น้ำมันหล่อลื่นเกรดพรีเมียม ‘FURiO’ (ฟิวริโอ้) ขีดสุดเทคโนโลยีการปกป้อง จากสนามแข่งสู่รถคุณ

น้ำมันหล่อลื่นเกรดพรีเมียม ‘FURiO’ (ฟิวริโอ้) ขีดสุดเทคโนโลยีการปกป้อง จากสนามแข่งสู่รถคุณ

หลายคนที่ใช้รถยนต์อยู่เป็นประจำ คงทราบดีว่าองค์ประกอบสำคัญที่มีส่วนช่วยให้รถคู่ใจของคุณใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นก็คือ ‘น้ำมันหล่อลื่น’ แต่บางคนอาจรู้เพียงว่าช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ที่เคลื่อนไหวและลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์เท่านั้น แต่หากลงลึกรายละเอียด น้ำมันหล่อลื่นยังมีคุณสมบัติมากมาย ไม่ว่าจะเป็นป้องกันการสึกหรอ ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ช่วยระบายความร้อนที่เกิดขึ้นกับชิ้นส่วนและควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้เหมาะสม อย่างไรก็ตาม วิวัฒนาการของยานยนต์มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เห็นได้จากมีรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันหล่อลื่น จึงคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงขึ้นควบคู่ไปด้วย เพื่อให้สามารถรองรับเทคโนโลยีของเครื่องยนต์รถรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติใกล้เคียงกันแต่คุณภาพและการปกป้องต่างกัน
ผู้ใช้รถหลายคนอาจเข้าใจว่า น้ำมันหล่อลื่นที่จำหน่ายทั่วไปในตลาด แต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน  ซึ่งในความเป็นจริงนั้นมีความแตกต่างของส่วนผสม เช่นเดียวกับน้ำมันหล่อลื่นเกรดพรีเมียม ‘FURiO’ (ฟิวริโอ้) ที่บางจากฯได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Evolving Greenovation โดยเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นที่ผลิตออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและเทคโนโลยีของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ที่ต้องการน้ำมันหล่อลื่นที่มีคุณสมบัติปกป้องเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี จึงได้พัฒนา ‘Respoplex Technology’ โมเลกุลอัจฉริยะ มาเป็นองค์ประกอบสำคัญของส่วนผสม มีประสิทธิภาพด้านการปกป้องการสึกหรอของเครื่องยนต์ และช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นภายในเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานในทุกสภาวะการขับขี่

มั่นใจด้วยการพิสูจน์จากสังเวียนมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก
จะดีแค่ไหนหากน้ำมันหล่อลื่นที่คุณเลือกใช้ ผ่านการพิสูจน์คุณภาพจากสนามแข่งรถที่แสนทรหดระดับโลก ซึ่งน้ำมันหล่อลื่นมีความสำคัญอย่างยิ่งกับการแข่งขัน เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งรถแข่งนั้นใช้เครื่องยนต์ที่ได้รับการโมดิฟายจึงมีรอบเครื่องที่สูงกว่ารถปกติ หากว่าคุณภาพน้ำมันหล่อลื่นไม่ดี ย่อมส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้ นอกจากนี้ยังส่งผลต่อพละกำลังโดยตรง เนื่องจากการเร่งในจังหวะสำคัญๆ ในสนามนั้น ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยแม้เพียงเสี้ยววินาทีนับว่ามีผลต่อการแข่งขันทั้งสิ้น เช่นเดียวกับการขับขี่บนถนนในเมืองไทยนั้นก็มีความโหดไม่แพ้กัน เพราะด้วยอากาศที่ร้อนระอุและการจราจรที่ติดขัด เครื่องยนต์ทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนและการสึกหรอสูงเช่นเดียวกัน

FURiO ได้พาทีมรถแข่งพิสูจน์ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในการแข่งขันสุดหฤโหด ณ เมืองเลอม็อง ประเทศฝรั่งเศส ที่มีระยะทางกว่า 5,000 กิโลเมตร วิ่งต่อเนื่อง 367 รอบ เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งเครื่องยนต์ต้องทำงานหนักและรอบเครื่องยนต์สูงตลอดเวลา รวมทั้งได้ทดสอบประสิทธิภาพด้านการปกป้องการสึกหรอ กำลังของเครื่องยนต์ และการเสื่อมสภาพของน้ำมันด้วยเครื่อง Dyno Test พบว่ากำลังของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 8 แรงม้า

นอกจากนี้ จากผลการวิเคราะห์ด้านปกป้องการสึกหรอและการเสื่อมสภาพของน้ำมัน พบว่า น้ำมันหล่อลื่นเกรดพรีเมียม FURiO มีประสิทธิภาพสูงกว่ามาตรฐาน API SN ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดในปัจจุบัน รวมทั้งยังผ่านมาตรฐานของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ เช่น Porsche, Mercedes Benz, Volkswagen, Volvo เป็นต้น

สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน
FURiO ยังมีความพิเศษสุดด้วยนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่มีกรวยสำหรับเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นส่วนตัว เพื่อให้มั่นใจในความสะอาดของน้ำมันหล่อลื่นจากบรรจุภัณฑ์ส่งผ่านถึงเครื่องยนต์ ซึ่งจะช่วยป้องกันการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกในขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอ และยังเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น โดยน้ำมันหล่อลื่น FURiO มีทั้งสำหรับเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ประกอบด้วยสูตร F1 ซึ่งเป็นน้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ 100% และสูตร F2 ที่เป็นกึ่งสังเคราะห์ FURiO ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันให้ยาวนานขึ้น ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคและดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

การเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่นมีผลต่อประสิทธิภาพและการทำงานของเครื่องยนต์โดยตรง
ในการเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่น นอกจากคุณภาพและแบรนด์ที่น่าเชื่อถือแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ คุณสมบัติของน้ำมันหล่อลื่นนั้นๆ ด้วย โดยเฉพาะ ‘ประเภทน้ำมันหล่อลื่น’ และ ‘ค่าความหนืด’ โดยประเภทน้ำมันหล่อลื่นแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์แท้ 100%  น้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์ และน้ำมันหล่อลื่นแบบธรรมดา โดยน้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์แท้ 100% จะมีรอบระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายที่ยาวนานที่สุด มีราคาสูงที่สุด เมื่อเทียบกับอีก 2 ประเภทดังนั้นผู้ใช้รถควรพิจารณาว่าใช้น้ำมันหล่อลื่นประเภทไหนถึงจะคุ้มค่า เมื่อเทียบคุณสมบัติ ระยะเวลาการเปลี่ยนถ่าย

ตัวเลขตัวบ่งบอกค่าความหนืด
ค่าความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิ ซึ่งน้ำมันหล่อลื่นเกรดรวมจะปกป้องได้ในช่วงอุณหภูมิที่กว้างกว่าเกรดเดี่ยว โดยค่า SAE หรือ Society of Automotive Engineers จะแสดงถึงค่าความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นที่อุณหภูมิสูงและต่ำ ดังนั้นค่าความหนืดบนกระป๋องน้ำมันหล่อลื่นจึงมีตัวเลข 2 ตัว

โดยตัวเลขตัวแรกที่นำหน้า W คือ ระบุถึงค่าความหนืดของน้ำมันที่อุณหภูมิต่ำ (W ย่อมาจาก Winter) ฉะนั้นยิ่งตัวเลขยิ่งต่ำน้ำมันก็จะยิ่งมีค่าความหนืดต่ำตามไปด้วย เมื่ออุณหภูมิต่ำน้ำมันหล่อลื่นมีค่าความหนืดต่ำ ก็จะสามารถไหลไปหล่อลื่นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้ง่ายและเร็วขึ้น เพื่อการปกป้องเครื่องยนต์ในขณะสตาร์ท แต่หากน้ำมันหล่อลื่นมีค่าความหนืดสูงที่อุณหภูมิต่ำก็ส่งผลให้การไหลไปหล่อลื่นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ไม่ช้าและดึงกำลังเครื่องยนต์

สำหรับตัวเลขตัวที่สอง ระบุถึงสภาวะความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ตัวเลขตัวที่สองนี้  ถ้าต่ำเกินไปจะหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้ไม่เต็มสมรรถนะ แต่ถ้าสูงเกินไป ก็จะส่งผลต่อความสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นควรต้องเลือกให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์หรือตามคำแนะนำของคู่มือการใช้รถ

น้ำมันหล่อลื่นเกรดพรีเมียม FURiO ใหม่ มีจำหน่ายแล้วที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ร้านจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์

ติดตามข้อมูลดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ http://furio.bangchaklubricants.com/th/