รีวิว Kawasaki Z125 Minibike จิตวิญญาณ Z Series
Kawasaki Motors ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถ Minibike น้องใหม่ Kawasaki Z125 และ Z125 Pro เป็นครั้งแรกในโลกที่ Asiatique กทม. ประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 ตค. ที่ผ่านมาไม่นานนี้
สำหรับหลายคนที่สงสัย และสนใจใน Z125 Minibike คันนี้ วันนี้ 9carthai ของเราได้มีโอกาสมาทดสอบ Kawasaki Z125 ใหม่ รุ่น AutoClutch มาทำการ รีวิว Kawasaki Z125 ใหม่ คันนี้ เพื่อประกอบการสินใจกันครับ
รูปลักษณ์ Kawasaki Z125 ถือได้ว่าเป็น Minibike เชื้อสายตระกูล Z ที่ได้รับการถ่ายทอดรายละเอียดมาจากพี่ใหญ่ได้แก่ ไฟท้าย Z800,
การดีไซน์ปีกข้างและถังน้ำมันแบบ Z1000,
ท่อไอเสีย และไฟหน้าตามแบบฉบับ ER6n/6f พร้อมติดตั้งอกล่างรอมาแต่เกิด ถ้ามองเฉพาะทางด้านหน้าและข้าง เรายังคงมองว่ามันน่าจะถูกเรียก ER125 เสียมากกว่า Z125
สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจของ Z125 มีดังนี้
ติดตั้งอกล่างเสริมหล่อมาให้ ซึ่ง ไม่มี Minibike ในไซส์นี้คันไหนที่ติดตั้งมาให้ จากโรงงาน
เบาะนั่งแบบตอนเดียว ดีไซน์แยกชั้นเพื่อเพิ่มรูปลักษณ์สปอร์ต แต่ผู้ซ้อนอาจจะลำบากสักเล็กน้อย
พักเท้าผู้ขี่แบบเดียวกันกับ Ninja300/Z300 ซึ่งเราสัมผัสได้ถึงการวางเท้าในแบบรูปลักษณ์สปอร์ตในการขี่ได้ทันที
ล้อลวดลายเดียวกับ New KSR แต่ด้านหลังสวมล้อขนาดกว้างขึ้น ทำให้สวมยาง Tubeless จาก IRC NR77U (Wing) ด้านหน้า ขนาดเท่าเดิม 100/90-12 49J, แต่ล้อหลังสวมไซส์ใหญ่ขึ้นเป็น 120/70-12 51L
แผงหน้าปัดดูดีทันสมัย มาตรวัดแบบ Analog พร้อมจอ LCD แสดงผลความเร็วดิจิตอล เกจ์น้ำมัน สามารถเซ็ท Trip A, B ได้ ที่สำคัญมีไฟบอกเกียร์อีกด้วย
มีจุดหนึ่งที่ดูจะใช้งานลำบากไปหน่อย คือ รูกุญแจเปิดเบาะ ที่ซ่อนไว้ใต้บังโคลน ใต้เบาะทำให้เวลาจะไขเปิดอาจต้องก้ม หรือย่อตัวเมื่อยกันพอสมควร
ด้านมิติของ Kawasaki Z125 (ยาวxกว้างxสูง) = 1,700 มม.× 740 มม.× 1,005 มม. (Z125) และ 1,700 มม.× 750 มม.× 1,005 มม. (Z125 PRO)
โดยมีระยะฐานล้อ 1,175 มม. มีความจุถังน้ำมัน 7.4 ลิตร น้ำหนักตัว 101 กก. ความสูงเบาะ 780 มม.
สำหรับท่าทางการขี่นั้น การใช้แฮนด์บาร์ทรงสูง แต่ด้วยชุดแผงคอที่ดูเตี้ย จึงทำให้ตำแหน่งแฮนด์ยังถือว่าค่อนข้างต่ำ ซึ่งต่ำกว่ากระจกรถยนต์ปกติ ทำให้การขับขี่แทรกการจราจร สามารถหลบกระจกได้แต่ต้องระวัง กระจกมองข้างทรงเหลี่ยมที่ยื่นเกะกะออกมา มันจะอยู่ในระดับเดียวกับกระจกรถ SUV หรือ รถกระบะ พอดิบพอดี
ขณะที่ตำแหน่งท่านั่ง ด้วยเบาะสูงในระดับใกล้เคียง รถตระกูล 250/300cc ยังอาจทำให้ใครหลายคนที่ตัวเล็ก อาจจะมีเขย่งปลายขากันอยู่บ้าง ขณะที่ปีกข้างและถังน้ำมันก็มีส่วนเว้าโค้งที่รับกันกับช่วงหัวเข่าได้ดีในระดับหนึ่ง แต่การนั่งให้กระชับ และถูกต้อง นั้นอาจทำให้เวลาหักเลนเลี้ยววงแคบนั้น แฮนด์ยังมีติดหัวเข่าอยู่บ้าง สำหรับการขี่เดินทางไกล อาจมีเมื่อยก้นบ้าง แต่ระยะตำแหน่งแฮนด์ ไม่สูงไม่ต่ำ จึงทำให้ไม่เมื่อยไหล่มากนัก ในการขี่เดินทางออกทริป (ผู้เขียนสูง 174 ซม.)
เครื่องยนต์ของ Kawasaki Z125 เป็นเครื่องหัวฉีด 4 จังหวะ สูบเดียว ระบายความร้อนด้วยอากาศ SOHC 2 วาล์ว มีความจุ 125cc ให้กำลัง 7.0 kW (9.5 แรงม้า PS) มีอัตราส่วนแรงอัด 9.8:1 ระยะกระบอกสูบ x ช่วงชัก 56.0 มม. x 50.6 มม. ส่งกำลังผ่านเกียร์ 4 Speed แบบออโต้คลัทช์ ในรุ่น Z125 คันนี้จะมีลำดับเกียร์ N-1-2-3-4
ทันทีที่ติดเครื่องยนต์ เสียงท่อไอเสียที่ฟังดูอื้ออึงอยู่ภายใต้ท้องรถ อาจฟังดูแปลกๆ ไม่ชินหูนัก ซึ่งไม่เหมือนรถใหม่ๆ สมัยนี้ที่เงียบฉี่ยังกับเป็นรถไฟฟ้า
Z125 ในรุ่น ออโต้คลัทช์ คันนี้มีลำดับเกียร์เหมือน KSR โฉมแรก ที่ใช้การงัดเกียร์ขึ้นเพียงทางเดียว ใช้งานง่ายสะดวก
อัตราเร่งออกตัวช่วงต้น ถือว่าสนุกสนานทำได้จี๊ดจ๊าด พอสมควร การขี่เพื่อรีดสมรรถนะสูงสุด สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ที่รอบ 9,000rpm+ ก่อนเข้า Redline ซึ่งเราไม่แนะนำให้ลากไปเกือบชนเพดาน Redline เนื่องจากในจังหวะช่วงเปลี่ยนเกียร์ที่คลัทช์มีการหน่วงช้า อาจทำให้เสียจังหวะ เนื่องจากถูกตัดรอบ ไม่สามารถลากรอบไปได้เกินกว่านี้
การขับขี่ใช้งานแบบเน้นแรงบิด ที่ต้องการความต่อเนื่อง เราพบว่าสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ทันทีตั้งแต่ช่วง 6,000rpm ซึ่งเราพบว่าในช่วงนี้จะเป็นช่วงของ Torque Band ที่รีดแรงบิดได้อย่างต่อเนื่อง
ในการเปลี่ยนเกียร์ Z125 นั้นการงัดเท้าเพื่อขึ้นเกียร์อาจต้องกระดกข้อเท้ามากหน่อยจากตำแหน่งคันเกียร์ที่ตั้งให้อยู่ในระนาบเดียวกับพักเท้า ซึ่งจะสะดวกต่อการ Shift Down เกียร์ลงเสียมากกว่า การทำงานของระบบออโต้คลัทช์นี้ดูจะหนืดหน่วงสักเล็กน้อย ซึ่งเราก็พบว่ามันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อดี คือ มันทำหน้าที่ในการเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างสมูทนุ่มนวล ช่วยลดอาการดึงจากแรง Engine Brake ลงไปได้พอสมควร แต่ข้อเสียก็คือ ในการลดเกียร์ลง หรือจังหวะงัดเกียร์ขึ้น อาจจะดูหน่วงๆ และช้าไปเล็กน้อยชั่วจังหวะหนึ่ง
นอกจากนี้จุดที่ผู้เขียนชอบมาก ก็คือมาตรวัดที่มีตัวเลขบอกเกียร์ ทำให้เราไม่ต้องมาเตะหาเกียร์ 5 สมัยเหมือนขี่ KSR อีกต่อไป เพราะ ตัวเลขจะโชว์ตำแหน่งเกียร์ 4 คือ เกียร์สูงสุดของรถคันนี้แล้ว
สำหรับตัวเลข Top Speed ซึ่งทาง Kawasaki เคลมที่ 99 กม./ชม. ผู้เขียนสามารถทำได้ 104 กม./ชม. ซึ่งเราอยากผู้ที่สนใจ Z125 นี้ โฟกัสสมรรถนะในเรื่องของอัตราเร่งอันจี๊ดจ๊าด เหมาะแก่การขี่ในเมืองเสียมากกว่าความเร็วปลายกับรถ Minibike ที่สวมล้อขอบ 12” เช่นนี้ เพราะหากคุณอยากเค้นตัวเลข Top Speed ที่สูงกว่านี้ คงต้องไปไล่สเตอร์ และทางเดินไอเสียกันเพิ่ม
*สำหรับความเร็วระดับ 100 กม./ชม. จะใช้รอบเครื่องอยู่ราว 9,000rpm
ระบบกันสะเทือน โครง Z125 ใช้เฟรมแบ๊คโบนจากเหล็กกล้าไฮเทนไซส์ โช้คหน้าแบบ UpSideDown ขนาดแกน 30 มม. สีทองน้ำตาลไหม้โดนใจ, โช้คหลังเดี่ยวออฟเซ็ตแนวนอนพร้อมปรับ Preload ได้ 4 ระดับในตัว
การขับขี่เมื่อขี่คนเดียว ช่างสนุกสนาน จากความหนึบ พอตัว นอกจากนี้ยังสามารถปรับขันตามต้องการเองได้ด้วยประแจคอม้า ซึ่งหากขี่ใช้งานคนเดียวทั่วๆ ไปต้องถือว่ามันเพียงพอ โดยจะแตกต่างจากคู่แข่ง หรือ โฉม KSR ที่โช้คอัพหลังช่างดูย้วย นิ่มเกินไป ซึ่งต้องขอบคุณองศาในแนวนอนเช่นนี้ด้วย ที่ช่วยให้ประสิทธิภาพของช่วงล่างนี้ มันดูโดดเด่นกว่าคู่แข่ง และ KSR อย่างชัดเจน (โช้คเดิมๆ)
ขณะที่ตัวเนื้อยาง IRC Wing ที่ หลายคนชอบไปเปลี่ยนใส่ใน KSR หรือ MSX ได้ติดตั้งมาให้จากโรงงาน ช่วยให้การยึดเกาะดีกว่ายาง IRC ติดรถใน KSR และ Vee Rubber ติดรถ MSX อย่างสัมผัสได้ ถือเป็นอีกจุดที่น่าประทับใจ
ระบบห้ามล้อ Z125 ติดตั้งดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวขนาดจาน 200 มม. คาลิปเปอร์ ลูกสูบเดี่ยว จาก Nissin และดิสก์เบรกเดี่ยวขนาดจาน 184 มม. คาลิปเปอร์ ลูกสูบเดี่ยว
Z125 ให้ฟีลลิ่งในการเบรกที่ดูแน่นมีน้ำหนัก แม้จะใช้ปั๊มเบรกเพียง 1 ลูกสูบ แต่จุดสังเกตุที่เราพบ การชะลอความเร็วด้วยเบรกหน้าจะต้องกดก้านเบรกลงลึกไปหน่อย ในขณะที่เบรกหลังดูจะ Sensitive ไปนิด เมื่อ เบรกหลังหนักๆ อาจมีการล๊อค สไลด์เอาได้ง่าย
สรุป Kawasaki Z125 ใหม่ ในโฉม ออโต้คลัทช์นี้ ถือเป็นรถ Minibike ที่มีการดีไซน์โดดเด่น โดยการนำแรงบรรดาลใจจากรุ่นพี่อย่าง ER-6n, Z800, Z1000 พร้อมออปชั่นที่น่าสนใจ ขณะที่สมรรถนะในการขับขี่ก็ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะระบบกันสะเทือนที่ คุณไม่ต้องไปปรับเปลี่ยนอะไรเพิ่มเติม ก็ขี่สนุกให้ความมั่นใจได้
ด้วยราคาเปิดตัวราว 7.5 หมื่น ที่หลายคนมองว่ามันแพง ผู้ที่สนใจควรมาลองสัมผัส กับ Kawasaki Z125 ด้วยตนเองอีกครั้ง เพราะการที่ผู้เขียนได้สัมผัสเจ้า Minibike Z125 คันนี้ แล้วต้องบอกเลยว่า มันทำให้อยากกลับมาเล่น Minibike อีกครั้งหนึ่ง!
จุดเด่น
จุดที่อยากให้มีเพิ่มเติม
ขอขอบคุณ Kawasaki Motoaholic สำหรับ รีวิว Kawasaki Z125 ที่เอื้อเฟื้อรถ Kawasaki Z125 สี เทา Metallic Graphite Gray ราคา 74,990 บาท
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Kawasaki Z125 Minibike จิตวิญญาณ Z Series "