ฟอร์ดนำเสนอ ‘นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน’ ผ่านเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความปลอดภัยเหนือระดับและความยั่งยืน
เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย 26 สิงหาคม 2557 – จากปณิธานของเฮนรี ฟอร์ด ที่ต้องการผลิตรถเพื่อทุกคน Ford ได้จัดแสดงเทคโนโลยีอันทันสมัยมากมายที่ช่วยให้รถฉลาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น และยั่งยืนขึ้นกว่าเดิม พร้อมเผยโฉมรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ลดการเกิดอุบัติเหตุ ประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นของฟอร์ดเพื่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
งาน ‘นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน’ ของฟอร์ดได้จัดแสดงเทคโนโลยีอันทันสมัย ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดในด้านความปลอดภัยในราคาที่สมเหตุสมผล พร้อมจัดแสดงเข็มขัดนิรภัยพองลมสำหรับที่นั่งด้านหลังอันแรกของโลก (Rear Inflatable Seatbelt) รวมถึงระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS) ระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยหลังจากที่จอด (Cross Traffic Alert) และระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (Active City Stop) ฟอร์ดยังได้จัดแสดงนวัตกรรมที่จะสร้างจิตสำนึกสำหรับผู้ขับขี่ เช่น ชุดจำลองเมาแล้วขับ (Drink Driving Suit) รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างเช่นระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) เครื่องยนต์ EcoBoost รุ่นต่างๆ ชิ้นส่วนรถยนต์น้ำหนักเบาที่ประกอบขึ้นจากวัสดุหลากหลาย และเทคโนโลยีเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถฟอร์ด ซิงค์ (SYNC) รุ่นล่าสุด
“นี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับฟอร์ดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรายังคงมุ่งมั่นในการมอบรถยนต์ที่พร้อมด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และบริการอันสะดวกสบายที่ลูกค้าต้องการและเห็นความสำคัญ” นายจิม ฮอลแลนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม ฟอร์ด เอเชียแปซิฟิก กล่าว “เราไม่เพียงต้องการสร้างประสบการณ์ขับขี่ที่ชาญฉลาดและปลอดภัยที่สุดเท่านั้น แต่เรายังมุ่งหวังที่จะทำให้ทุกคนมีโอกาสได้สัมผัสกับนวัตกรรมเหล่านี้”
งาน ‘นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน’ ยังเปิดให้ชมลานทดสอบรถออสเตรเลียน พรูฟวิ่ง กราวด์ (Australian Proving Ground) ซึ่งเป็นสถานที่ที่วิศวกรของฟอร์ดใช้ทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่ารถฟอร์ดทุกคันมีคุณภาพมาตรฐานที่ดีเยี่ยม นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมอินเตอร์แอคทีฟอีกมากมายที่ห้องทดลอง ฟอร์ด อิมเมอร์สีฟ เวอร์ชัวร์ เอ็นไวรอนเมนต์ (Ford immersive Virtual Environment – FiVE) ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในเมืองเมลเบิร์น
ห้องทดลอง FiVE ของฟอร์ดถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ทีมทำงานของฟอร์ดทั่วโลกทำงานร่วมกันได้ในเวลาเดียวกัน ห้องทดลองนี้เพียบพร้อมด้วยพื้นที่กว้างขวางเพียงพอให้ทีมงานเดินรอบรถขนาดใหญ่ที่สุดของฟอร์ดได้ พร้อมการจำลองภาพแบบเสมือนจริง ทำให้ทีมวิศวกรและนักออกแบบสามารถเห็นรถได้เหมือนกับในโชว์รูม
ฟอร์ดมีศูนย์ปฏิบัติการแบบเสมือนจริงในประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมนี จีน อินเดีย บราซิล เม็กซิโก และออสเตรเลีย ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการวางโครงสร้างแบบเสมือนจริงของรถแต่ละรุ่น ห้องทดลองเหล่านี้เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีและระบบคอมพิวเตอร์อันทันสมัยที่สามารถจำลองรถทั้งคันและทุกรายละเอียดก่อนการผลิตเป็นรถต้นแบบ ทั้งนี้ การจำลองแบบเสมือนจริงช่วยรองรับการทดลองทุกส่วนของรถไม่ว่าจะเป็นระบบแอโรไดนามิคส์ ระบบความปลอดภัย และส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างมนุษย์และครื่องจักร ทำให้วิศวกรและนักออกแบบปรุงเปลี่ยนระบบและชิ้นส่วนต่างๆ ได้ง่ายขึ้นมาก และช่วยให้รถต้นแบบที่ผลิตขึ้นจริงมีความใกล้เคียงกับรถที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีอัจฉริยะและความปลอดภัย
ฟอร์ดยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ผู้บริโภคสัมผัสได้โดยตรง อย่างเช่นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้การขับขี่ในเมืองมีความปลอดภัยและสะดวกมากขึ้น โดยภายในงาน ’นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน’ ฟอร์ดได้จัดแสดงระบบช่วยจอดอัจฉริยะรุ่นใหม่ (Enhanced Active Park Assist) ที่สามารถช่วยจอดทั้งแบบคู่ขนานและเข้าซอง ระบบจะช่วยค้นหาที่จอดรถและช่วยควบคุมพวงมาลัยโดยไม่ต้องใช้มือ ผู้ขับขี่เพียงแค่เปลี่ยนเกียร์ เหยียบคันเร่งและเบรกเท่านั้น
ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (Active City Stop) ของฟอร์ดได้รับการออกแบบเพื่อช่วยผู้ขับขี่ที่อาจจะเผลอไม่ทันระวัง ในขณะขับรถที่ความเร็วต่ำ ระบบจะใช้สัญญาณอินฟาเรดเพื่อตรวจจับระยะห่างและความเร็วของรถคันข้างหน้า และจะทำการช่วยเบรกอัตโนมัติ หากผู้ขับขี่ไม่เบรค ในระยะที่ระบบได้คำนวณไว้ว่าอาจจะเกิดการชนได้ ระบบสามารถช่วยหลีกเลี่ยงการชนได้ที่ความเร็วไม่เกิน 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถบรรเทาความรุนแรงของอุบัติเหตุเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ยิ่งไปกว่านั้น ฟอร์ดยังเตรียมเปิดตัวระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำรุ่นใหม่ (Enhanced Active City Stop) ที่มอบความปลอดภัยเพิ่มขึ้นด้วยการหยุดรถฉุกเฉินแบบอัตโนมัติสำหรับรถที่วิ่งในความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนด้วยการพัฒนาระบบเบรกที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
นอกเหนือจากเทคโนโลยีที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชน ฟอร์ดยังได้สาธิตฟอร์ด ซิงค์ (SYNC) รุ่นล่าสุดเพื่อการเชื่อมต่อภายในรถจากหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ฟอร์ด ซิงค์ รุ่น 2 อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่ได้รับการอัพเดตและพัฒนาขึ้นใหม่ ฟอร์ดได้พัฒนาระบบการสั่งงานด้วยเสียงที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น อาทิ เมื่อผู้ขับขี่เกิดหิวขึ้นมาระหว่างทาง เพียงสั่งงานกับฟอร์ด ซิงค์ รุ่น 2 ว่า “ฉันหิว” ระบบจะช่วยค้นหาและแสดงผลร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียงให้ทันที
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ ภายในงานนิทรรศการ ‘นวัตกรรมสำหรับทุกคน’ ได้แก่ ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS®) พร้อมด้วยระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยหลังจากที่จอด (Cross Traffic Alert) ระบบตรวจจับรถในจุดบอด(BLIS®) จะช่วยตรวจจับรถที่อยู่ในจุดบอด เพื่อสร้างความอุ่นใจให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนและในขณะจอด โดยใช้เรดาร์ตรวจจับรถที่วิ่งเข้ามาในบริเวณจุดบอดและส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ด้วยการแสดงไฟและเสียง สัญญาณเตือนรถฝั่งตรงข้าม Cross Traffic Alert คือระบบที่ทำงานควบคู่กับระบบตรวจจับรถในจุดบอด เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของรถคันอื่นๆ ในระยะห่างออกไป 20 เมตรในทุกทิศทาง หรือเทียบเท่ากับการสแกนที่จอดรถถัดออกไปถึง 7 คัน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ หากมีรถเข้ามาใกล้ในขณะที่กำลังถอยออกจากช่องจอดรถ นวัตกรรมด้านความปลอดภัยอันชาญฉลาดเหล่านี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการขับขี่ ช่วยลดสิ่งกวนใจบนท้องถนน และลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุด้วย
นอกจากนั้น ฟอร์ดยังได้จัดแสดงชุดจำลองเมาแล้วขับ (Drink Driving Suit) นวัตกรรมพิเศษเพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าใจถึงประสิทธิภาพในการขับรถที่ลดลงเมื่อผู้ขับขี่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชุดจำลองเมาแล้วขับ ประกอบด้วย แว่นที่จำกัดพื้นที่มองเห็น ที่อุดหู อุปกรณ์เพิ่มน้ำหนักข้อมือและข้อเท้า และผ้าบุข้อศอก คอ และเข่า ชุดนี้จะทำให้กิจกรรมง่ายๆ อย่างการเดินเป็นเส้นตรงกลายเป็นเรื่องยาก ฟอร์ดยังใช้นวัตกรรมพิเศษนี้เพื่อประกอบการให้ความรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัยและการมีสติบนท้องถนน ชุดจำลองเมาแล้วขับ คือตัวอย่างที่แฝงความรู้และให้ความเข้าใจในสิ่งที่อาจเกิดขึ้นเมื่อวิสัยทัศน์การมองเห็น การรับฟัง การควบคุม และการทรงตัวลดลง
เมื่อความคงทน พบประสิทธิภาพ
ทุกวันนี้ ผู้ขับขี่ต้องการรถที่สามารถช่วยประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลภาวะโดยที่ยังสามารถคงสมรรถนะในการขับขี่ได้อยู่ นวัตกรรมเครื่องยนต์ EcoBoost ของฟอร์ด คือหัวใจสำคัญในการมอบเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันที่มีราคาสมเหตุสมผล สำหรับรถยนต์ รถกระบะ และรถอเนกประสงค์ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่า เครื่องยนต์ EcoBoost สามารถประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ โดยยังคงสมรรถนะการขับขี่ไว้อย่างเต็มที่
“ในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายของเครื่องยนต์ EcoBoost ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างสูงถึง120 เปอร์เซ็นต์ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” นายฟิล ฟาเบียง วิศวกรด้านงานวิศวกรรมเครื่องยนต์ระดับโลก ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว “เครื่องยนต์ EcoBoost จะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าน้ำมัน และมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซมลภาวะ ความสำเร็จในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของฟอร์ดในการนำเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนในราคาที่เหมาะสมมาสู่ภูมิภาคนี้”
ปัจจุบัน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีรถฟอร์ด 10 รุ่น ที่ใช้เครื่องยนต์ EcoBoost และฟอร์ดตั้งใจจะเพิ่มเป็น 20 รุ่นภายในกลางทศวรรษนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว เครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 3 สูบ 1 ลิตร ของฟอร์ด ได้รับรางวัลเครื่องยนต์นานาชาติแห่งปี (International Engine of the Year) ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3
เครื่องยนต์ EcoBoost เป็นเพียงหนึ่งในหลายด้านของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของฟอร์ด นอกจากนี้ ฟอร์ดยังเลือกใช้วัสดุที่มีเนื้อเบาและผสมหลายวัสดุเข้าด้วยกัน บริษัทฯ ได้เลือกใช้เหล็กที่มีความแข็งแกร่ง อลูมิเนียม แมกนีเซียม เส้นใยธรรมชาติ และวัสดุที่ทำจากนาโนเทคโนโลยี การเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาลงและการออกแบบที่ดีขึ้น ช่วยให้ฟอร์ดผลิตรถที่สมรรถนะสูงและและประหยัดน้ำมัน ยกตัวอย่างเช่น ประตูรถของฟอร์ด เฟียสต้าและฟอร์ด โฟกัส ใช้เนื้อเยื่อไม้รีไซเคิล 84-92 เปอร์เซ็นต์ ที่สามารถช่วยลดน้ำหนักประตูได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์
ฟอร์ดเพิ่งเปิดตัวรถต้นแบบภายใต้แนวคิดรถ คอนเซ็ปต์น้ำหนักเบา ที่สามารถลดน้ำหนักโดยรวมของฟอร์ด มอนดิโอ/ฟิวชั่น ได้เกือบ 25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อศึกษาแนวทางการลดน้ำหนักรถที่จะผลิตเป็นจำนวนมากเพื่อวางจำหน่ายจริง ฟอร์ดได้ใช้วัสดุที่มีความทันสมัยในทุกส่วนประกอบ อาทิ ขุมกำลังช่วงล่าง ตัวถัง แบตเตอรี่ ตลอดจนภายในของรถ นับเป็นการสร้างมาตรฐานในการใช้วัสดุที่มีความทันสมัยไว้ในรถคันเดียว
“นับเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับฟอร์ดและลูกค้า ที่จะได้สัมผัสนวัตกรรมหลากหลาย ตั้งแต่วิศวกรรมและการผลิตแบบเสมือนจริง รวมถึงฟีเจอร์ในการช่วยผู้ขับขี่ในด้านต่างๆ และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนอย่างเครื่องยนต์ EcoBoost เราจะไม่หยุดนิ่ง และพร้อมพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลูกค้าทุกคน” นายจิม ฮอลแลนด์ กล่าว “งาน ‘นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน’ ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึงวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตของพวกเราอีกด้วย”
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ฟอร์ดนำเสนอ ‘นวัตกรรมเพื่อคนนับล้าน’ ผ่านเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความปลอดภัยเหนือระดับและความยั่งยืน "