ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 7 มีนาคมนี้ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดทริปทดสอบให้ให้สื่อมวลชนรับรู้สมรรถนะ บุคลิกนิสัยของพัลซาร์ รุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เนวิเกเตอร์ บนเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง-จันทบุรี ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร
สำหรับพัลซาร์พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับซิลฟี ทั้งแพลตฟอร์ม ช่วงล่าง เครื่องยนต์ขนาด 1.8 และ 1.6 ลิตร ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT
อย่างไรก็ตามทีมงานผู้พัฒนาน่าจะตั้งใจให้พัลซาร์มีความสปอร์ตกว่าเก๋งซีดานผู้พี่อยู่นิดๆ โดยการออกแบบมาพร้อมแนวคิด “พลิ้วไหว-ปราดเปรียว” ขณะที่มิติตัวถังยาว 4,295 มม.กว้าง 1,760 มม.สูง 1,520 มม.ระยะฐานล้อ 2,700 มม.(เท่ากับซิลฟี)
ด้านหน้าตรงอาจจะคล้ายกับซิลฟี แต่ถ้าพิจารณารายละเอียดในโคมไฟต่างกันครับ เพราะซิลฟีนั้นใช้หลอด LED มาแต้มแต่งเพิ่มความหรูหรา แต่พัลซาร์เลือกใช้ไฟซีนอนและโปรเจกเตอร์เลนส์ ตลอดจนล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ประกบยาง 205/50R17 (ซิลฟีขนาด16 นิ้วประกบยาง 195/65 R16) แถมเพิ่มสง่าราศีด้วยซันรูฟ
การออกแบบภายในมาพร้อมแนวคิด “สงบ ผ่อนคลาย” แต่อิงอารมณ์สปอร์ตกว่าซิลฟีชัดเจน ด้วยการใช้โทนสีดำ ทั้งเบาะหนัง หัวเกียร์และพวงมาลัย ขณะเดียวกันยังอัดออปชันอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยอย่าง กุญแจอัจฉริยะ ปุ่มสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ แอร์อัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง รวมถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน และครูสคอนโทรล
ส่วนการห้ามล้อใช้เป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD เสริมแรงเบรก BA ตลอดจนติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้ามาให้เป็นมาตรฐาน
ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ที่โดดเด่นของ Nissan Pulsar 1.8 ใหม่ ที่ทีมงานนิสสันแจกแจงให้ฟัง (รถยังไม่เปิดตัวจึงไม่มีเอกสารและข้อมูลทางเทคนิคเผยแพร่อย่างเป็นทางการ)
สำหรับการขับช่วงแรกต้องผ่านการจราจรหนาแน่น ผู้เขียนรับรู้ว่าพัลซาร์เป็นรถที่ควบคุมง่าย พวงมาลัยน้ำหนักกำลังพอดี (ไม่เบาหวิวเหมือนนิสสัน ซิลฟี) สั่งงานซ้าย-ขวาคมกริบ ผสานกับการเดินคันเร่ง ส่งแรงลงสู่ล้อคู่หน้าได้ทันใจ ทำให้การขับขี่คล่องตัว
ทัศนวิสัยด้านหน้าโปร่งชัด เบาะนั่งกดต่ำลงได้มาก(ผู้เขียนตัวใหญ่) พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง สามารถปรับท่านั่งและระยะการควบคุมพวงมาลัยให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ ส่วนมุมมองด้านหลังอาจจะบีบแคบตามสไตล์รถแฮทซ์แบ็ก แต่ไม่ถึงกับเป็นปัญหาในการขับขี่และการถอยจอด เรียกว่าทัศนวิสัยด้านหลังและมุมเสาร์ซี-พิลลาร์ ยังดีกว่ารถแฮทซ์แบ็กหลายๆ รุ่น
เหนืออื่นใด Nissan Pulsar ยังเป็นรถที่เก็บเสียงภายในห้องโดยสารยอดเยี่ยม โดยเสียงการจราจรจากภายนอกสะท้อนเข้ามาน้อย เช่นเดียวกับเสียงเครื่องยนต์และลมปะทะ
ส่วนช่วงล่างหน้าแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท หลังคานแข็งทอร์ชั่น บีม พร้อมเหล็กกันโคลง ไม่ได้เซ็ตมาแบบสปอร์ตแข็งเหมือนรูปลักษณ์ แต่กระนั้นก็หนึบเนียนกว่าทีด้าชัดเจน และน่าจะแน่นกว่าซิลฟีเล็กน้อยเสียด้วย (ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากขนาดยาง)
เช่นเดียวกับการเบรกที่ทำได้ประทับใจ น้ำหนักและการกดแป้นเบรกตอบสนองการชะลอหยุดได้แม่นยำตามความคาดหมาย และมีจังหวะนุ่มนวลกว่าซิลฟีที่ออกแนวหน้าทิ่มหัวจิก
สำหรับทริปนี้วิ่งทางตรงถนนยาวเป็นหลัก โดยเครื่องยนต์เบนซิน MRA8DE 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC (Twin Continuously-Variable Timing Control) ให้กำลังสูงสุด 131 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600รอบต่อนาที ประกบเกียร์อัตโนมัติ CVT ผสานการทำงานกันได้ไหลลื่น
โดยช่วงออกตัวของพัลซาร์ 1.8 ทำได้ดี มีแรงส่งจังหวะดึงให้กระปรี้กระเปร่า แต่ต้องยอมรับว่าอัตราเร่งในย่านความเร็วกลาง 60-70 กม./ชม.ยังมาค่อนข้างช้า แม้รอบจะดีดขึ้นไปรอแถว 4,000-5,000 รอบแล้วก็ตาม
ขณะที่ย่านความเร็วปลาย 120-140-160 กม./ชม.รถไหลไปได้ยาวๆ ส่วนความเร็ว 120 กม./ชม.รอบเครื่องยนต์จะอยู่ที่ 2,000 รอบ (เท่าซิลฟี) ที่สำคัญการทรงตัวของรถยังนิ่งแน่นให้ความมั่นใจ
ด้านอัตราบริโภคน้ำมันจากการขับนิ่งๆ (บนมอเตอร์เวย์) ที่ความเร็ว 120 กม./ชม.หน้าจอแสดงตัวเลข 14 กม./ลิตร แต่ถ้าดูตัวเลขสุดท้ายที่ผ่านทั้งรถติด และใช้ความเร็วสูง ยังทำได้ระดับ 12-13 กม./ลิตร สบายๆ
สำหรับราคายังไม่เปิดเผย และคงต้องรอถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 7 มีนาคม แต่คาดว่าน่าจะแพงกว่า นิสสัน ซิลฟี อย่างน้อย 30,000-40,000 (ในรุ่นเครื่องยนต์เดียวกัน) หรือตัวท็อปของพัลซาร์ราคาไม่เกินล้านแน่นอน
รวบรัดตัดความ…ลืมความเจ็บช้ำของ“ทีด้า”ไว้เบื้องหลัง เก็บรูปลักษณ์ใหม่ของความสปอร์ต เส้นสายเฉียบคมกับคอมแพกต์แฮทซ์แบ็กรุ่นเดียวในตลาดที่วางเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร โดดเด่นด้วยการควบคุมแม่นยำ คล่องตัว ช่วงล่างนิ่งยามขับทางไกล แม้สมรรถนะของขุมพลัง-เกียร์ ไม่ส่งให้การขับขี่จัดจ้านเท่าที่ควร แต่โดยรวมพัลซาร์ยังเป็นรถที่น่าสนใจไม่น้อย
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
เรียนลูกค้าที่สนใจ นิสสัน พัลซาร์
เตรียมพบกับการเปิดตัวรุ่นใหม่ของค่ายนิสสัน รุ่น นิสสัน พัลซาร์
วันที่ 8 มีนาคมนี้ ที่สยามพารากอน
ส่วนราคาที่แน่นอนจะมาบอกทุกท่านอีกทีคะ
ขอบคุณคะ ที่ให้ความสนใจกับรถยนต์นิสสันทุกรุ่น
ยินดีให้บริการคะ
อยากทราบราคาเต็ม? และราคาผ่อน ? การประหยัดน้ำมันเทียบกับซิลฟี ตัวไหน ประหยัดกว่ากันครับ
ตอบคุณ อ.ออ
เอ๋ยังไม่ทราบราคาที่แน่นอน แต่คิดว่าแพงกว่าซิลฟีนินึงคะ แต่ออฟชั่นโอเครเลย การประหยัดน้ำมันเหมือนซิลฟีคะเพราะเครื่องตัวเดียวกัน
ยังไงเอ๋จะมาบอกอีกทีนะคะ
ขอบคุณคะ