ใหม่ All New MG HS 2024-2025 ราคา เอ็มจี เอชเอส ตารางผ่อน-ดาวน์
ดูรถ Segment ใกล้เคียง Ford Everest | HAVAL H6 | Honda CR-V | ISUZU MU-X | MAZDA CX-5 | MAZDA CX-8 | MG HS | MG HS PHEV | Mitsubishi Pajero | Mitsubishi Outlander PHEV | Nissan Terra | Toyota Fortuner
MG เปิดตัว NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV โฉมใหม่ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด REFINEMENT โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมรูปโฉมใหม่ที่ผสานความหรูหราทันสมัยและความสปอร์ตอย่างลงตัว ติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง 26 ระบบ และฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน
อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากลสูงสุดถึง 26 ระบบ และระบบช่วยผู้ขับขี่หรือระบบ ADAS ที่เทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2
พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังจากระบบขับเคลื่อนทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร และเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า
มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบโมดูล ขนาดใหญ่ 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
NEW MG HS 2024 ราคา
เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร
NEW MG HS รุ่น C 919,000.
NEW MG HS รุ่น D 1,019,000.
NEW MG HS รุ่น X 1,119,000.
เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด
NEW MG HS PHEV รุ่น D 1,299,000.
NEW MG HS PHEV รุ่น X 1,379,000.
คู่แข่งใกล้เคียง ที่น่าสนใจ…
ราคา MG HS ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์
อุปกรณ์มาตรฐาน MG HS / MG HS PHEV
มิติ และน้ำหนัก
– ยาว x กว้าง x สูง เท่ากับ 4,574 x 1,876 x 1,664 มม.
– ระยะช่วงล้อ 2,720 มม.
– ระยะห่างระหว่างล้อคู่ หน้า 1,574 มม. / หลัง 1,593 มม.
– ระยะต่ำสุดจากพื้น 145 มม.
– ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร (MG HS) และ ความจุถังน้ำมัน 37 ลิตร (MG HS PHEV)
– ขนาดล้อ และยาง ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว ยาง 215/60 R17 (เฉพาะ MG HS รุ่น C) และล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว ยาง 235/50 R18
สมรรถนะ
– เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TGI
– ระบบจ่ายน้ำมัน GDI – Gasoline Direct Injection
– ปริมาตรกระบอกสูบ 1,490 ซีซี.
– เส้นผ่านศูนย์กลางกระบอกสูบ x ระยะชัก เท่ากับ 74 x 86.6 มม.
– อัตราส่วนกำลังอัด 10 : 1 (MG HS) และ อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 (MG HS PHEV)
– กำลังสูงสุด 162 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที (MG HS) และกำลังสูงสุด 162 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที (MG HS PHEV)
– แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,400 รอบ/นาที (MG HS) และ แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,300 รอบ/นาที (MG HS PHEV)
มอเตอร์ไฮบริด (MG HS PHEV)
– มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor
– กำลังสูงสุด 112 แรงม้า
– แรงบิดสูงสุด 230 นิวตัน-เมตร
COMBINE POWER (MG HS PHEV)
– กำลังสูงสุด 284 แรงม้า
– แรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร
– แบตเตอรี่ Lithium – Ion
– ความจุแบตเตอรี่ 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
– ระยะวิ่งสูงสุดด้วย EV Mode 67 กม. (NEDC)
ระบบส่งกำลัง
– ระบบเกียร์ Twin Clutch Sportronic Transmission (TST) 7 Speed (MG HS) และ ระบบเกียร์ EDU II – 10 Speed (MG HS PHEV)
อัตราทดการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์
– อัตรทดเกียร์ 1 ที่ 4.231 (MG HS) และ 4.407 (MG HS PHEV)
– อัตรทดเกียร์ 2 ที่ 2.476 (MG HS) และ 2.500 (MG HS PHEV)
– อัตรทดเกียร์ 3 ที่ 1.389 (MG HS) และ 1.676 (MG HS PHEV)
– อัตรทดเกียร์ 4 ที่ 0.929 (MG HS) และ 1.225 (MG HS PHEV)
– อัตรทดเกียร์ 5 ที่ 0.755 (MG HS) และ 0.918 (MG HS PHEV)
– อัตรทดเกียร์ 6 ที่ 0.714 (MG HS) และ 0.695 (MG HS PHEV)
– อัตรทดเกียร์ 7 ที่ 0.566 (MG HS)
– อัตรทดเกียร์ถอยหลัง ที่ 3.882 (MG HS) และ 3.359 (MG HS PHEV)
– อัตรทดเฟืองท้าย 1 / 2 / 6 / 7 ที่ 4.563 และ 3 / 4 / 5 / R ที่ 5.214 (MG HS) และอัตรทดเฟืองท้าย 3.850 (MG HS PHEV)
อัตราทดการขับเคลื่อนของมอเตอร์ไฟฟ้า (MG HS PHEV)
– อัตรทดเกียร์ 1 ที่ 3.699
– อัตรทดเกียร์ 2 ที่ 2.481
– อัตรทดเกียร์ 3 ที่ 1.407
– อัตรทดเกียร์ 4 ที่ 1.028
– อัตรทดเกียร์ถอยหลัง ที่ 3.699
– อัตรทดทดเฟืองท้าย ที่ 3.850
ระบบพวงมาลัย และระบบช่วงล่าง
– ระบบพวงมาลัย แร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
– รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.95 มม.
– ระบบช่วงล่างหน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
– ระบบช่วงล่างหลัง อิสระ มัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง
– ระบบเบรกหน้า ดิสก์เบรก พร้อมช่องระบายความร้อน
– ระบบเบรกหลัง ดิสก์เบรก
MG HS รุ่น C
ภายนอก
– ไฟหน้าแบบ LED
– ระบบปรับระดับไฟหน้า ขึ้น-ลง
– ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (DRL)
– ระบบควบคุมการ เปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
– กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
– ไฟท้ายแบบ LED
– ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
– ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
– ระบบปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง
– ระบบปัดน้ำฝนกระจกหลัง
– สปอยเลอร์หลัง
– ราวหลังคา
ภายใน และความสะดวกสบาย
– สีภายใน สีดำ
– เบาะหนังสังเคราะห์
– ช่องเก็บเอกสารด้านหลังเบาะหน้า
– เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
– เบาะนั่งด้านหลัง พนักพิงพับได้ 60:40
– พวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับระดับ 4 ทิศทาง
– หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ (Interactive Multi-Function Display) ขนาด 7 นิ้ว
– กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down
– กระจกมองหลังตัดแสงแบบแมนนวล
– ระบบปรับอากาศ
– ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
– ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อม Push Start
– กรองอากาศ PM 2.5
– แผงปิดสัมภาระด้านท้าย
ระบบเครื่องเสียง
– พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
– จำนวนลำโพง 4 ตำแหน่ง
– หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว
– ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ / ช่องเชื่อมต่อ USB
ระบบความปลอดภัย
– ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
– ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
– ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบช่วยกระจายแรงเบรก EBD
– ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
– ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
– ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
– ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
– ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hil Start Assist System)
– ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System)
– ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR (Motor Control Slide Retainer)
– ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้พลิกคว่ำ ARP (Anti Rolling Program)
– ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
– ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
– จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
– ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
– เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
– เข็มขัดนิรภัยแถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
– กล้องมองหลัง
– สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
– ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
MG HS รุ่น D
ภายนอก
– ไฟ Welcome Light
– ระบบปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
– หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
ภายใน และความสะดวกสบาย
– สีภายใน แบบ 2-Tone ขาว -น้ำเงิน หรือ ดำ
– ไฟ Ambient Light
– เบาะหนังสังเคราะห์ แบบ Sport
– เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้าแบบ 4 ทิศทาง
– กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ
– ระบบปรับอากาศ อัตโนมัติ แบบ Dual Zone
ระบบเครื่องเสียง
– จำนวนลำโพง 6 ตำแหน่ง
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART
SMART CHECK (ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ)
– ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์
– ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
– ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
– ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์
– ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
SMART COMMAND (ระบบสั่งการอัจฉริยะ)
– กุญแจดิจิตอล
– ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
– ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
– ระบบวางแผนการเดินทาง Travel Plan
– ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน
– ระบบเลขาส่วนตัว MG Call Center
– ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน Emergency Call
SMART CONNECT (ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ)
– ระบบนำทางพร้อมภาพเสมือนจริง AR Navigation
– ระบบนำทางพร้อมรายงานการจราจร แบบ Real Time
– ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
– ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสรีมมิ่ง
– อัพเกรดระบบผ่านออนไลน์ FOTA
– ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน
– อัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
ระบบความปลอดภัย
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
– ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lne Change Assist)
– ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
– ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
– ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
– กล้องมองภาพรอบทิศทาง
MG HS รุ่น X
ภายนอก
– ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า
ภายใน และความสะดวกสบาย
– ปุ่มปรับโหมดการขับขี่ พร้อมปุ่ม Super Sport
– ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
– แป้นเหยียบแบบ Sport
– หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ (Interactive Multi-Function Display) ขนาด 12 นิ้ว
ระบบเครื่องเสียง (เหมือนกับ MG HS รุ่น D)
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART (เหมือนกับ MG HS รุ่น D)
ระบบความปลอดภัย
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) แบบแปรผัน
– ระบบเปิด – ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
– ระบบช่วยเตื่อนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
– ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
– ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
– ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
– ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
MG HS PHEV รุ่น D
ภายนอก (เหมือนกับ MG HS รุ่น D)
ภายใน และความสะดวกสบาย
– โหมดรีไซเคิลพลังงาน (KERS)
ระบบเครื่องเสียง (เหมือนกับ MG HS รุ่น X)
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART
SMART CHECK (ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ)
– ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ
ความปลอดภัย (เหมือนกับ MG HS รุ่น D)
MG HS PHEV รุ่น X
ภายนอก (เหมือนกับ MG HS รุ่น X)
ภายใน และความสะดวกสบาย (เหมือนกับ MG HS รุ่น X)
– โหมดรีไซเคิลพลังงาน (KERS)
ระบบเครื่องเสียง
– ระบบเสียง BOSE Sound System
– จำนวนลำโพง 8.1 ตำแหน่ง
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART (เหมือนกับ MG HS PHEV รุ่น D)
ระบบความปลอดภัย (เหมือนกับ MG HS รุ่น X)
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV โฉมใหม่ล่าสุด ยกระดับคุณค่าด้านการออกแบบให้มีความโดดเด่น และทันสมัย ผสานทั้งความหรูหราและความสปอร์ตอย่างลงตัว ด้วยเส้นสายของตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่เน้นเรื่องความโค้งมนสมบูรณ์แบบของตัวรถ พร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่คงเอกลักษณ์เฉพาะของเอ็มจี
ภายในห้องโดยสาร ของ NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV ตกแต่งด้วยสี 2-Tone Monaco Blue ใช้วัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch ให้ความรู้สึกหรูหราและพรีเมี่ยมในทุกรายละเอียด พร้อมฟังก์ชั่นที่ให้ทั้ง ความสะดวกสบายและคุณค่าระหว่างการขับขี่ที่ครบครัน
REFINED PERFORMANCE & EFFICIENCY:
NEW MG HS PHEV ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid ผสานกำลังระหว่างเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ขับขี่อย่างต่อเนื่องได้ด้วยระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที และสามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้า 100% ได้ถึง 67 กิโลเมตร
NEW MG HS มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้พละกำลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบต่อนาที มีรูปแบบการขับขี่ 4 รูปแบบ ได่แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด Sport และโหมด Super Sport
REFINED SAFETY: เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยรอบคัน
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame) ระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System มากถึง 26 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัย เชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรก และช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ จำนวน 14 ระบบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านหน้าและด้านท้ายรถ ซึ่งเทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตืระดับที่ 2 (Autonomous Level 2) รวมกันกว่า 12 ระบบ ได้แก่
นอกจากนี้ ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ
– จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
– ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
– เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย
– กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
– ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
– ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
REFINED TECHNOLOGY:
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี รวมถึงการเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ให้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยี Digital Key และล่าสุดกับ AR NAVIGATION ระบบนำทางเสมือนจริง ที่จะทำให้ทุกการเดินแม่นยำมากยิ่งขึ้น
Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
Smart Command หรือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
Smart Connect หรือ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
* อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
MG HS
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
รับจองรถยนต์ MG ทุกสีทุกรุ่นค่ะ
สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดก่อนได้ค่ะ
ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องไฟแนนซ์
บี : 084-0050440
Line ID : beblaire
หรือ http://line.me/ti/p/N2I4DFMQGA