
ทำความรู้จัก New Mazda3 อีกขั้นของเทคโนโลยีสุดล้ำ SKYACTIV VEHICLE DYNAMICS ที่มาพร้อมระบบ GVC
New Mazda3 ได้เปิดตัวกันไปแล้ว ซึ่งการเปิดตัวของรถยนต์ดังกล่าวนี้ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ ด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยให้กับรถในระดับ Compact Car บ้านเราเลยทีเดียว ซึ่งในวันนี้ทาง 9carthai ขอพาทุกท่านมารับชมกันครับว่า เจ้า New Mazda3 นี้มีอะไรปรับปรุงใหม่กันบ้าง และมันมีดีอย่างไร มาดูกันเลยครับ
เริ่มที่การออกแบบภายนอก ของ New Mazda3 ยังคงอยู่ในคอนเซ็ปต์ “โคโดะ ดีไซน์”
กระจังหน้า Signature Wing และไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ ทำให้ New Mazda3 ใหม่มีความดุดันจากรุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัดเจน
ส่วนเส้นสายด้านข้างตัวรถยังแสดงถึงความเคลื่อนไหวอันทรงพลัง นอกจากนี้การดีไซน์กระจังหน้ารูปแบบใหม่ ยังทำให้รถดูสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้านท้ายรถของทั้งรุ่น Sedan และ Hatchback ยังใช้เส้นสายที่ทอดจากด้านหน้า ด้านข้างอย่างลงตัว ทำให้ตัวรถดูกว้างขึ้นอีกด้วย
ส่วนล้อแม็กของ New Mazda3 มาพร้อมล้อขนาด 18 นิ้ว ลายใหม่ก็ออกแบบลายก้านพุ่งไปในทิศทางเดียวกัน
สีภายนอกของตัวรถมีทั้งหมด 7 สี คือ สีแดง โซล เรด, สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค รวมถึง 3 สีใหม่ คือ สีเทา เมทิเออ เกรย์ ไมก้า, สีดำ เจ็ทแบล็ก และสีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู
มาถึงภายในห้องโดยสาร New Mazda3 ออกแบบโดยเน้นพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น ห้องโดยสารภายในสไตล์ทูโทนตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม ประณีตหรูหราทุกรายละเอียด ในส่วนผู้โดยสารตอนหลังก็ให้ความรู้สึกที่เปิดโล่งและสะดวกสบาย เพิ่มพื้นที่สำหรับสัมภาระขนาดใหญ่ เพียงพับเบาะเป็นพื้นราบ 180 องศา หรือแยกพับซ้ายขวาอิสระตามต้องการใช้งาน
หน้าจอ Center Display ขนาด 7 นิ้ว แบบ Touch Screen พร้อมเทคโนโลยี MZD Connect เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์แม้ขณะอยู่ในรถ ระบบความบันเทิงในรถ และการเชื่อมต่อกับโลกโซเชียล ค้นหาข้อมูลได้แม้ในขณะเดินทาง ที่จัดวางได้อย่างลงตัว หน้าจอ Active Driving Display ถูกอัพเกรดใหม่เป็นหน้าจอสีที่เพิ่มความสว่าง ความคมชัดมากกว่าเดิม สัญญาณเตือนต่างๆจะเป็นสีแดงและเหลืองอำพัน แสดงข้อมูลได้ราบรื่นขึ้นและมองเห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม สามารถอ่านข้อมูลได้แม้เพียงปรายตามอง รูปทรงมาตรวัดและหน้าจอแสดงผลต่างๆ อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แต่หน้าจอ LCD ทั้งด้านซ้ายและขวาใช้ หน้าจอ VA แบบใหม่ที่ให้ความคมชัดมากกว่าและมุมมองที่กว้างกว่า การปรับแต่งเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอยรวมถึงดีไซน์ใหม่ของตัวอักษรที่มีรูปร่างแบนแต่ขนาดใหญ่ขึ้นบนมาตรวัดแบบอนาล็อก เมื่ออยู่รวมกับตัวอักษรของหน้าจอแสดงผลแล้วก็ช่วยให้อ่านง่ายขึ้น
อีกสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาใน New Mazda3 ก็คือ เบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake (EPB) เบรกมือไฟฟ้าที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายด้วยสวิตซ์ควบคุมบนคอนโซลกลาง โดยดึงสวิตซ์ขึ้นเพื่อเปิดใช้งานเบรกมือ และกดสวิตซ์หรือเหยียบคันเร่งเพื่อปลดเบรกโดยอัตโนมัติเมื่อต้องการออกตัว
เทคโนโลยีความปลอดภัยใน New Mazda3 ก็ติดตั้งมาอย่างครบถ้วน โดย Mazda ใช้ชื่อว่า i-ACTIVSENSE เป็นการเพิ่มระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Proactive Safety) เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งประกอบไปด้วย
• ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ
แยกอิสระซ้าย-ขวาอัตโนมัติ
• MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า
• SBS (Smart Brake Support) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ
• DAA (Driver Attention Alert) ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่
• LAS (Lane-Keep Assist System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
• LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน
• SCBS (Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ
• SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง
• ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
• RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
มาถึงไฮไลท์สำคัญของ New Mazda3 นั่นก็คือการติดตั้งระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ ที่มีชื่อว่า GVC หรือ G-Vectoring Control (จี-เวคเตอริ่ง คอนโทรล) ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวอยู่ในสาระบบใหม่ของ SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS (สกายแอคทีฟ-วีฮิเคิล ไดนามิกส์) นั่นเอง หลายๆ คนเริ่มสงสัยว่า SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS คืออะไร?
อธิบายง่ายๆ ใน New Mazda3 จะประกอบไปด้วยเทคโนโลยี SKYACTIV อยู่ 4 ส่วน ได้แก่ SKYACTIV Engine ระบบเครื่องยนต์ยุคใหม่ของมาสด้า, SKYACTIV-Drive ระบบส่งกำลังชุดใหม่ที่ออกแบบเพื่อรับกับเครื่องยนต์บล็อกใหม่, SKYACTIV-Body เป็นส่วนโครงสร้างตัวรถ, SKYACTIV-Chasis เป็นส่วนของช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวทั้งหมด และ SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS เป็นเทคโนโลยีชุดใหม่ที่ผสานการทำงานของทั้ง 4 ส่วนที่กล่าวมาข้างต้นเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ขับและรถเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น ตามแนวคิด จินบะ-อิไต
ส่วนระบบ GVC (G-Vectoring Control) จะเป็นระบบที่ทำให้เครื่องยนต์และช่วงล่างทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลายๆคนเริ่มตั้งตำถามแล้วว่า GVC ทำงานอย่างไรแล้วผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร อธิบายสั้นๆ ดังนี้ ระบบ GVC จะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ ให้สอดคล้องกับการหักเลี้ยวพวงมาลัย ในขณะที่รถกำลังจะเข้าโค้งหรือมีการหักเลี้ยวพวงมาลัย ระบบจะลดแรงบิดเพื่อถ่ายน้ำหนักมาที่ด้านหน้าของรถ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนและการตอบสนองที่ดีขึ้น และเมื่อพวงมาลัยกลับเข้าสู่ตำแหน่งตรง ระบบจะปรับแรงบิดกลับเข้าสู่ปกติ และถ่ายน้ำหนักกลับสู่ล้อหลัง เพื่อให้การออกจากโค้งเป็นไปอย่างนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีล้ำสมัยทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้ New Mazda3 โดดเด่นที่สุดในคลาสของ Compact Car เลยก็ว่าได้ แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ผมฝากเพื่อนๆ เชิญเข้าไปชมและ Test Drive ของจริง ได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศได้เลย หรือสนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mazda.co.th หรือ MazdaThailandOfficial Facebook, LINE, YouTube, Instagram
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
หน้ายาว…ไม่เห็นจะมีผลต่ออุบัติเหตุเลยนี่ครับ คนไทยติดใช้ดีไซน์รถยุ่นจนเคยตัว
ผมใช้รถมาหลายคัน หนึ่งในนั้นมี Mazda Cronos626 สมรรถนะหน้ายาวมากและสมมรถนะก็สุดยอด ช่วงล่างก็อิสระ 4 ล้อ ก็ไม่เคยขับชนอะไร
ล่าสุดผมเปลี่ยนจากยุ่นมาเป็นค่ายเยอรมัน BMW S5 หน้ายาวกว่าอีกก็ไม่เคยจะชนอะไร
Mazda เสียอย่างเดียวเรื่องการตลาดในไทยครับ
ที่เห็นได้ชัดเจนมากคือ…มันหน้ายาวมากไปเกินความพอดี…ก็รู้กันอยู่รถหน้ายาวมันสร้างอุบัติเหตุและสร้างปัญหาจราจรมากเป็นอันดับหนึ่งของบรรดารถยนต์
ผมใช้ mazda 3 โฉมนี้อยู่ ก็ไม่มีปัญหานะครับ ไม่เคยขับชนเลยครับ