– ซีวิค ไฮบริด ใหม่ ยนตรกรรมไฮบริดรุ่นแรกของฮอนด้าที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และยังเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยที่ใช้แบตเตอรี่ชนิดนี้
– รับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี และพิเศษขยายเวลารับประกันแบตเตอรี่เพิ่มอีก 5 ปี เป็น 10 ปี *
– พร้อมขยายเวลารับประกันแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์ฮอนด้าซีอาร์-ซีร์และแจ๊ซ ไฮบริด เพิ่มอีก 5 ปี เป็น 10 ปี ตอกย้ำความมั่นใจในสุดยอดนวัตกรรมไฮบริดจากฮอนด้า
กรุงเทพฯ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 – บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าตอบโจทย์ความต้องการรถยนต์ไฮบริดในกลุ่มคอมแพคท์ซีดาน เปิดตัว Honda Civic Hybrid ใหม่ ด้วยดีไซน์ของซีวิครุ่นล่าสุดที่ผสานเทคโนโลยีเพื่อโลกสวยไว้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยกระจังหน้า ไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมกรอบสีฟ้า ไฟท้ายแอลอีดีพร้อมเลนส์สีเคลียร์บลู สปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษครบครันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ และระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด พร้อมนำแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมาใช้กับรถยนต์ไฮบริดที่ผลิตในไทยเป็นรายแรก ทั้งนี้ ฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด ใหม่ มี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Hybrid ราคา 1,035,000 บาท และรุ่น Hybrid Navi ราคา 1,095,000 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ สีขาวออร์คิด (มุก) สีขาวฟรอสตี้ (เมทัลลิก) และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) พร้อมรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และพิเศษเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคุณภาพที่เหนือชั้นแห่งยนตรกรรมไฮบริดจากฮอนด้า ได้ขยายเวลารับประกันแบตเตอรี่เพิ่มอีก 5 ปี เป็น 10 ปี พร้อมทั้งประกาศขยายอายุการรับประกันแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์ฮอนด้ารุ่น ซีอาร์-ซีร์ รถยนต์สปอร์ตไฮบริด และแจ๊ซ ไฮบริด เพิ่มอีก 5 ปีเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ครอบคลุมถึงลูกค้าที่ได้ซื้อรถยนต์ทั้งสองรุ่นไปก่อนหน้านี้
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวซีวิค ไฮบริด ใหม่ ในวันนี้ เป็นการนำเสนอยนตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีไฮบริด IMA ผสานการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ทำให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ เพื่อรองรับกระแสความต้องการรถยนต์พลังงานสะอาดที่มีศักยภาพในการเติบโตในประเทศไทย และจะเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
“ฮอนด้า ซีวิคไฮบริด ใหม่ รับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ ซึ่งประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม แบตเตอรี่ไฮบริดและระบบสายไฟไฮบริด เป็นระยะเวลา 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง และพิเศษเพื่อตอกย้ำคุณภาพนวัตกรรมยานยนต์ไฮบริดจากฮอนด้า ได้ขยายเวลาการรับประกันแบตเตอรี่เพิ่มอีก 5 ปี รวมเป็น 10 ปี และในโอกาสเดียวกันนี้ฮอนด้าได้ขยายระยะเวลารับประกันแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์ฮอนด้าไฮบริดอีก 2 รุ่น ได้แก่ ซีอาร์-ซีร์ และแจ๊ซ ไฮบริด เพิ่มขึ้นอีก 5 ปี เป็น 10 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง ด้วยเช่นเดียวกัน รวมทั้งยังครอบคลุมถึงลูกค้าที่ได้ซื้อรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น ไปก่อนหน้านี้ด้วย” นายพิทักษ์ กล่าวเสริม
สำหรับซีวิค ไฮบริด ใหม่ ที่เปิดตัวในประเทศไทยในวันนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของความล้ำหน้าทางเทคโนโลยียานยนต์ของฮอนด้าที่นำแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่สามารถบรรจุพลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้น น้ำหนักเบา มาใช้ในยนตรกรรมไฮบริดของฮอนด้าเป็นครั้งแรก และยังเป็นครั้งแรกของรถยนต์ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย โดยฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด ใหม่ คงเอกลักษณ์อันโดดเด่น ครบครันด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ อาทิ
– เครื่องยนต์: ระบบไฮบริดอัจฉริยะ Integrated Motor Assist หรือ IMA ของฮอนด้า ที่มีระบบการทำงานแบบคู่ขนาน ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ 8 วาล์ว i-VTEC 1.5 ลิตร SOHC และมอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริดแบบ IMA สมรรถนะเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดที่ 132 นิวตัน-เมตร ที่ 2,800 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที และมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดสูงสุดที่ 106 นิวตัน-เมตร ที่ 500-1,546 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 23 แรงม้า ที่ 1,546-3,000 รอบต่อนาที โดยเครื่องยนต์จะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนและเสริมแรงด้วยพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการออกตัวและเร่งแซง เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำคงที่ เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน และเข้าสู่ EV Mode โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว ซึ่งในขณะที่เครื่องยนต์เข้าสู่ EV Mode นี้ จะไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ช่วงลดความเร็วหรือเบรก เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน ระบบจะนำพลังงานที่สูญเสียไปในขณะเบรกมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งกลับคืนสู่แบตเตอรี่ไฮบริด เพื่อเก็บพลังงานไว้ใช้ต่อไป และเมื่อรถหยุด เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดทำงานอัตโนมัติและเข้าสู่โหมด Idling Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษ
– เทคโนโลยีอัจฉริยะ: ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) ครบครันด้วยฟังก์ชั่นที่ล้ำหน้า อาทิ หน้าจอแสดงข้อมูลแบบอัจฉริยะ หรือ i-MID (Intelligent Multi-Information Display) ซึ่งเป็น Smart Interface ที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ อย่างสมบูรณ์แบบตามความต้องการของผู้ขับขี่ รวมไปถึงระบบ Eco Assist ระบบแนะนำการขับขี่แบบประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น
– รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว: การออกแบบภายนอกมีโครงสร้างแบบ Mono Form ผสานดีไซน์เฉียบคมทุกเส้นสาย ส่วนดีไซน์ภายในห้องโดยสารมีความล้ำสมัยแบบ Futuristic Cockpit พร้อมดีไซน์สุดพิเศษเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นซีวิค ไฮบริด ใหม่ เท่านั้น อาทิ กระจังหน้า ไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมกรอบสีฟ้า และไฟท้ายแอลอีดีพร้อมเลนส์สีเคลียร์บลู สปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ
– ระบบความปลอดภัย: ด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ G-Force Control (G-CON) ที่เหนือชั้นของฮอนด้า ช่วยลดระดับความเสียหายอันเป็นผลมาจากการชน นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานมากมาย เช่น ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbags ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว Vehicle Stability Assist™ (VSA®) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist) และระบบบังคับเลี้ยวพร้อมระบบช่วยผ่อนแรงแบบใหม่ (Motion Adaptive Electric Power Steering) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมทิศทางของตัวรถได้อย่างแม่นยำ และช่วยลดการเกิดอาการหน้าดื้อโค้งหรือท้ายปัดได้ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านผู้โดยสารตอนหน้า กล้องส่องภาพด้านหลัง กุญแจนิรภัย Immobilizer และล่าสุดยังมีการติดตั้งจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้โดยสารเด็ก
มร. มิตซูรุ โฮริโกชิ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนาซีวิค ไฮบริด ใหม่ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) กล่าวว่า “การพัฒนาฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด นั้นยังคงไว้ซึ่งดีไซน์สุดล้ำทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้อารมณ์การขับขี่ที่สนุกคล่องตัว ห้องโดยสารกว้างขวางด้วยเอกลักษณ์การออกแบบ Man Maximum Machine Minimum เน้นการจัดวางพื้นที่โดยให้ความสำคัญสูงสูดต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ครบครันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ คงสมรรถนะการขับขี่ที่โฉบเฉี่ยว ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังได้นำชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งให้กำลังมากขึ้น แต่ขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบามาใช้เป็นครั้งแรกกับรถไฮบริดของฮอนด้า”
ฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด ใหม่ มี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Hybrid ราคา 1,035,000 บาท และรุ่น Hybrid Navi ราคา 1,095,000 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ สีขาวออร์คิด (มุก – เพิ่มเงิน 10,000 บาท) สีขาวฟรอสตี้ (เมทัลลิก) และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สำหรับสีภายในเป็นสีเทาทั้งสองรุ่น ลูกค้าที่สนใจสามารถชมรถได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
นอกจากนี้ นายพิทักษ์ ยังกล่าวเสริมว่า “ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ที่ลงตัวของ Civic Hybrid โฉมล่าสุด ผสานกับสมรรถนะการขับขี่ที่คงความสนุก ประหยัดเชื้อเพลิง ควบคู่กับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฮอนด้ามั่นใจว่า ซีวิค ไฮบริด ใหม่ จะเข้ามาเติมเต็มตลาดรถยนต์ไฮบริดในระดับคอมแพคท์ซีดานให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยเราตั้งเป้าหมายการจำหน่ายไว้ที่ 7,200 คันภายในหนึ่งปี”
“Honda จะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์พลังงานสะอาด เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า ด้วยความรวดเร็ว ในราคาที่ย่อมเยา และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ ไปพร้อมๆ กับการตอบสนองนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม Blue Skies for Our Children เพื่อส่งมอบสิ่งแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยให้กับลูกหลานในอนาคตได้มีความสุขในการใช้ชีวิตในสังคมที่ยั่งยืน” นายพิทักษ์ กล่าวทิ้งท้าย
*การขยายเวลารับประกันแบตเตอรี่จาก 5 ปี เป็น 10 ปี เป็นการส่งเสริมการขาย โดยจะมีผลสำหรับลูกค้าที่ซื้อหรือสั่งจองรถยนต์ฮอนด้าไฮบริดทั้ง 3 รุ่น ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2556 นี้เท่านั้น และยังครอบคลุมการขยายเวลารับประกันให้กับลูกค้าที่ได้ซื้อรถยนต์ไฮบริด ซีอาร์-ซีร์ และแจ๊ซ ไฮบริด ไปก่อนหน้านี้ด้วย ทั้งนี้เงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
**หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
ล่าสุด ฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด ใหม่รุ่นนี้ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูงสุด หรือ Top Safety Pick ประจำปี 2555 โดยสถาบันประกันความปลอดภัยบนทางหลวงแห่งสหรัฐอเมริกา (IIHS) โดยฮอนด้า ซีวิค ไฮบริด ได้รับคะแนนสูงสุดจากการทดสอบการชนในทุกด้าน ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง และการทดสอบความแข็งแกร่งของหลังคารถยนต์
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
K.joe ส่งรายละเอียดให้เรียบร้อยแล้วนะคะ
สอบถามเพิ่มเติม high_priestes@hotmail.com
LINE/WhatsApp.091-536-6556 ติณณา
ตัวใหม่นี้ ไม่สวยเอาซะเลย