เปิดสเป็คพร้อมราคาแบบละเอียดของ “2016 Toyota Prius” เริ่มที่ 24,200 ดอลล่าร์

เปิดสเป็คพร้อมราคาแบบละเอียดของ “2016 Toyota Prius” เริ่มที่ 24,200 ดอลล่าร์

ในที่สุดรถพลังงานไฮบริด (Hybrid Version) ของเจ้า 2016 Toyota Prius นั้นก็ได้เปิดตัวออกมาแล้วในภูมิภาคอย่างอเมริกาเหนือ (North America) ซึ่งเป็นการเน้นย้ำศักยภาพของรถพลังงาน Hybrid ในภูมิภาคนี้นั่นเอง

หลังจากเปิดตัวไปในงานอย่าง Las Veges ได้ไม่นานเมื่อ 2 เดือนก่อนหน้านี้ ในที่สุดรถแบบ “Prius” รุ่นใหม่ก็ได้เผยโฉมการดีไซน์ออกแบบใหม่ออกมาแล้ว ซึ่งทั้งสวยงามและมีความลงตัวของระบบเทคโนโลยีใหม่ต่างๆเป็นอย่างมาก

ในส่วนของพลังงานไฮบริดนั้นจะทำให้รถรุ่นใหม่นี้ประหยัดพลังงานจากรถรุ่นเดิมๆมากขึ้น โดยมันมีอัตราการประหยัดทั้งสิ้น 54/50/52 MPG ในเมือง/บนทางด่วน (ถนนไฮเวย์) และแบบรวมตามลำดับ และในโหมด ECO นั้นจะประหยัดได้ 58/53/56 MPG ในเมือง/บนทางด่วน (ถนนไฮเวย์) และแบบรวมตามลำดับ

การเปิดตัวในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นรถแบบโฉมปี 2016 นั้นจะมีทั้งหมด 6 โฉมย่อยดวยกัน เริ่มกันที่ “Prius Two” สำหรับผู้ซื้อรถพลังงานแบบไฮบริดเป็นคันแรก, รถแบบ “Prius Two Eco” ที่ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารุ่นเดิมๆที่ผ่านมา

ต่อมาคือรถแบบ “Prius Three” และ “Prius Three Touring” ที่มีเทคโนโลยีเบื้องสูงที่ดีกว่าเดิม, ตามมาด้วยรถแบบ “Prius Four” และ “Four Touring ” ในรุ่นสูงสุดของตลาดโลก

ราคาเริ่มต้นของเจ้า 2016 Prius นั้นจะอยู่ที่ 24,200 ดอลล่าร์สำหรับ Prius Two, 30,000 ดอลล่าร์สำหรับ Prius Four Touring ส่วนแบบ The Two Eco, Three, Three Touring และ Four models จะมีราคา 24,700, 26,250, 28,100 และ 28,650 ดอลล่าร์ตามลำดับ

ในส่วนของการประกันรถจากทาง Toyota โดยตรงจะอยู่ที่ 36 เดือน/36,000 ไมล์ สำหรับการประกันรถใหม่ และตัวเครื่อฝยนต์อย่างเดียวจะอยู่ที่ 60 เดือน/60,00 ไมล์ รวมไปถึงการประกันทางด้านเทคโนโลยีอื่นๆเพิ่มเติมด้วยในระบบแต่ละด้าน

ส่วนของโฉมภายนอกนั้นจะใช้ล้อแม็กซ์ 5 ก้านขนาดรอบวงใหญ่ถึง 17 นิ้ว, ไฟตัดหมอกขนาดใหญ่, ระบบไฟ LED ทางด้านหน้าตัวรถ, กันชนทางด้านหน้าที่แตกต่างจากเดิม ที่เปลี่ยนแปลงทั้งแบบ Two และแบบ Two Eco versions

ต่อมาคือภายในตัวรถที่มาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัสเต็มมิติขนาด 6.1 นิ้วแบบ Entune Multimedia Bundle, ลำโพงขนาดใหญ่ถึง 6 จุด, ระบบช่อง USB2.0, การเชื่อมต่อกับ iPod, ระบบเก็บเสียงเวลาคุยโทรศัพท์และการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth รวมไปถึง Wifi Wireless

ในส่วนของรุ่นท็อปจะเปลี่ยนเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ 7 นิ้วแบบความละเอียดสูง, ระบบ Entune App Suite (เชื่อมต่อจากโทรศัพท์), ระบบวิทยุแบบ HD, ระบบเครื่องเสียงแบบ Entune Premium JBL และลำโพงขนาดใหญ่ภายในทั้งหมดถึง 10 จุดด้วยกัน