รีวิว Honda Rebel 500 ขี่ Bobber ตัวเท่ แบบ 1st Impression “คลาสสิคอย่างมีสไตล์”
เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา Honda Rebel ใหม่ ได้ถูกแนะนำครั้งแรกในโลกที่งาน Motorcycles Lives ณ ประเทศอังกฤษ และหลังจากนั้นเพียงไม่ถึง 10 วัน ทาง A.P.Honda ก็ได้เปิดตัวจำหน่ายในไทยเป็นแห่งแรกในโลกเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมแก่บรรดานักบิด ที่ไม่จำกัดกฎเกณฑ์อยู่แต่ในกรอบ
เมื่อวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ ทางทีมงาน 9carthai เราได้มีโอกาสร่วมทริปทดสอบ Honda Rebel 500 ใหม่ ในงาน Rebel Exclusive Trip เส้นทาง กทม.-ราชบุรี สวนผึ้ง เพื่อเดินทางไปร่วมงาน Gypsy Carnival ดังนั้น ทางเราจะขอมารีวิว Rebel 500 ใหม่ ให้เพื่อนๆ ผู้สนใจรับชมกันครับ
รูปลักษณ์ Honda Rebel 500 รถมอเตอร์ไซค์สไตล์ Bobber จากค่ายปีกนก ใช้พื้นฐานจาก Honda 500 Series ที่ทำตลาดในบ้านเรามานานหลายปี ได้พัฒนาปรับแต่งรูปลักษณ์ใหม่ได้เป็น Honda Rebel 500 คันนี้ขึ้นมา
ไฟหน้าทรงกลมสไตล์คลาสสิค
ไฟท้ายทรงเหลี่ยมแบบคลาสสิคนิยมเช่นกัน
ถังน้ำมันเพรียวบางสไตล์มินิมอล
เบาะนั่งผู้ซ้อน ถอดได้
มาตรวัดถ้วยกลม แบบดิจิตอลบอกความเร็วเป็น กม./ชั่วโมง น่าเสียดายไม่มีมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ ด้านซ้ายสเกลวัดน้ำมัน ขวาบนนาฬิกา ด้านล่างตัวเลขบอกจำนวนตัวเลขไมล์ที่วิ่ง สามารถเซ็ต Trip 1 และ 2 ได้ ในส่วนของรอบนอกด้านล่างจะเป็นไฟบอกเกียร์ว่าง ไฟเตือนน้ำมันเครื่องพร่อง ไฟบอกการทำงานของ ABS ด้านบน ไฟแสดงการใช้ไฟสูง และ ไฟเลี้ยว
สวิทช์ไฟซ้าย มีปุ่มไฟสูง-ต่ำ ซึ่งใช้เป็นไฟ Pass ได้ในตัว มอบความสะดวก
สวิทช์ไฟขวา มีไฟ Hazard ให้ด้วย
ในส่วนของท่านั่ง ด้วยความสูงเบาะเพียงแค่ 690 มม. Rebel 500 จังดูเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ทุกเพศ ทุกวัย อาจจะมีปัญหาสำหรับผู้มีความสูงประมาณ 180+ เวลาเดินทางไกลด้วยตำแหน่งพักเท้าเดิมอาจเมื่อยขานิดหน่อย สำหรับใช้งานในเมืองทำได้สบาย
ตัวถังน้ำมันมีความเพรียวบางทำให้นั่งแนบเข่าได้ค่อนข้างกระชับ และทำให้ตัวรถมีความคล่องตัวมากพอสมควร
ตำแหน่งแฮนด์ก็ดีไซน์ออกมาขี่สบาย แฮนด์ไม่ยาวไม่กว้างเกินไป เดินทางไกลไม่เมื่อย แต่ในช่วงความเร็วสูงๆ จะพบแรงปะทะลมอยู่บ้าง ซึ่งก็ถือเป็นปกติสำหรับสไตล์นี้ อาจมีเมื่อยก้นบ้างเมื่อต้องขี่กันยาวนาน แต่โดยรวมเบาะก็ถือว่านิ่มพอควรไม่แข็งจนเกินไปนัก
เครื่องยนต์ความจุ 471cc. แบบ 2 สูบเรียง บล็อกนี้ เป็นที่ประจักษ์กันดีในด้านของสมรรถนะ ที่พบใน Honda 500 Series โมเดลอื่นๆ เพราะมันได้ถูกปรับจูนใหม่ให้เข้ากับรถ Rebel 500 แม้ว่าแรงม้าสูงสุดจะลดลงเล็กน้อย แต่ก็ปรับจูนให้ได้แรงบิดเพิ่มขึ้นอีกหน่อย จากการทดสอบผู้เขียนรู้สึกว่าอัตราเร่งช่วง ต้น-กลาง นั้นทำได้ดี มีแรงบิดให้ใช้งานในย่านการเดินทางอย่างเพียงพอ เมื่อขี่ในรูปแบบขบวนที่ใช้ความเร็วเฉลี่ย 100-120 กม./ชม. และมีบางจังหวะหวดความเร็วสูงไปถึงระดับ 160 กม./ชม. ซึ่งก็พบว่าไม่ต้องรีดเค้นกันมากนัก ผู้เขียนพบว่าอาการเครื่องเริ่มตื้อๆ ช่วง 170+ และที่ความเร็วสูงๆ จะพบอาการสั่นของเครื่องบล็อกนี้ขึ้นมาให้สัมผัสกันถึงบริเวณแฮนด์อยู่บ้าง
แต่ก็ยังรู้สึกเช่นเคยว่าตระกูล Honda 500 นี้ อาจไม่เร้าใจในช่วงรอบเครื่องยนต์ปลายนัก จากการที่รอบมาไวหมดไว เพราะมี Redline เพียง 8,500rpm แต่ข้อดีคืออัตราสิ้นเปลืองที่อยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ
ขณะที่ซุ่มเสียงพบว่า Rebel 500 นั้น มีเสียงที่ฟังดูหนักแน่น Honda 500 Series โมเดล อื่นๆ ฟังดูดุดันกำลังดีเลยสำหรับท่อเดิม
ส่วนท่อตัวแต่งนั้น เสียงค่อนข้างดัง แต่อยู่ในระดับที่กำลังดี และยังคงความสุภาพไม่ดังลั่น หรือดังแบบดุๆ อย่างพวกตระกูลสูบวี
สำหรับระบบกันสั่นสะเทือน ของ Rebel 500 ถูกยกมาจาก CBR500R ด้านหน้าเป็นแบบ Telescopic Forks 41 มม. แต่ถูกปรับระยะยุบให้เพิ่มขึ้นเป็น 121 มม. และ มีการปรับองศาแผงคอใหม่ให้มีองศามากขึ้น เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในทางตรง ระบบกันสะเทือน ด้านหลัง Twin shocks ที่สามารถปรับได้ถึง 5 ระดับ ยึดระหว่างตัวซับเฟรมและสวิงอาร์มแบบใหม่ ถูกปรับรูปทรงให้มีความโค้งมนมากยิ่งขึ้น ส่วนระยะยุบของตัวโช้กนั้นอยู่ที่ 95 ม.ม. จากการทดสอบช่วงล่างถือว่าหนึบกำลังดี ขึ้นอยู่กับน้ำหนักที่ โหลด ณ ขณะวิ่งด้วย ผู้เขียนขี่เพียงคนเดียวไม่มีผู้ซ้อน ถือว่ามั่นใจได้ดี แต่ถ้ามีน้ำหนักโหลดเพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นผู้ซ้อน หรือ บรรทุกสัมภาระหนักๆ ก็อาจต้องปรับความแข็งเพิ่มอีกหน่อย เพราะการเซ็ทเดิมๆ ตามมาตรฐานโรงงาน อาจจะนิ่มนวลไปนิด
นอกจากนี้การเข้าโค้งนั้น ก็ทำได้ง่ายดาย ด้วยตัวรถที่เพรียวเบา เตี้ย จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้พลิกโค้งได้ง่ายดาย ไม่ยากเหมือนรถครุยเซอร์ขนาดใหญ่ รวมถึงตำแหน่งพักเท้าที่ใกล้เคียงกับรถสไตล์ Naked ทั่วไป (ไม่ยื่นไปด้านหน้าเหมือนรถครุยเซอร์ อื่นๆ) จึงทำให้การจัดท่าเข้าโค้งทำได้ง่ายด้วย
ด้านระบบเบรก ปั๊มเบรกหน้า-หลัง Nissin ระบบเบรกด้านหน้านั้นเป็นแบบจานเดี่ยวขนาด 296 mm ทำงานคู่กับคาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังเลือกใช้จานเบรกขนาด 220 mm ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ มาพร้อมกับระบบ ABS เป็นออพชั่นพื้นฐานทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หยุดชะลอรถได้มั่นใจหายห่วง ก้านเบรกปรับระดับได้ 5 ระดับ เข้ากับมือของแต่ละคน แต่น่าเสียดาย ฝั่งก้านคลัชน่าจะปรับระดับได้ด้วย
สรุป Honda Rebel 500 รถ Bobber สุดเท่ที่ออกแบบผสมผสาน ได้อย่างลงตัวสะท้อนไลฟ์สไตล์ นักบิดนอกกรอบ อีกทั้งยังสามารถ Custom ได้ตามความชอบส่วนตัวของผู้ขับขี่ได้อีกด้วย ด้วยกำลังเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงขนาด 471cc กับน้ำหนักตัวรถเมื่อรวมของเหลวนั้นอยู่เพียง 185 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าไม่หนักเลยเมื่อเทียบกับรถตระกูล 500 Series คันอื่นๆ ทำให้อัตราเร่งนั้นรีดทอร์คออกมาได้ดี ท่านั่งการขับขี่สบายสไตล์ Honda เป็นมิตรต่อผู้ขับขี่มากที่สุดตลอดจนสามารถใช้เป็น Everyday Bike ได้สบาย และขี่รถท่องเที่ยวเดินทางก็ทำได้ครอบคลุม
จุดเด่น
ข้อสังเกต
Honda Rebel 500 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเทาด้าน, สีแดง และสีดำ โดยมีราคาจำหน่ายที่ 220,000 บาท พร้อมรุ่นพิเศษ Rebel Uncommon Edition ซึ่งเป็นล็อตแรกของโลกที่ผลิตออกจำหน่ายด้วยจำนวนจำกัด 200 คัน สนนราคาที่ 237,000 บาท
ขอขอบคุณ A.P.Honda และ Honda BigWing สำหรับทริปทดสอบในครั้งนี้
Amphol Moolthongsuk Test Driver & Photo
ภณ เพียรทนงกิจ Editor
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Honda Rebel 500 ขี่ Bobber ตัวเท่ แบบ 1st Impression “คลาสสิคอย่างมีสไตล์” "