก กรองเชื้อเพลิง
ไม่เปลี่ยน น้ำมันเชื้อเพลิงไหลไม่สะดวก แรงดันไม่พอเพียงกับความต้องการของเครื่องยนต์
เปลี่ยน สตาร์ทติดง่าย มีการตอบสนองต่อการเร่งดี
ไม่เปลี่ยน เครื่องยนต์จะมีอาการสะดุด เนื่องจากเชื้อเพลิงมาไม่ทัน
เปลี่ยน เครื่องยนต์มีการเผาไหม้ที่เหมาะสม ตามความต้องการของเครื่องยนต์
ไม่เปลี่ยน ปั้มเชื้อเพลิงทำงานหนักขึ้น อายุการใช้งานสั้นลง
เปลี่ยน การใช้งานของปั้มเชื้อเพลิงยาวนาน
ไม่เปลี่ยน หัวฉีดจะสกปรกเร็ว หรือ อุดตัน เนื่องจากสิ่งสกปรก ผ่านไปถึงหัวฉีด
เปลี่ยน ตัดปัญหาเรื่องหัวฉีดอุดตันออกไปได้เลย
ไม่เปลี่ยน สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น เพราะเครื่องยนต์เร่งไม่ออก ต้องเหยียบคันเร่งมากขึ้น
ทำให้มีการจ่ายเชื้อเพลิงมากขึ้น
เปลี่ยน ช่วยเรื่องประหยัดเชื้อเพลิงได้
ไม่เปลี่ยน เกิดสิ่งสกปรกในระบบมากขึ้น เพราะสิ่งสกปรกที่ตกค้างจะอยู่นอกกรองเชื้อเพลิง
เปลี่ยน สิ่งสกปรกถูกขจัดออกโดยกรองเชื้อเพลิง
ไม่เปลี่ยน ตัวกำจัดและตัวควบคุมมลพิษ ทำงานหนักขึ้น
เปลี่ยน ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
ไม่เปลี่ยน ฯลฯ
เปลี่ยน ฯลฯ
กรองอากาศ
ไม่เปลี่ยน อันดับที่ 1 เลย สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาก ไม่ว่าจะเป็น แก๊ส หรือ น้ำมันเชื้อเพลิง
เปลี่ยน ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างชัดเจน
ไม่เปลี่ยน ควันดำมาก สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล
เปลี่ยน ลดอาการควันดำที่เผาไหม้ออกมาทางท่อไอเสีย
ไม่เปลี่ยน สตาร์ทติดยาก เพราะอากาศเข้าได้น้อย
เปลี่ยน สตาร์ทติดง่ายขึ้น
ไม่เปลี่ยน แบตเตอรี่ และมอเตอร์สตาร์ทเสียหายเร็วขึ้น เนื่องจากสตาร์ทติดยาก
เปลี่ยน การชำรุดสึกหรอของแบตเตอรี่ และมอเตอร์สตาร์ทช้าลง
ไม่เปลี่ยน เร่งไม่ขึ้น ไม่มีกำลัง
เปลี่ยน อัตราเร่งดี
ไม่เปลี่ยน ชิ้นส่วนที่สัมพันธ์กับการทำงานหนักขึ้น ความเสียหายจะเร็วขึ้น
เปลี่ยน ลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในชิ้นส่วนเหล่านั้น
ไม่เปลี่ยน มลพิษเกิดมาก เนื่องจากการเผาไหม้ไม่ดี
เปลี่ยน สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น สุขภาพของสิ่งมีชีวิตดีขึ้น
ไม่เปลี่ยน ฯลฯ
เปลี่ยน ฯลฯ
น้ำยากันสนิมหม้อน้ำ
ไม่เปลี่ยน ความคงที่อุณหภูมิไม่แน่นอนของน้ำหล่อเย็น
เปลี่ยน อุณหภูมิตามการทำงานของเครื่องยนต์เป็นปกติ
ไม่เปลี่ยน เกิดสนิมภายในระบบน้ำหล่อเย็นมากขึ้น เสียหายเร็วขึ้น กับชิ้นส่วนโลหะ
เปลี่ยน ไม่มีการเกิดสนิม
ไม่เปลี่ยน การไหลเวียนของน้ำไม่ดี ไม่คล่องตัว เนื่องจากความฝืด
เปลี่ยน การไหลเวียนของน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่เปลี่ยน การทำงานของวาล์วน้ำ และฝาปิดหม้อน้ำ ผิดปกติได้
เปลี่ยน วาล์วน้ำ และฝาหม้อน้ำ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่เปลี่ยน ชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องเสียหายเร็ว เช่น เสื้อสูบ, หม้อน้ำ, ท่อยาง และอื่นๆ
เปลี่ยน การเสียหายของชิ้นส่วนช้า
ไม่เปลี่ยน การถ่ายเทความร้อน ทำได้ไม่ดีนัก
เปลี่ยน การระบายความร้อนดีขึ้น
ไม่เปลี่ยน หม้อน้ำเกิดการอุดตัน ความร้อนขึ้นผิดปกติ
เปลี่ยน จะไม่มีการอุดตันของหม้อน้ำ
ไม่เปลี่ยน ตัวเครื่องยนต์สึกหรอเร็วขึ้น เนื่องจากความร้อนที่มีมากขึ้น
เปลี่ยน อุณหภูมิคงที่ ทำให้การสึกหรอช้าลง
ไม่เปลี่ยน ฯลฯ
เปลี่ยน ฯลฯ
ท่านเจ้าของรถและท่านผู้อ่าน เมื่อทำความเข้าใจแล้ว คงนำไปใช้ประโยชน์ได้นะครับ อย่างไรแล้วนำรถเข้าตรวจเช็คทุกๆระยะนะครับ เพราะผลดีเกิดขึ้นกับท่านเจ้าของรถครับ
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " เปลี่ยนหรือไม่ ใคร่คิดดู "