ถึงแม้สถานการณ์การขายรถในทวีปยุโรปนั้นจะประสบปัญหาตลอดเดือนที่ผ่านมา แต่ล่าสุดนั้นในตลาดสหรัฐอเมริกากลับตรงกันข้ามกันเมื่อมันมียอดขายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมมากนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยในตอนนี้เหล่าผู้ผลิตยานยนต์ต่างเร่งทำยอดขายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้
ในเดือนนี้นั้นยานพาหนะกว่า 1.5 ล้านคันนั้นถูกขายไปในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเพิ่มมากขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งค่ายรถรายใหญ่อย่างทาง GM นั้นก็ได้ขายรถไปมากถึง 275,847 คันเพิ่มมากขึ้น 15% จากปีก่อนและมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2008 โดย 61,620 คันนั้นเป็นยอดของรถกระบะ
ทางด้าน Ford เองก็ไม่น้อยหน้าด้วยโดยมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 12% ด้วยจำนวน 220,404 คัน ซึ่งเจ้ารถแบบ “F-Series” นั้นทำสถิติด้วยยอดขายกว่า 71,115 คันหรือคิดเป็นอัตราส่วนยอดขาย 1 คันทุกๆ 42 วินาทีซึ่งเป็นยอดที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมาของพวกเขาเลยทีเดียว
Chrysler ก็ตามมาติดๆด้วยยอดขายกว่า 11% ที่เพิ่มขึ้นโดยมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 120,161 คันโดยรถกระบะแบบ Ram และรถ SUV อย่าง Jeep Grand Cherokee และ Dodge Durango.นั้นมียอดเพิ่มขึ้นกว่า 31%
ในส่วนของรถจากต่างชาติเช่น Toyota, Honda และ Nissan นั้นก็มียอดขายเพิ่มขึ้น 23%, 27% และ 22% ตามลำดับ ปิดท้ายด้วยแบรนด์จากฝั่งเยอรมันอย่าง BMW ที่เพิ่มขึ้นถึง 35.4% ด้วยยอดขาย 30,546 คัน, Mercedes-Benz ยอดขาย 27,144 คัน (เพิ่มขึ้น 15.8%) และปิดท้ายด้วย Audi ที่ 14,005 คัน (มากขึ้นกว่า 21.5%)
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รถกระบะ “Ford F-Series” ทำสถิติขายได้ทุกๆ 42 วินาที ใน U.S. "