สรรพสามิต ชี้ วีออส ไมเนอร์เช้นจ์ รุ่นใหม่ ไม่เข้าข่ายรถคันแรก เนื่องจากเพิ่งเริ่มไลน์ผลิต ขณะที่ รมว. คลัง บอกโครงการรถคันแรก ขนหน้าแข้งรัฐไม่ร่วง ไม่กระทบเงินจัดเก็บรายได้ประเทศ ด้าน รมว. พลังงาน เบรก ตั้งฐานผลิตรถไฮบริดในไทย ชี้กลัวพลังงานไฟฟ้าไม่พอในอนาคต
วานนี้ (3 ธันวาคม) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงโครงการคืนภาษีรถคันแรกว่า ขณะนี้ถึงแม้มียอดใช้สิทธิถึง 6 แสนคัน คิดเป็นเงินดำเนินการประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของประเทศอย่างแน่นอน เพราะส่วนหนึ่งในการคืนเงินดังกล่าว เป็นการใช้เงินภาษีจากที่เก็บจากผู้ซื้อรถยนต์ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว รัฐบาลไม่ต้องหางบประมาณในส่วนอื่นมาใช้ดำเนินการโครงการนี้แต่อย่างใด
นายกิตติรัตน์ ยังกล่าวต่อว่า ตนยืนยันว่าทางรัฐบาลไม่เดือดร้อนกันโครงการรถยนต์คันแรกอย่างแน่นอน แต่อยากให้มองในทางกลับกันว่า การมาขอใช้สิทธิที่เพิ่มมากขึ้นนั้น รัฐบาลจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะช่วยสนับสนุนรายได้ในส่วนของภาษีรถยนต์ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของรายได้ในส่วนนี้เอง จะทำให้รัฐอาจไม่ต้องควักเงินงบประมาณส่วนอื่นมาใช้ดำเนินการ ส่วนการขยายระยะเวลาในส่วนของการส่งมอบรถยนต์นั้น ก็เป็นผลมาจากกระบวนการผลิตที่ไม่ทันต่อความต้องการของประชาชนเท่านั้น เชื่อว่าไม่ได้เป็นผลทำให้มียอดการขอใช้สิทธิเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ยังกล่าวในส่วนรถยนต์โตโยต้า “วีออส ไมเนอร์เช้นจ์” ที่่ยังไม่ได้มีการผลิต แต่ได้รับสิทธิให้เข้าโครงการรถคันแรกว่า ตนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกรมสรรพสามิต
ส่วนทางด้าน นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือไปยังสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปแล้ว และทราบมาว่ารถที่สามารถเข้าร่วมได้นั้น ต้องมีไลน์การผลิตไปแล้ว และต้องเสียภาษีสรรพสามิตไปแล้วบางส่วนตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งในกรณีรถยนต์วีออส ไมเนอร์เช้นจ์นั้น ถือว่ายังไม่อยู่ในไลน์การผลิต จึงไม่สามารถเข้าโครงการรถยนต์คันแรกได้ เนื่องจากต้องมีไลน์การผลิตให้ทันวันที่ 31 ธันวาคม
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวถึงกรณีที่บริษัท โตโยต้า มีแผนจะเน้นผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฮบริด (รถยนต์ที่ใช้น้ำมันและไฟฟ้าเป็นเชื้อเพลิง) ในประเทศไทย ว่า รถยนต์ไฮบริดที่ใช้ไฟฟ้าเป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนอาจจะประสบปัญหาการใช้ไฟฟ้าสูง และไทยอาจมีไฟฟ้าไม่เพียงพอในอนาคต ซึ่งปัจจุบันก็มีแนวโน้มจะขาดแคลนโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศ
ดังนั้น กระทรวงพลังงานจึงเตรียมหารือร่วมกันกับกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์กลางเดือนธันวาคม 2555 เพื่อให้ข้อมูลและกำหนดทิศทางโครงสร้างการผลิตน้ำมันของประเทศอย่างชัดเจน ซึ่งโครงสร้างน้ำมันจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องถามความเห็นของผู้ผลิตรถยนต์และประชาชนผู้บริโภคเป็นหลัก และน้ำมันต้องมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับเครื่องยนต์ต่อไปด้วย
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
ธรรมาภิบาลของโตต้า คือ โกงลูกค้าไม่ให้เห็นของแล้วเอามาหลอกขายใบจอง เพียงเพื่ออยากเอาชนะฮอนดะ ที่ยอดจองทะลุ 2 หมื่นคัน