FORD เปิดตัว RANGER ใหม่ ขุมพลัง 2.0 ลิตร Bi-Turbo 213 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมทางเลือก 20 รุ่นย่อย
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้ พร้อมนำเสนอรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยยิ่งขึ้น มอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น สร้างนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ รุ่นใหม่นี้ สานต่อศักยภาพและสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ทั้งบนทางเรียบและแบบออฟโรด เพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างลงตัว
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งหมด 20 รุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่นไวล์ดแทรค XLT, XLS และ XL กระบะฐานล้อสั้น (Short Wheel Base) และรุ่นใหม่ ‘ลิมิเต็ด’ (Limited) และยังรวมถึง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่ผลิตจากโรงงานรุ่นแรกและรุ่นเดียวของเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งได้เปิดตัวไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
รูปลักษณ์ของเรนเจอร์ใหม่ได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อสื่อถึงความสมบุกสมบันแบบออฟโรดและความโฉบเฉี่ยวยามอยู่บนท้องถนนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เริ่มจากกระจังหน้าที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่มีมิติที่เด่นชัด และกันชนล่างปรับให้ช่องนำอากาศกว้างขึ้นด้วยดีไซน์ที่ลงตัว เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค และรุ่น Limited มาพร้อมไฟเดย์ไลท์ LED และไฟหน้า HID เพื่อทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้น
เพิ่มความเท่ด้วยการตกแต่งเส้นสายด้วยโครเมียมในเรนเจอร์ XLT และ Limited รวมไปถึงการตกแต่งแบบโดดเด่นในเรนเจอร์ ไวล์ดแทรค สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละรุ่นได้เป็นอย่างดี เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค ยังมาพร้อมสีภายนอกใหม่เฉพาะรุ่น นั่นคือสี ‘เซเบรอ’ สีส้มประกายบลอนด์ ซึ่งตัดกันอย่างงดงามกับกระจังหน้าสีเทาเข้ม สปอร์ตบาร์และล้ออัลลอย 18 นิ้ว ยังช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องโดยสารของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน ทั้งในวันทำงานที่หนักหน่วง การเดินทางไกลในช่วงสุดสัปดาห์หรือการผจญภัยแบบออฟโรด ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางของเรนเจอร์ตกแต่งในโทนสีดำ พร้อมพื้นผิววัสดุตรงจุดสัมผัสที่ทนทานเพื่อคุณภาพการใช้งานที่ยาวนาน พร้อมเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งรายละเอียดด้วยโครเมียมและการเดินด้ายสีเงิน นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกสบายและเป็นส่วนตัว รวมถึงได้รับความบันเทิงสูงสุด ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังเพิ่มระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (Active Noise Cancellation) ในรุ่นไวล์ดแทรค ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออีกด้วย ควบคุมทุกสถานการณ์ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่มอบความสะดวกสบายด้วยกุญแจอัจฉริยะ (PEPS) และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Limited และรุ่นไวล์ดแทรค
ระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto พร้อมบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถเมื่อออกนอกพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ นอกจากนี้ ระบบซิงค์ 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียงและระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทยเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น นอกจากนี้ระบบซิงค์ 3 ยังครอบคลุมไปถึงระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ซึ่งจะทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธภายในรถ เพื่อติดต่อไปยังหมายเลข 1669 ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัยทำงานหรือระบบตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบช่วยโทรฉุกเฉินนี้จะติดตั้งมากับรถฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ทุกคันที่ใช้ระบบซิงค์ 3
เครื่องยนต์ไบเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ใช้ระบบ Sequentail Turbocharging ที่ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์ทั้ง 2 ตัว เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพและมอบสมรรถนะสูงสุด โดยเทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวแรกเป็นแบบเทอร์โบแปรผัน (Vartiable Turbocharger) จะช่วยเร่งการตอบสนองของคันเร่ง และลดช่วงการรอรอบ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดและแรงม้าสูงแม้ตอนใช้ความเร็วต่ำ ในขณะที่เทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวที่สองซึ่งเป็นระบบเทอร์โบ Fixed-geometry จะรับหน้าที่ต่อเพื่อเพิ่มกำลังและความเรียบลื่นให้กับเครื่องยนต์ขณะใช้ความเร็วสูง ด้วยแรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที เครื่องยนต์ไบเทอร์โบมอบแรงบิดที่เหนือกว่า และอัตราทดเกียร์ที่แคบลงของเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด จะช่วยเพิ่มพลังและแรงเร่ง ทำให้การไต่เขาที่ลื่นและสูงชันง่ายดายยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์และไวล์ดแทรค ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ยังคงสมรรถนะที่เหนือชั้นในการบรรทุกและลากจูงได้สูงสุดถึง 3,500 กิโลกรัม
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ในรุ่นไวล์ดแทรค 4×2 และรุ่นใหม่ลิมิเต็ด (Limited) มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดที่ล้ำหน้าของฟอร์ด มอบกำลังสูงถึง 180 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Limited ยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือกอีกด้วย ส่วนรุ่น XLT XLS และ XL มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบมอบกำลัง 160 แรงม้า และแรงบิด 385 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
เครื่องยนต์ของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่
2.2 ลิตร 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ/นาที 385 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,500 รอบ/นาที
2.0 ลิตร เทอร์โบ 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที
2.0 ลิตร ไบ-เทอร์โบ 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มาพร้อมระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ที่ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจจับคนเดินถนนและยานพาหนะด้านหน้า และจะทำการช่วยเบรกจนหยุดนิ่งเมื่อระบบพบว่าคนขับไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนนลง โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน (Lane Departure Warning) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ยังคงมีอยู่ในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เช่นเดิม
เทคโนโลยีเที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ซึ่งได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถระดับเดียวกัน ยังรวมถึงระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Active Park Assist – APA) ซึ่งช่วยให้การเทียบจอดรถข้างทางเป็นเรื่องง่าย โดยระบบกึ่งอัตโนมัติจะบังคับทิศทางของรถให้เข้าสู่ช่องจอด ผู้ขับขี่เพียงควบคุมคันเร่งหรือเบรกเท่านั้น นอกจากนี้ เรนเจอร์รุ่นไวล์ดแทรค และ LTD มาพร้อมระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย (Easy Lift Tailgate) ครั้งแรกในตลาดรถกระบะ ด้วยกลไกซึ่งช่วยผ่อนแรงของผู้ใช้ลง 70 เปอร์เซ็นต์ ช่วยให้เปิดปิดฝากระบะท้ายง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
พิเศษสุด ฟอร์ด เรนเจอร์ยังเพิ่มระบบพวงมาลัยไฟฟ้าในรุ่น XL และ XLS ถือเป็นครั้งแรกของตลาดรถกระบะระดับเดียวกัน ที่อุปกรณ์นี้กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถฟอร์ด มอบสมรรถนะที่เหนือกว่าให้แก่รถกระบะพันธุ์แกร่ง ให้พร้อมรับมือทุกงานหนักในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นงานด้านขนส่ง การค้าเชิงพาณิชย์ งานในโครงการก่อสร้าง หรืองานเกษตรกรรมทั่วประเทศ
นุ่มสบายบนท้องถนน เอาชนะทุกเส้นทางออฟโรด ระบบช่วงล่างของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อลดการโคลงตัวและการควบคุมการทรงตัวที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น โดยเน้นที่การยกระดับประสบการณ์การขับขี่เมื่อบรรทุกและลากของหนัก ด้วยการปรับเปลี่ยนระบบช่วงล่างใหม่นี้ ช่วยให้สมรรถนะในการขับขี่ดีขึ้น ลดการโคลงตัวและเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมทิศทาง โดยยังคงสมรรถนะที่เหนือชั้นในการลากจูงและบรรทุกสิ่งของอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เรนเจอร์ไว้ได้
“เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของเรนเจอร์ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อบรรทุกของ ลากเรือ หรือรถคาราวานไปทั่วประเทศ” มร. จอห์น วิลเล่มส์ หัวหน้าวิศวกรรมโปรแกรม เรนเจอร์ กล่าว “ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยิ่งทำงานหนักเท่าไร ยิ่งขับขี่ได้ยอดเยี่ยมเท่านั้น ทั้งยังควบคุมรถได้ง่าย จึงใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการบรรทุกและลากจูง และยังช่วยลดความเหนื่อยล้าเมื่อเดินทางระยะไกลอีกด้วย”
ข้อมูลของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นปี 2018
ฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ มาพร้อมขุมพลังที่เหนือกว่าและฟีเจอร์อันทันสมัย เพื่อสานต่อศักยภาพและสมรรถนะการขับขี่บนท้องถนนรวมถึงแบบออฟโรด รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างลงตัว เรนเจอร์ทุกรุ่นได้รับการยกระดับให้ดียิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่มากมาย รวมถึงอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างเช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift และระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assist เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับความสะดวกสบาย และความปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น ช่วงล่างของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อลดการโคลงตัวและการควบคุมการทรงตัวที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น เน้นการยกระดับประสบการณ์การขับขี่เมื่อบรรทุกและลากจูงเต็มอัตรา
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่น XL-XLS ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น XL และ XLS เป็นรถกระบะเพื่อการใช้งาน มอบความคุ้มค่าคุ้มราคา ยกขีดระดับความสามารถยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์ทันสมัยใหม่ที่เน้นการเพิ่มศักยภาพและสมรรถนะในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น XL มีให้เลือกทั้งแบบกระบะตอนเดียวและกระบะแบบมีแค็บ ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นนี้สามารถรองรับทุกการใช้งานหนัก ด้วยโครงแชสซีแบบขั้นบันได รวมทั้งโครงสร้าง และการออกแบบ ที่นำโดยทีมงานของออสเตรเลีย พร้อมขุมพลังที่มาทั้งในรุ่น 4×2 และ 4×4 นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่มอบความสะดวกสบายมากขึ้น เช่นพวงมาลัยพาวเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าที่มีให้ตั้งแต่รุ่น XL
อุปกรณ์มาตรฐานในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่น XL และ XL+
เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2 ลิตรพร้อม VG Turbo Intercooler กำลังสูงสุด 160 แรงม้า, แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร
อุปกรณ์ภายนอก
อุปกรณ์ภายใน
ความปลอดภัย
อุปกรณ์มาตรฐานในฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น XLS ใหม่ (เพิ่มเติมจากรุ่น XL และ XL+)
อุปกรณ์ภายนอก
อุปกรณ์ภายใน
ความปลอดภัย
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่น XLT
ฟอร์ด เรนเจอร์ XLT เป็นรถกระบะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากกตระกูลเรนเจอร์ อัดแน่นด้วยสมรรถนะ และความสามารถที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานได้อย่างลงตัว มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ด้วยกระจังหน้าโครเมียมอันเป็นเอกลักษณ์
ฟอร์ด เรนเจอร์ XLT มาพร้อมฟีเจอร์เพื่อความสะดวกสบายที่มากกว่าในรุ่น XLS ไม่ว่าจะเป็น ล้ออัลลอยดีไซน์ภายนอกใหม่ ไฟตัดหมอกด้านหน้า โคมไฟหน้า และดีไซน์ภายนอกโฉมใหม่
อุปกรณ์มาตรฐานในฟอร์ด เรนเจอร์ XLT ใหม่ (เพิ่มเติมจากรุ่น XLS)
อุปกรณ์ภายนอก
อุปกรณ์ภายใน
ความปลอดภัย
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นลิมิเต็ด (Limited)
ฟอร์ด เรนเจอร์ ลิมิเต็ด (Limited) เป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ดีขึ้น โดยการตกแต่งภายนอกแบบโครเมียม พร้อมขุมกำลังใหม่ และเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกสบายมากขึ้น รูปลักษณ์โฉมใหม่ด้วยกระจังหน้าโครเมียมพร้อมไฟเดย์ไลท์ LED และไฟหน้า HID ที่มอบทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้น ขณะที่กระบะท้ายติดตั้งฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift มอบความสะดวกในการใช้งาน
ขุมพลังใหม่ในฟอร์ด เรนเจอร์ ลิมิเต็ด (Limited) ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและเงียบยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ลิมิเต็ด (Limited) ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์มากมาย รวมถึงกุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ระบบซิงค์ 3 ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบจดจำเสียง และระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทย เพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น
อุปกรณ์มาตรฐานในฟอร์ด เรนเจอร์ ลิมิเต็ด (Limited) (เพิ่มเติมจากรุ่น XLT)
เครื่องยนต์ ดีเซลใหม่ขนาด 0 ลิตรพร้อม VG Turbo Intercooler กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร
อุปกรณ์ภายนอก
อุปกรณ์ภายใน
ความปลอดภัย
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นไวล์ดแทรค
ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค ใหม่มอบสมรรถนะที่เหนือกว่า ด้วย ขุมพลังเครื่องยนต์ไบเทอร์โบ พร้อมเทคโนโลยีและฟีเจอร์ล้ำสมัย ทำให้เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค ใหม่ เป็นเรนเจอร์ที่อัดแน่นด้วยอุปกรณ์ที่ดีที่สุด นอกเหนือจากเรนเจอร์ แร็พเตอร์ นอกเหนือจากเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทรคยังมาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยที่มีเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ เป็นที่สุดของขุมพลังที่มีในฟอร์ด เรนเจอร์ ที่มอบกำลังสูงสุด 213 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ด้วยการผสานการทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เพื่อการตอบสนองที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและออฟโรด เครื่องยนต์ใหม่อันเป็นทางเลือกใน ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทรคนี้ยังคงสมรรถนะที่เหนือชั้นในการบรรทุก 961 กิโลกรัม และลากจูงได้สูงถึง 3,500 กิโลกรัม ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยโครงระบบส่งกำลังที่ทันสมัยทำให้ใช้น้ำมันน้อยกว่า แต่ให้สมรรถนะและความสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งการขับขี่บนทางเรียบและออฟโรด
อุปกรณ์มาตรฐานในฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นไวล์ดแทรค (เพิ่มเติมจากรุ่น ลิมิเต็ด (Limited))
เครื่องยนต์ ดีเซลขนาด 0 ลิตรพร้อม VG Turbo Intercooler กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 0 ลิตรพร้อมเทอร์โบคู่ (Bi-Turbo) กำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร (เฉพาะรุ่น 4×4)
อุปกรณ์ภายนอก
อุปกรณ์ภายใน
ความปลอดภัย
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีให้เลือก 7 สี พร้อมสีใหม่ 2 สี สีส้มเซเบรอ (เฉพาะรุ่นไวล์ดแทรค) และสีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) และสีมาตรฐาน สีเงินอะลูมิเนียม เมทัลลิค (Aluminuim Metallic) สีดำแอพโซลูท แบล็ค เมทัลลิค (Absolute Black Metallic) สีเทาเมทีออร์ เกรย์ เมทัลลิค (Meteor Grey Metallic) สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) และสีแดงทรู เร้ด (True Red)
เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มีสีภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey) ซึ่งเป็นสีใหม่เฉพาะแร็พเตอร์เท่านั้น และสีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) สีแดงเรซ เร้ด (Race Red) สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) และสีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) นอกจากนี้ ลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบาย ด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะ สูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กิโลเมตร เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ผลิตที่โรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (AAT) และโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) ที่จังหวัดระยอง สำหรับการจำหน่ายในประเทศไทย และส่งออกไปยังทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ วางจำหน่ายทั้งหมด 20 รุ่น รวมถึงรุ่น Limited ตามราคาดังต่อไปนี้
รุ่น ราคาขายปลีกแนะนำ (บาท)
SWB 2.0L Turbo 4×2 6MT 589,000
SWB 2.0L Bi-Turbo 4×4 10AT 799,000
Standard Cab 2.2L XL 6MT 559,000
Open Cab 2.2L XL 6MT 599,000
Open Cab 2.2L XL+ Hi-Rider 6MT 649,000
Open Cab 2.2L XLS Hi-Rider 6MT 659,000
Open Cab 2.2L XLS Hi-Rider 6MT 699,000
Open Cab 2.2L XLS Hi-Rider 6AT 739,000
Open Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6MT 749,000
Open Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6AT 789,000
Open Cab 2.0L Turbo Limited 4×4 6MT 889,000
Double Cab 2.2L XLS Hi-Rider 6MT 789,000
Double Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6MT 829,000
Double Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6AT 869,000
Double Cab 2.0L Turbo Limited Hi-Rider 6MT 899,000
Double Cab 2.0L Turbo Limited Hi-Rider 10AT 949,000
Double Cab 2.0L Turbo Limited 4×4 10AT 1,029,000
Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider 10AT 1,029,000
Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4×4 10AT 1,265,000
Double Cab 2.0L Bi-Turbo Raptor 4×4 10AT 1,699,000
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
ชอบครับอยากได้0…………