“2015 ISUZU D-MAX ใหม่” Turbo diesel 1.9 ลิตร เครื่องแรงขึ้น แถมประหยัดกว่าเดิม
วันนี้ (2 พ.ย.) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดงานเปิดตัวปิกอัพ “อีซูซุ ดีแมคซ์ ใหม่” ความน่าสนใจอยู่ที่การยกเลิกเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร และหันมาวางบล็อกใหม่ขนาด 1.9 ลิตร ในชื่อ “1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในวงการปิกอัพ พร้อมเคลมว่าให้พละกำลังดี ประหยัดน้ำมัน และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) น้อยที่สุดในรถระดับเดียวกัน พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ช่วงแรกเครื่องยนต์บล็อกนี้ ยังมีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 6 สปีด) ทั้งนี้อีซูซุยังคงทำตลาดเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตรเอาไว้ รวมถึงปรับรูปลักษณ์ภายนอกเล็กน้อย พร้อมออปชันอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารอย่างระบบความบันเทิง Isuzu Connect World เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน โดยตัวรถจะลงโชว์รูทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายนนี้
สำหรับ อีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ พัฒนาภายใต้แนวคิด “The Power of Less” มีเป้าหมายสำคัญสูงสุด 3 ด้านคือ กำลังเครื่องยนต์สูงสุด ค่ามลพิษต่ำสุด ประหยัดน้ำมันสูงสุด ซึ่งถือเป็นการใช้เครื่องยนต์ขนาดนี้กับรถปิกอัพเป็นครั้งแรกของโลก ทั้งยังพัฒนาระบบส่งกำลังใหม่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
เครื่องยนต์ “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” รุ่น RZ4E-TC ขนาด 1,900 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตรที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที
มาจากการคิดค้นและพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล ซูเปอร์คอมมอนเรลรุ่นใหม่ โดยเครื่องยนต์ใหม่ต้องมีแรงม้าและแรงบิดเพียงพอสำหรับรถปิกอัพขนาด 1 ตัน และสามารถรองรับการใช้งานกับรถบรรทุกขนาดกลาง ที่มีน้ำหนักบรรทุกรวมถึง 5 ตันได้ในอนาคต
ขณะเดียวกันเครื่องยนต์ใหม่ต้องมีค่ามลพิษต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมที่จะรองรับมาตรฐานสูงสุดระดับ EURO6 ในอนาคต และต้องมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน
คุณสมบัติอันโดดเด่นของเครื่องยนต์ “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์”
– เครื่องยนต์น้ำหนักเบาที่สุด (LESS Weight)
– ค่าแรงเสียดทานต่ำสุด (LESS Friction)
– ระดับเสียงเครื่องยนต์ต่ำสุด (LESS Noise)
– ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุด (LESS CO2)
– ค่าบำรุงรักษาต่ำสุด (LESS Maintenance)
แต่กลับให้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในทุกๆด้าน
– แรงม้าสูงสุด (MORE Power)
– แรงบิดสูงสุด (MORE Torque)
– ทนทานสูงสุด (MORE Durability)
– ประหยัดน้ำมันสูงสุด (MORE Fuel Efficiency)
– เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงสุด (MORE Environmental Friendliness)
พร้อมกันนี้ยังได้พัฒนาระบบส่งกำลังใหม่หมดเพื่อรองรับขุมพลังใหม่ ด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เพื่อก้าวสู่มาตรฐานที่เหนือกว่าทุกสถิติเดิม เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 2.5 Ddi VGS TURBO ขนาด 2,500 ซีซี
เครื่องยนต์ “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” เหนือกว่าเครื่องยนต์เดิม 2.5 Ddi VGS TURBO ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่น
– แรงม้าเพิ่มขึ้น 10%
– แรงบิดเพิ่มขึ้น 9%
– เร็วขึ้น 8% (จากการทดสอบอัตราเร่งช่วง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงโดยทีมวิศวกรอีซูซุ)
– น้ำหนักเบากว่าเครื่องยนต์เดิม 20% หรือลดลงถึงประมาณ 60 กิโลกรัม
– ค่ามลพิษต่ำสุด (โดยเฉพาะในรุ่นสปาร์ค มีค่า CO2 ต่ำเพียง 161 กรัม/กม. น้อยสุดในรถระดับเดียวกัน)
– ประหยัดน้ำมันขึ้น 19%
อย่างไรก็ตามอีซูซุยังมีเครื่องยนต์ “3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” รุ่น 4JJ1-TCX ที่ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการใช้งานที่ต้องการกำลังสูงเป็นพิเศษ
เมื่อวางเครื่องยนต์ใหม่ทั้งที อีซูซุ อีแมคซ์ ก็ได้ปรับโฉมเล็กน้อย ภายใต้แนวคิด “STRONG EMOTIONAL SPORTY” ด้วยเส้นสายแห่งดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกทรงพลังและพร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้า แต่ยังคงประสิทธิภาพความลู่ลมสูงสุดด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำสุดที่ยังคงช่วยให้ประหยัดน้ำมันสุด และเงียบสุด รวมทั้งภายในใหม่ ดีไซน์ที่ล้ำสมัย ต่อยอดความสะดวกสบายสูงสุดแบบฉบับอีซูซุ
– ไฟหน้าโปรเจคเตอร์โคมรมดำ ให้ความสว่าง คมชัด พร้อมไฟซูเปอร์เดย์ไลท์แบบ Built-in เทคโนโลยีล่าสุด ให้ความสว่างชัดเจนในเวลากลางวัน และเป็นไฟหรี่ในเวลากลางคืน
– กระจังหน้า ออกแบบใหม่หมด มีทั้งแบบโครเมี่ยมและสีเทา ขนาดใหญ่ขึ้น สะท้อนความดุดัน ทรงพลังยิ่งขึ้น
– ไฟตัดหมอก ดีไซน์ให้ลงตัวรับกับกันชนหน้าใหม่ โฉบเฉี่ยวเร้าใจ ให้ความมั่นใจ แม้ทัศนวิสัยไม่ดี
– ด้านท้ายออกแบบใหม่ พร้อม Build-in Spoiler ที่กระบะท้าย บึกบึนและดุดันมากขึ้น
– ล้ออัลลอยดีไซน์ล่าสุด ขนาด 18 นิ้ว แบบ 6 ก้าน พร้อมยางขนาด 255/60R18 เท่ ทรงพลัง เสริมให้รถดูบึกบึน ลุยได้สุดทาง ทุกสภาพถนน พร้อมดีไซน์โลโก้อีซูซุใหม่ ในแบบทูโทน เพิ่มความหรูหราไปอีกระดับ (สำหรับวี-ครอส 4×4 และไฮแลนเดอร์ รุ่น Z-PRESTIGE)
– ล้อขนาด 16 นิ้ว 2 ดีไซน์ใหม่ ยางขนาด 245/70R16 (สำหรับวี-ครอส 4×4 และไฮแลนเดอร์ รุ่น Z) ดีไซน์สปอร์ตแบบ 5 ก้าน โฉบเฉี่ยว สไตล์เรซซิ่ง ท้าทายความแรงได้ทุกเส้นทาง พร้อมยางขนาด 215/70R16 (สำหรับรุ่นแค็บโฟร์ และสเปซแค็บ)
– สติ๊กเกอร์ 4×4 ลวดลายใหม่ ดีไซน์ทันสมัย ลงตัวสูงสุดกับตัวรถ
– หนึ่งเดียวในวงการปิกอัพ เสาอากาศแบบ Shark Fin สีเดียวกับตัวรถ
ส่วนภายในได้ออกแบบตามหลัก Universal Design ของอีซูซุที่ได้รับการยอมรับว่า ใช้งานง่าย สะดวกสบาย ได้รับการพัฒนาไปอีกขึ้น เพิ่มความล้ำหน้าทันสมัยยิ่งกว่าเดิม เพิ่มเติมความหรูหราและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
– หน้าปัดเรืองแสงแบบ Super Vision พร้อม 3D Shape Point เพิ่มสีสัน ให้อารมณ์สปอร์ต ชัดเจนและสบายตากว่าเดิม พร้อมเติมเต็มฟังก์ชั่นและข้อมูลใหม่ๆ ที่มากขึ้นผ่านหน้าจอ Color Display MID เทคโนโลยีล่าสุดที่เติมเต็มความทันสมัยยิ่งขึ้น ใช้งานง่าย การค้นหาโหมดต่างๆ สะดวกเพียงปลายนิ้วสัมผัส แสดงข้อมูลการใช้งานครบครัน และใหม่ Genius Sport Shift ไฟบอกตำแหน่งเกียร์และแจ้งเตือนการเปลี่ยนเกียร์ในรอบและความเร็วที่เหมาะสม (ในรุ่นเกียร์ธรรมดา)
– Push Start ระบบสตาร์จอัจฉริยะ พร้อม Isuzu Genius Entry ระบบล็อกและปลดล็อกประตูอัตโนมัติ โดยไม่ต้องกดรีโมท พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น และระบบปรับความเย็นอัตโนมัติ (Auto Air Cooler)
– ล้ำสมัยสุดระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบกับ Isuzu Connect World เทคโนโลยีเชื่อมต่อสมบูรณ์แบบ เข้าถึงทุกข้อมูลและทุกความบันเทิงได้ง่ายดาย ด้วยการเชื่อมต่อกับ Smartphone ได้ทั้งระบบ iOS และ Android เชื่อมต่อให้ทุกผู้โดยสาร รถ และทั้งโลกเป็นหนึ่งเดียวกัน และระบบเสียงสมบูรณ์แบบด้วยลำโพงคุณภาพระดับ Hi-end กระหึ่มครบทุกมิติเสียงกับ Roof Speaker ครั้งแรกในวงการปิกอัพ และใหม่หน้าปัดเรืองแสง Super Vision ดีไซน์ใหม่ 3D Shape Point พร้อมหน้าจอ Color Display MID จอแสดงผลข้อมูลโฉมใหม่ ขนาดใหญ่ พร้อมฟังก์ชั่นการบอกข้อมูลได้มากขึ้น รวมทั้งคงไว้ซึ่งเทคโนโลยีอัจฉริยะ Isuzu Insight ที่พัฒนาไปอีกขั้น ให้สามารถดาวน์โหลดข้อมูล ดูพฤติกรรมการขับขี่ได้เองง่ายๆ ผ่านมือถือได้บ่อยเท่าที่ต้องการ เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่สูงสุด
“ISUZU D-MAX 1.9 ดีดีไอ และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” มีหลายรุ่น หลากการใช้งาน
– ดีแมคซ์ วี-ครอส 4×4
– ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์
– ดีแมคซ์ แค็บโฟร์
– ดีแมคซ์ สเปซแค็บ
– ดีแมคซ์ สปาร์ค 4×4
– ดีแมคซ์ สปาร์ค
พร้อม 2 สีใหม่ล่าสุด
– สีน้ำเงินบราซิลเลี่ยนควอตซ์เมทาลิค (Brazilian Quartz Metallic)
– สีเงินไอซ์เบิร์ก (Iceberg Silver)
ในการสื่อสารการตลาด บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัดจะใช้คำว่า “รุ่นใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ที่มาพร้อมราคาขาย 490,000 – 928,000 บาท และ “รุ่นใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ในราคา 573,000 – 1,004,000 บาท โดยรถจะพร้อมลงโชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายนนี้
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.manager.co.th
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
สนใจครับขอสอบถามราคาครับ
บอดี้สวยขึ้นครับ
numtiwakorn@gmail.com
ในที่สุดไฟตัดหมอกก็กลับมาอีกครั้ง
ขอรายละเอียด โบชัวร์ครับ
ผมขอสอบถาม Isuzu 1.9 ไฮแลนเดอร์ ราคารายละเอียดต่างๆหน่อยคับ สนใจมาก line:fulloption511
masamune776@gmail.com