รถยนต์ที่มีสุภาพสตรีที่เป็นเจ้าของหรือผู้ขับขี่ ส่วนใหญ่จะมีอุปกรณ์เสริมสวยอยู่ไว้ประจำในรถหรือไม่ก็ในกระเป๋าหิ้วแบบ ผู้หญิงไม่เพียงเท่านั้น ถ้าผู้ใดมีโทรศัพท์มือถือ ก็จะมีอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า แฮนด์ฟรี(ไม่เกี่ยวกับ Bluetooth) ยิ่งปัจจุบันมีกฎหมายบังคับว่า ขณะขับขี่รถยนต์อยู่หรือรถยนต์กำลังวิ่งอยู่ ห้ามใช้โทรศัพท์มิฉะนั้นจะถูกดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งที่กล่าวมา 2 อย่างนั้นเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกหรือได้ใช้งาน แต่ก็มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ควรไว้ใน
รถยนต์สักเท่าไหร่ นอกจากจะสร้างภาระให้กับรถยนต์แล้ว อาจนำพาไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ และสิ่งที่ไม่คาดฝันได้
สิ่งที่จะกล่าวถึงในโอกาสนี้ ส่วนใหญ่สุภาพสตรีก็จะมีไว้ในรถยนต์ นั่นก็คือ ตุ๊กตา ไม่ว่าจะเป็นประเภทแขวนลอย,ติดกระจก หรือ วางไว้ในรถยนต์ คุณผู้หญิงคงลืมนึกไปว่า พื้นที่บางพื้นที่ มุมบางมุม ที่ไว้ตุ๊กตานั้นไม่เหมาะสม การที่ไว้ตุ๊กตาในรถยนต์นั้น ส่วนใหญ่แล้วเพื่อความสวยงาม ไมค่อยเกิดประโยชน์เท่าไรนัก กล่าวคือ เวลาขับขี่ไปตามเส้นทางในยามค่ำคืน ไฟส่องทางตามท้องถนน จะสะท้อนตุ๊กตาขึ้นมาบริเวณกระจกรถ สามารถทำให้คุณผู้หญิงตกใจได้เหมือนกัน นอกจากนั้นอาจเสียสมาธิในการขับขี่ได้อีก
การไว้ตุ๊กตาหากวางไว้บริเวณกระจกบังลมหลัง จะทำให้มุมมองด้านหลังรถเห็นพื้นที่น้อยลง รถยนต์บางรุ่นมีลำโพงของเครื่องเสียงอยู่ทางแผงด้านหลัง ก็จะทำให้เสียงที่ออกมาจากลำโพง ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร (จะเป็น) เวลามองกระจกส่องหลัง เพื่อจะมองด้านหลังรถก็ไม่ชัดเจน หากมีใครจะมาทำมิดีมิร้าย อยู่ทางด้านท้ายรถ คุณผู้หญิงคงไม่ทราบแน่ๆนอกจากนั้นหากวางไว้แบบไม่แน่นพอ เวลาเหยียบเบรกทันทีทันใด ตุ๊กตาอาจกระเด็นตกลงมา ต้องมาเก็บเข้าที่อีก พื้นที่หรือบริเวณที่ผู้ขับขี่แทบจะมองไม่เห็นเลย คือ พื้นที่ด้านหลังผู้ขับขี่ เป็นไปได้หรือไม่ให้ไว้บริเวณนั้น แต่หากต้องการโชว์ตุ๊กตา หรือ แม้กระทั่งการตกแต่งรถเพื่อให้ผู้อื่นดูแล้วสวยก็ไม่ว่ากัน คุณผู้หญิงลองสังเกตไหมครับว่า การที่แขวนเสื้อผ้าไว้ในรถนั้น จะไว้ที่บริเวณมือจับที่นั่งด้านหลังของผู้ขับขี่เสียเป็นส่วนใหญ่ ก็เพราะว่าไม่รบกวนสายตาขณะขับขี่นั่นเอง นอกจากนั้น ยังหยิบฉวยได้โดยง่าย กล่าวคือ เวลาที่ผู้ขับขี่ลงรถแล้ว ก็สามารถเปิดประตูหลังขวาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว พร้อมกับหยิบสิ่งของได้รวดเร็วเช่นกัน หากคุณผู้หญิงต้องการทดสอบก็ให้นำเสื้อผ้ามาแขวนไว้ระหว่างข้างหลังซ้ายกับ ข้างหลังขวา แล้วจะพบว่าถ้าหากไว้ทางด้านซ้ายจะมีความรู้สึกว่ามีใครหรืออะไรอยู่บริเวณ นั้น ทำให้พะวงในการขับขี่ เสียสมาธิไปพอสมควร บางท่านอาจจะชินก็ไม่ว่ากัน นอกจากนั้นมุมมองทางด้านซ้ายจะเห็นพื้นที่น้อยลงไปเช่นกัน แต่พอนำกลับมาแขวนไว้ทางด้านหลังขวา จะพบว่ามีการแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ทัศนะวิสัยก็ดีขึ้นอีกด้วย
มีเรื่องให้คิดตาม รถยนต์สมัยใหม่ได้มีการออกแบบเอาใจคุณผู้หญิงมากขึ้น ไม่ว่าจะขับขี่รถยนต์ด้วยตนเองหรือไม่ก็ตาม ที่เบาะนั่งหน้าซ้ายด้านหลัง (ในรถยนต์รุ่นที่มี) จะมีที่แขวนกระเป๋าสะพายของคุณผู้หญิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักได้พอสมควร หรือจะแขวนอะไรก็ได้ตามถนัด จุดประสงค์ก็เพื่อมีไว้ให้เป็นสัดส่วน และไม่รบกวนในยามขับขี่ ส่วนใหญ่คุณผู้หญิงที่ขับขี่รถยนต์เอง ก็จะไว้ที่บนเบาะด้านซ้าย อันนี้ผู้เขียนมิขอเถียง อีกเรื่องหนึ่ง คุณผู้หญิงเวลาขับขี่รถยนต์ หรือ นั่งรถยนต์ บนถนนหนทางต่างๆ คงเคยเห็นพวกที่ชอบไว้ หรือ ผูกตุ๊กตาไว้ที่ท้ายรถด้านนอก นั่นแหล่ะครับมีส่วนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะผู้ที่ขับขี่รถยนต์ตามหลังจะมองไปทางตุ๊กตา ทำให้ละสายตาจากเส้นทางซึ่งจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ค่านิยมหรือความชอบในเรื่องอย่างนี้ถือว่าไม่ผิดแต่อย่างใด แต่คงจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นเรื่องของความเชื่อในต่างประเทศ ในประเทศไทยบางจังหวัดรู้สึกว่าจะทางภาคเหนือ เจ้าหน้าที่มีประกาศว่า ห้าม แขวนตุ๊กตาหลังรถด้านนอก มิฉะนั้นจะถูกจับและปรับ ที่กระทำเช่นนี้เพราะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในเรื่องอย่างนี้มาแล้ว
เห็นไหมครับว่า หากขับขี่รถยนต์อยู่แล้วมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้ามารบกวน อาจนำพาไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ การที่จะไว้สิ่งของต่างๆ หรือ ตกแต่งภายในรถ ก็ขอให้เหมาะสมตามที่กล่าวมาตั้งแต่ต้น ส่วนการตกแต่งด้านนอกรถนั้น มีข้อจำกัดอยู่บ้างในเรื่องของกฎหมาย อย่างไรแล้วคุณหญิงควรพิจารณาด้วยครับ
**************************
ก่อนอื่น ต้องขออธิบายเสียก่อนว่า บทความที่กล่าวถึง ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นกับสุภาพสตรี เพราะปัจจุบันสุภาพสตรีที่ขับรถเองมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ควรปฏิบัติอย่างไร เรามาทำความเข้าใจตามกันไปเลยนะครับ
การขับรถของสุภาพสตรี น้อยคนนักที่จะไม่ใช้เบรกมือ ส่วนใหญ่ก็จะใช้เบรกมือแทบทุกคน ถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม และถือว่าดี แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า หลังจากที่จอดรถยนต์ไว้และกลับมาใช้รถยนต์อีกครั้งนั้น ลืมปลดเบรกมือ ซึ่งจะส่งผลต่อรถยนต์ ดังต่อไปนี้
1. รถยนต์จะมีอาการวิ่งไม่ออก เหมือนถูกดึงเอาไว้ ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
2. จานเบรกจะร้อนมาก อาจทำให้ลูกสูบเบรกแตกได้
3. หลอด ไฟเตือนบนมาตรวัด มีอายุการใช้งานสั้นลง และรถยนต์บางรุ่น การถอด-เปลี่ยน หลอดนั้นค่อนข้างยาก จึงทำให้มีค่าแรงในการบริการก็จะสูง
4. น้ำมันเบรกจะมีอุณหภูมิสูง จะทำให้ระบบเบรกเกิดอาการ “เวเปอร์ล็อค” เบรกจะจมหาย ถึงแม้รถยนต์คันนั้นจะมีระบบ ABS หรือไม่ก็ตาม
5. ผ้าเบรกของชุดเบรกมือ หรือ บางรุ่นเป็นชุดเดียวกับผ้าเบรกหลัง จะสึกหรอสูง พร้อมกันนั้นถ้าชุดเบรกมือมีการหลุดภายในก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ (ล้อล็อค)
สาเหตุที่เกิดขึ้น เพราะว่า สุภาพสตรีจะมีการดึงเบรกมือไม่แน่ นอนพอ กล่าวคือ จะขึ้นเบรกพอประมาณเท่านั้น โดยคิดว่าเพียงพอแล้ว รถยนต์คงไม่เคลื่อนที่ เป็นการเข้าใจที่ผิด การกระทำเช่นนี้ ผู้ขับขี่อาจจะลืมได้ หมายความว่า ผู้ขับขี่อาจเกิดความเคยชิน หลังจากที่จอดรถแล้วขึ้นเบรกมือเพียงเล็กน้อย เวลาต้องการใช้รถยนต์ เวลาขับเคลื่อน ก็ลืมปลดเบรกมือ แล้วมิได้สังเกตไฟเตือนบนมาตรวัดอีกต่างหาก ก็จะให้เกิดปัญหาดังกล่าวข้างต้นได้
วิธีการป้องกันปัญหานี้ ไม่ยากเลย เพียงให้ผู้ขับขี่ขึ้นเบรกมือให้แน่นเลย การทำเช่นนี้ ในยามออกตัวของรถยนต์ จะได้รับความรู้สึกว่ารถยนต์ขยับไม่ได้ ผู้ขับขี่ก็จะทราบว่าถูกเบรกเอาไว้ ต่อจากนั้นก็ให้ปลดเบรกมือ เพียงเท่านี้ ท่านก็จะปลอดภัยจากปัญหาดังกล่าว
บางท่านอาจสงสัยว่าในเมื่อดึงแน่นแล้ว เวลาจะเอาลง (ปลด) ยาก แล้วจะทำอย่างไร ? อัน นี้ก็ไม่ยากอีกเช่นกัน ให้ทำการดึงคันเบรกมือขึ้นอีก พร้อมกับกดปุ่มตรงปลายคันโยกไปพร้อมๆกัน (ห้ามปล่อย) จังหวะนี้ผู้ดึงจะมีความรู้สึกว่า กดปุ่มที่หัวคันโยกได้โดยง่าย ดังนั้น การเอาเบรกมือลง หรือ ปลดลงจึงเป็นเรื่องง่ายนั่นเอง หมายเหตุ บทความนี้ได้แนะนำเกี่ยวกับเบรกมือที่ใช้ดึงเท่านั้น ที่อยู่บริเวณคอนโซลกลาง มิได้ร่วมเบรกมือชนิด อื่น ดังนั้น ผู้ขับขี่ต้องพิจารณากับรถยนต์ที่ใช้โดยศึกษาได้จากคู่มือรถยนต์รุ่นนั้นครับ
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " การขับรถที่ผู้หญิงควรรู้ "