แหล่งข่าวจากวงการรถยนต์ เปิดเผยว่า ในปีนี้ตลาดรถยนต์อีโคคาร์จะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป หลังจากค่ายมิตซูบิชิแนะนำมิราจ รุ่นตกแต่งพิเศษ บลูม เอดิชั่น (Bloom Edition) มี 2 สีให้เลือก คือ สีม่วง Blossom Purple มีราคาขายอยู่ที่ 549,000 บาท และสีขาวมุก White Pearl ราคาขายอยู่ที่ 554,000 บาท จำหน่ายที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศ ตั้งแต่ 15 มีนาคมนี้เป็นต้นมา และจะจัดแสดงในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 7 เมษายนนี้ ที่เมืองทองธานี ก่อนจะเปิดตัว มิราจ ซีดาน 4 ประตู ในปีนี้ ล่าสุดค่ายนิสสันเตรียมแนะนำ นิสสัน มาร์ช ไมเนอร์เชนจ์ ในวันที่ 22 มีนาคมนี้เช่นกัน นอกจากนี้ค่ายซูซูกิ ก็มีแผนเปิดตัว รุ่นซีดาน 4 ประตู ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ส่วนค่ายโตโยต้ามีแผนเปิดตัวอีโคคาร์กลางปีนี้ ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก และมีการเผยแพร่รูปรถอีโคคาร์ของโตโยต้าในสังคมออนไลน์ ว่าคล้ายกับโครงสร้างของ โตโยต้า ยาริส เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร
ด้าน นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ เติบโตอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นรถยนต์อีโค คาร์ รุ่น 5 ประตู ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 49% (ณ เดือนมกราคม 2556) ในขณะที่ยอดขายรวมนับจากเปิดตัวสูงถึง 49,296 คัน (ณ กุมภาพันธ์ 2556) โดยในปัจจุบันบริษัทมียอดขายมิราจขายเฉลี่ยอยู่ที่ 5,000 คัน ต่อเดือน หรือคิดเป็น 40-50% ของยอดขายรถยนต์รวมของบริษัท สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการจำหน่ายมิราจในประเทศไว้ที่ 4,000 คัน ต่อเดือน
นายมูราฮาชิกล่าวว่า การผลิตมิตซูบิชิ มิราจ รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานภายใต้โครงการโกลบอล สมอลล์ รุ่นแรกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ถูกผลิตจากโรงงานใหม่แห่งที่ 3 ของมิตซูบิชิ ณ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ไทยถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ยอดการผลิตรวมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาบริษัทผลิตมิราจไปแล้วกว่า 109,300 คัน สำหรับเพื่อขายในประเทศ 54% หรือประมาณ 58,800 คัน และเพื่อส่งออกอีก 46% หรือ ประมาณ 50,500 คัน เชื่อว่าจะบรรลุเงื่อนไขของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ระบุว่าจะต้องผลิตจริงไม่น้อยกว่า 100,000 คันต่อปีภายในระยะเวลา 5 ปี หลังจากเปิดไลน์การผลิตได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ บริษัทยังได้เพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถส่งมอบรถที่มียอดค้างส่งมอบ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10,000 คัน ได้เร็วยิ่งขึ้น โดยลูกค้าสามารถรับรถได้ภายใน 1-2 เดือนเท่านั้น
ใน ส่วนของการตอบรับจากตลาดต่างประเทศ นายมูราฮาชิกล่าวว่า เริ่มทยอยเปิดตัวมิราจในภูมิภาคต่างๆ โดยเปิดตัวในบรูไนในเดือนมิถุนายน ประเทศญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม อินโดนีเซียในเดือนกันยายน ฟิลิปปินส์และมาเลเซียในเดือนพฤศจิกายน บังกลาเทศและออสเตรเลียในเดือนมกราคม และล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้มีการแนะนำมิราจใหม่ในประเทศ นิวซีแลนด์ รวมทั้งยังมีแผนจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ในภูมิภาคยุโรปในลำดับต่อไป สำหรับยอดการส่งออกล่าสุดอยู่ที่กว่า 46,000 คัน โดยตลาดหลักในปัจจุบันเป็นประเทศญี่ปุ่น มิราจถูกส่งออกไปแล้วกว่า 21,500 คัน ตามมาด้วยประเทศในแถบอาเซียนและโอเชียเนีย
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ค่ายรถเปิดศึกอีโคคาร์เดือด “Mitsubishi Mirage, Nissan March, Suzuki Swift” ลุยรุ่นใหม่ แซด “Toyota” ปรับ “Yaris” เสียบ "