ประมูลรถหรูเลี่ยงภาษีจากกรมศุลกากรคึกคักสวนกระแสเศรษฐกิจ

ประมูลรถหรูเลี่ยงภาษีจากกรมศุลกากรคึกคัก สวนกระแสเศรษฐกิจ

ยืนยันลูกค้ายังมีกำลังซื้อสหการประมูลเคาะขาย 279 คันมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

ประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางคึกคักสวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว เศรษฐีเมืองไทยลงทะเบียนซื้อรถหรูมากกว่า 2,000 ราย เพราะมั่นใจซื้อจากกรมศุลกากรเอกสารถูกต้องไม่เสี่ยงเป็นรถจดประกอบ บมจ.สหการประมูลเผยลูกค้ายังมีกำลังซื้อ เคาะขายรถทั้งสิ้น 279 คัน สร้างรายได้เข้าภาครัฐมูลค่ากว่า 546,820,000 ล้านบาท

นายเอก พิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT เปิดเผยในฐานะผู้ดำเนินการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางจากกรมศุลากร ว่า การประมูลขายครั้งที่ 1 ประจำปี 2556 นี้ มีความคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งถือว่าเป็นการสวนกระแสเศรษฐกิจที่อยู่ใน ภาวะชะลอตัว เนื่องจากมีผู้ที่สนใจลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมประมูลซื้อรถยนต์หรูมากกว่า 2,000 ราย ทำให้การแข่งขันราคาเพื่อซื้อรถแต่คันใช้เวลาค่อนข้างนานและการประมูลขายรถยนต์ทั้งหมด 289 คันใช้เวลาทั้งสิ้นกว่า 13 ชั่วโมง โดยการขายทอดตลาดรถยนต์ให้กับกรมศุลกากรในครั้งนี้ขายรถได้ทั้งสิ้น 279 คันและนำเงินเข้าภาครัฐมูลค่า 546,820,000 ล้านบาท เพราะเป็นการประมูลขายที่ต่ำกว่าราคาตลาดจึงทำให้มีผู้สนใจซื้อจำนวนมาก ทั้งนี้ รถยนต์ของกลางที่มีร่วมผู้ประมูลซื้อคันที่ 1 คือ ยี่ห้อ PRORSCHE รุ่น 911 TURBO S ปี 2011 ราคาเปิด 7.74 ล้านบาท สามารถประมูลขายได้ในราคา 11.2 ล้านบาท สำหรับยี่ห้อ BENTLEY ราคาเปิด 1.59 ล้านบาท ประมูลขายได้ในราคา 8 ล้านบาท รวมทั้งยี่ห้อ AUDI ราคาเปิด 2.66 ล้านบาท ประมูลขายได้ในราคา 6.9 ล้านบาท และรถ FERRARY ที่สามารถประมูลขายได้ในราคา 10.25 ล้านบาท

นายเอกพิทยากล่าวว่า สาเหตุที่ประชาชนให้ความสนใจร่วมประมูลซื้อรถยนต์ของกลางจากกรมศุลกากรใน ครั้งนี้ เนื่องจากมีความมั่นใจเรื่องความถูกต้องด้านเอกสาร ทั้งยังไม่ต้องการซื้อรถจากแหล่งอื่นที่มีความเสี่ยงเป็นรถจดประกอบเลี่ยง ภาษีซึ่งจะส่งผลเสียภายในภายหลัง และสาเหตุที่สามารถประมูลขายรถยนต์ของกลางได้ถึงจำนวน 279 คันถือว่าเป็นการสวนกระแสเศรษฐกิจ เพราะลูกค้าและผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มยังมีกำลังซื้อสูง ที่สำคัญส่วนใหญ่เป็นกาซื้อรถหรูเพื่อใช้งานจริง เนื่องจากเห็นว่าราคารถยนต์มือสองอยู่ในภาวะอ่อนตัวและราคายังถูกมากเมื่อ เปรียบเทียบกับราคาตลาด อย่างไรก็ตาม การดำเนินการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางให้กับกรมศุลากรในครั้งนี้ถือว่า เป็นการซื้อ-ขายเพื่อช่วยชาติ โดยไม่ได้หวังผลกำไรแต่อย่างใด ทั้งนี้ การประมูลขายรถยนต์ของกลางครั้งต่อไปน่าจะจัดขึ้นอีกประมาณ 6-7 เดือนข้างหน้า หากสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะทางการเมืองไม่กระทบต่อความมั่นใจของผู้บริโภค มากนัก เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนให้ความสนใจซื้อรถยนต์ของกลางไม่น้อยไปกว่าครั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บมจ.สหการประมูล โทรศัพท์ 0-2934-7344-8 และดูรายการรถยนต์ที่เข้าประมูลขายได้ที่ www.union-auction.com