รีวิว กล้องติดรถยนต์ Dcam Pro3 Dual บันทึกภาพหน้า-หลัง พร้อม Wi-Fi และ Super Capacitor ใช้งานได้ยาวนานขึ้น หมดปัญหาเรื่องแบตบวม แบตร้อน แบตระเบิด ทนสู้แดดเมืองเมืองไทย ในงบ 2 พันต้น ๆ
ปัจจุบันนี้คนใช้รถยนต์หันมาให้ความสำคัญกับการติดกล้องติดรถยนต์กันมากขึ้นนะคะ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอเทมหลักที่คนขับรถยนต์ส่วนบุคคล หรือ คนขับรถรับจ้างต้องมี ความสำคัญและประโยชน์ของการมีกล้องติดรถยนต์ก็มีมากมาย ทั้งในเรื่องของความอุ่นใจ และปลอดภัยในการขับขี่
การใช้คลิปวีดีโอยืนยันความบริสุทธิ์ เมื่อเกิดการเฉี่ยวชน, ปล้นทรัพย์ รวมถึงอุบัติเหตุใหญ่ที่ไม่คาดคิด และการติดกล้องติดรถยนต์ ยังสามารถใช้เป็นส่วนลดในการซื้อหรือต่อประกันภัยรถยนต์ จากบริษัทประกันภัยต่าง ๆ ได้ 5-10 % อีกด้วย
ใครที่กำลังมองหากล้องติดรถยนต์ ในราคาเบา ๆ สบายกระเป๋า แถมได้กล้องคู่ที่จับภาพด้านหน้าและด้านหลังได้ในเวลาเดียวกัน วันนี้ทีมงาน 9Carthai มีรีวิว Dcam Pro3 Dual กล้องติดรถยนต์ รุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Dcam มาฝากกันค่ะ
จุดเด่นของกล้องติดรถยนต์ Dcam Pro3 Dual ที่นอกจากจะได้กล้องมาแบบหน้า-หลังแล้ว ราคา Product ก็ไม่แพงค่ะ มีงบไม่ถึง 3 พัน ก็ซื้อมาติดตั้งกันได้ นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์เด่น ๆ อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรองรับ Wi-Fi เชื่อมต่อการใช้งานแบบ Real Time ผ่าน Smart Phone
แบตเตอรี่แบบ Super Capacitor ใช้งานได้นานขึ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ หมดปัญหา แบตบวม แบตร้อนเร็ว แบตระเบิด ทนสู้แดดเมืองไทย และที่สำคัญยังมาพร้อมกับการรับประกันสูงสุด 18 เดือน
ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูรายละเอียด ฟังก์ชั่นการใช้งาน และ หน้าตาของ Dcam Pro3 Dual กันต่อได้เลยค่ะ
อุปกรณ์ภายในกล่องกล้องติดรถยนต์ Dcam Pro3 Dual ประกอบไปด้วย
1. ตัวกล้องบันทึกรถยนต์ด้านหน้า
2. ตัวกล้องบันทึกรถยนต์ด้านหลัง ความยาวสาย 5 เมตร
3. Car Charger สำหรับเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับตัวกล้องหน้า-หลัง ความยาวสาย 3.5 เมตร
4. ตัวยึดกล้องแบบขาสลักกับกระจกรถ หรือ ตัวรถ
5. คู่มือการใช้งานภาษาไทย และ ใบรับประกันตัวกล้อง 18 เดือน
รายละเอียด Specification กล้องติดรถยนต์ Dcam Pro3 Dual
คุณสมบัติกล้องติดรถยนต์ | PRO 3 DUAL |
ชนิดของกล้อง | กล้องหน้า + หลัง |
ความละเอียดของวีดีโอ (สูงสุด) | กล้องหน้า Full HD (1080p) กล้องหลัง 720p |
ความละเอียดภาพถ่าย (สูงสุด) | 12 M |
มุมมององศาในการบันทึก | 150 องศา / 120 |
Sensor | HD CMOS |
Lens | 4 Layer HD |
ขนาดหน้าจอในเครื่อง | 3.0″ IPS |
Micro SD (สูงสุด) | 128 GB |
WIFI | Car DVR |
ล็อกไฟล์อัตโนมัติจากแรงกระแทก (G-Sensor) | รองรับ |
มีแบตเตอรี่ในตัว | Super Capacitor |
การบันทึกวนกลับ (Loop Sensor) | รองรับ |
การจับภาพเคลื่อนไหว (Motion Detection) | รองรับ |
โหมดจับภาพกลางคืน (Night Vision Mode) | รองรับ |
โหมดตั้งค่าบันทึกอัตโนมัติ | รองรับ |
การพักหน้าจอ | รองรับ |
การบันทึกเสียง | รองรับ |
ดูไฟล์วิดีโอ / ภาพย้อนหลังในกล้อง | รองรับ |
เมนูไทย | รองรับ |
หัวสายชาร์จ (5V) เสียบช่องจุดบุหรี่ | มาตรฐาน |
รูปแบบไฟล์วีดีโอ | MOV / JPG |
ขายึดตัวกล้อง | ขายึดแบบสลัก |
ระยะเวลารับประกัน | 18 เดือน |
มาดูหน้าตาและการดีไซน์กล้องติดรถยนต์กันต่อเลย เริ่มจากตัวกล้องด้านหน้า ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา มาในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตัวเครื่องสีดำด้าน ดูทันสมัย สกรีนโลโก้ Dcam carcam ไว้ที่มุมซ้ายด้านบน มุมซ้ายด้านล่างมีช่องลำโพงไว้เล่นเสียงคำสั่ง และ เสียงปุ่มกด
เลนส์กล้องด้านหน้าทรงกลม กระจกเลนส์กล้อง HD 4 ชั้น มุมมองกล้องกว้าง 150 องศา ภาพคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืนแม้อยู่ในที่มืดสนิท กล้องหน้าบันทึกความละเอียดสูงสุดแบบ Full HD ( 1920 x 1080p @30fps) มาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบ Super Capacitor ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ในกล้อง
รองรับ G-Sensor และ Motion Detection การจับภาพเคลื่อนไหว และมีฟีเจอร์ Wi-Fi Direct สามารถเชื่อมต่อการใช้งานกับ SmartPhone ผ่าน Application Car_DVR ที่เป็น App ฟรี ! และ รองรับการใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ ระบบ Android
ด้านบนตัวกล้องด้านหน้า จะมีช่องอุปกรณ์ต่อพ่วง 2 ช่อง คือ ช่องจ่ายไฟ และ ช่องสัญญาณกล้องหลัง ส่วนตรงกลางตัวกล้องจะเป็นช่องสำหรับใส่ขายึดกระจก ที่ใช้เป็นแบบขาสลัก ถอดเข้า-ออก และ เปลี่ยนตำแหน่งการติดตั้งได้ง่ายค่ะ
ด้านซ้ายของตัวกล้อง จะเป็นปุ่มควบคุมการใช้งานของกล้องติดรถยนต์ รองรับเมนูภาษาไทย ใช้งานง่าย เรียงลำดับการใช้งานจากด้านบนลงมาด้านล่างได้ดังนี้
ด้านข้างซ้ายของตัวกล้อง จะเป็นช่องเสียบการ์ดแบบ microSD รองรับได้สูงสุดถึง 128 GB แนะนำให้ใช้ Memory Card Class 10 ขึ้นไป จะได้ประสิทธิภาพในการเก็บภาพได้ดีที่สุด ควร Format Memory Card ผ่านตัวกล้องก่อนใช้งานครั้งแรกทุกครั้ง และ ควร Format Memory Card อย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน
ถัดจากช่องเสียบการ์ดลงมา จะเป็นปุ่มกดเลื่อนขึ้น ตรงกลางเป็นปุ่มเมนูแบบภาษาไทย ใช้กดเลือกการตั้งค่าใช้งานกล้อง และ โหมดการใช้งานต่าง ๆ ได้จากปุ่มนี้ ส่วนปุ่มสุดท้ายจะเป็นปุ่มกดลงค่ะ
ด้านหลังตัวกล้องจะเป็นหน้าจอแสดงภาพ ได้เป็นจอ LED ขนาด 3 นิ้ว IPS แบบ Enhanced IPS Screen ดูภาพการบันทึกวีดีโอ และ เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ของกล้องได้อย่างชัดเจน
มาต่อกันที่กล้องด้านหลัง ขนาดเล็กกระทัดรัด ไม่บังทัศนวิสัยในการขับรถ ติดได้ทั้งแบบด้านในรถและด้านนอกรถ เลนส์กล้องหลังกว้าง 120 องศา และบันทึกภาพได้ 1280 x 720p @30fps ความยาวสาย 5 เมตร
Car Charger สำหรับจ่ายไฟให้กับกล้องหน้าและกล้องหลัง ความยาวสายชาร์จ 3.5 เมตร
สุดท้ายจะเป็นคู่มือการใช้งานกล้องติดรถยนต์ Dcam Pro3 Dual เป็นคู่มือภาษาไทย อ่านเข้าใจง่าย และ มีใบรับประกันกล้องติดรถยนต์ที่รับประกันให้สูงสุดถึง 18 เดือน นับตั้งแต่วันที่ซื้อโดยลูกค้าจะต้องเก็บบัตรรับประกัน และใบเสร็จรับเงินไว้เป็นหลักฐาน
หากสินค้ามีปัญหาใน 30 วัน นับจากวันซื้อ ทางศูนย์จะเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้ทันที แต่ถ้าเลย 30 วัน ไปแล้ว ทางศูนย์จะทำการซ่อมแซม เปลี่ยนอะไหล่ชิ้นส่วนที่มีปัญหาให้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่ะ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด**
มาถึงขั้นตอนการติดตั้งกล้องติดรถยนต์ Dcam Pro 3 Dual วันนี้เรานำรถของทีมงานมาติดตั้งที่ศูนย์บริการติดตั้ง พระราม 2 ช่างติดตั้ง ซ่อนสายไฟสวยงาม ใช้เวลาในการติดตั้งประมาณ 20-30 นาที
เมื่อช่างเดินสายไฟต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็มากำหนดตำแหน่งติดตั้งกล้องด้านหน้าให้เหมาะสม โดยตำแหน่งในการติดตั้งจะขึ้นอยู่กับลักษณะของรถแต่ละประเภท ซึ่งส่วนมากจะติดไว้ที่ด้านหน้าของกระจกมองหลัง โดยตัวยึดจะเป็นแบบตัวดูดแบบสุญญากาศ แบบขาสลัก ถอดเก็บเข้า-ออก เปลี่ยนตำแหน่งได้ง่าย
ตำแหน่งกล้องหลัง แบบติดที่ด้านในรถยนต์ ความละเอียดอยู่ที่ 1280 x 720p @30fps หรือถ้าเพื่อน ๆ อยากจะได้ความคมชัดแบบไม่มีเงาสะท้อน จะนำกล้องไปติดไว้ที่ด้านนอกรถ บริเวณเหนือป้ายทะเบียนรถยนต์ก็ได้ค่ะ
ติดกล้องหน้า-กล้องหลัง เสียบสายชาร์จเข้ากับช่องจ่ายไฟเรียบร้อยแล้ว สตาร์ตรถยนต์ หน้าจอกล้องหน้าจะโชว์ Logo-Dcam carcam สีขาว-ดำ พื้นหลังสีเขียวแบบนี้
หลังจากที่หน้าจอ Logo ดับลง กล้องหน้าและกล้องหลังก็พร้อมบันทึกทันที หน้าจอแสดงผลเบื้องต้นจะแบ่งเป็น 2 จอ แบบในภาพ โดยจอพรีวิวขนาดใหญ่จะเป็นภาพจากกล้องหน้า ส่วนจอพรีวิวเล็กที่มุมซ้ายด้านล่างจะเป็นภาพจากกล้องหลัง การบันทึกภาพวีดีโอเป็นแบบวนลูป เมื่อหน่วยความจำเต็ม จะทำการลบไฟล์เริ่มต้น และบันทึกต่อไปโดยอัตโนมัติ
เปลี่ยนการแสดงผลที่หน้าจอให้เป็นเห็นภาพจากกล้องหน้าแบบเต็มจอได้ เพียงกดปุ่มขึ้น 1 ครั้ง
เปลี่ยนการแสดงผลเป็นภาพจากกล้องหลังแบบเต็มจอได้ เพียงกดปุ่มขึ้น ขึ้น 1 ครั้ง
ฟีเจอร์เด่นอีกอย่างของรุ่นนี้คือ สามารถใช้งาน Wi-Fi ร่วมกับ SmartPhone ได้ โดยการใช้งานก็ทำได้ไม่ยาก มีขั้นตอนดังนี้
1. ดาวน์โหลด Application Car_DVR รองรับทั้ง ios และ Android
2. เปิด Wi-Fi จากตัวกล้องติดรถยนต์ โดยกดที่ปุ่มเมนูค้างไว้ เพื่อเปิด Wi-Fi
3. เชื่อมต่อ Wi-Fi จาก SmartPhone โดยเข้าไปที่ Setting เลือก Dcam Pro3 Dual
4. ใส่รหัสผ่าน 12345678 / เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการเชื่อมต่อ Wi-Fi แล้ว ที่หน้าจอของกล้อง Icon Wi-Fi จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว
5. เมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้แล้ว ให้เข้าใช้งานได้ที่ Application Car_DVR
เชื่อมต่อ Wi-Fi เข้าหากันแล้ว จะได้หน้าตาแบบขึ้นมาค่ะ เพื่อน ๆ สามารถใช้งานผ่าน SmartPhone ได้เลย Application ตัวนี้จะรวบรวมไฟล์ทั้งหมดที่ถูกบันทึกไว้ใน micro SD Card ทั้งไฟล์รูปภาพ, ไฟล์คลิปวิดีโอ รวมถึงล็อกไฟล์ หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถเลือกใช้ไฟล์แล้วส่งต่อให้ประกัน หรือ คุณตำรวจดูได้ง่าย ๆ รวมถึงใช้เป็น Remote ในการตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ ของตัวกล้องติดรถยนต์ได้เลยค่ะ
ดูภาพนิ่งและวีดีโอที่กำลังบันทึกอยู่ได้แบบ Real Time ผ่าน SmartPhone
เลือกดูไฟล์วีดีโอ หรือ ไฟล์ภาพที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้ได้ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถเลือกไฟล์ที่ต้องการไปใช้งานได้เลย สะดวกมาก ๆ
สามารถตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ ผ่าน SmartPhone ได้แบบนี้เลยค่ะ
รายละเอียดของเมนูต่าง ๆ ของกล้องติดรถยนต์ Dcam Pro3 สามารถปรับได้ในหน้าการตั้งค่าทั่วไป (กดที่ป่มุเมนดู้านซ้ายของตัวเครื่องตามวงกลมสีแดง) รองรับเมนกูารภาษาไทย ใช้งานง่าย ซึ่งการตั้งค่าใช้งานจะมีทั้งหมด 4 หมวดหมู่ ได้แก่
1. โหมดถ่ายวีดีโอ มีทั้งหมด 1 หน้า 3 หัวข้อ ดังนี้ (กดปุ่มเลื่อนขึ้น-ลง และ กด ปุ่ม Ok เพื่อเข้าไปยังเมนูตั้งค่าต่าง ๆ )
หัวข้อ : ความละเอียดวีดีโอ (FHD : กล้องหน้า 1920 x 1080p @30fps และ กล้องหลัง HD : 1280 x 720p @30fps)
หัวข้อ : บันทึกวนทับ คือกล้องจะแบ่งไฟล์ที่บันทึกเป็นช่วงเวลาที่กำหนด มีหัวข้อให้เลือกได้แบบ 1 นาที / 2 นาที / 3 นาที / 5 นาที และ 10 นาที โดยปกติจะตั้งไว้ที่ 3 นาทีค่ะ
หัวข้อ : บันทึกเสียง เลือกเปิด-ปิดบันทึกเสียงลงในไฟล์วีดีโอ
2. โหมดถ่ายภาพ มีทั้งหมด 2 หน้า 8 หัวข้อ ดังนี้ (กดปุ่มเลื่อนขึ้น-ลง และ กด ปุ่ม Ok เพื่อเข้าไปยังเมนูตั้งค่าต่าง ๆ )
หัวข้อ : ความละเอียดภาพ เลือกได้ว่าจะเอาความคมชัดของภาพถ่ายให้เป็นขนาด 1.2M หรือ 2M
หัวข้อ : คุณภาพของภาพ เลือกได้ว่าจะเอาเป็นคุณภาพสูง หรือ คุณภาพดี แนะนำให้เลือกใช้คุณภาพสูงตามภาพ
หัวข้อ : ปรับการเปิดรับแสง เลือกการปรับรูรับแสงได้ตั้งแต่ -2 ไปจนถึง +2 แนะนำให้ตั้งค่าเป็น 0 ปกติ ถ้าค่าต่ำลงภาพจะมืดลง หรือ ถ้าปรับค่าสูงขึ้นภาพจะสว่างจนเกินไปค่ะ
หัวข้อ : ความไวแสง มีให้เลือกได้ตั้งแต่ อัตโนมัติ, ISO 100, ISO 200, ISO 400 แนะนำให้ตั้งค่าเป็นอัตโนมัติ
หัวข้อ : ปรับความสว่างของภาพ คือตัวกำหนดความตัดกันของส่วนมืดและส่วนสว่างของภาพ สามารถเลือกเพิ่ม-ลดแสงสว่างได้ตามความต้องการ แต่แนะนำให้ตั้งค่าเป็นตรงกลาง จะได้ภาพที่ดูคมชัด และ เสมือนจริงที่สุดค่ะ
หัวข้อ : ปรับความชัดของภาพ สามารถเลือกเพิ่ม-ลดความชัดของภาพได้ตามความต้องการ แนะนำให้ตั้งค่าเป็นตรงกลาง จะได้ภาพที่ดูคมชัด และ เสมือนจริงที่สุดค่ะ
หัวข้อ : ปรับสีของภาพ สามารถเลือกเพิ่ม-ลดระดับสีของภาพได้ตามความต้องการ แนะนำให้ตั้งค่าเป็นตรงกลาง จะได้ภาพที่ดูคมชัด และ เสมือนจริงที่สุดค่ะ
หัวข้อ : ปรับคุณภาพของภาพ สามารถเลือกเพิ่ม-ลดคุณภาพของภาพได้ตามความต้องการ แนะนำให้เลือกเป็นตรงกลาง จะได้ภาพที่ดูคมชัด และ เสมือนจริงที่สุดค่ะ
3. โหมดตั้งค่าวีดีโอ มีทั้งหมด 1 หน้า 4 หัวข้อ ดังนี้ (กดปุ่มเลื่อนขึ้น-ลง และ กด ปุ่ม Ok เพื่อเข้าไปยังเมนูตั้งค่าต่าง ๆ )
หัวข้อ : ระดับเสียง เป็นการตั้งค่าความดังของหัวลำโพงตัวกล้อง สามารถเลือกเพิ่ม-ลดเสียงได้ตามความต้องการ
หัวข้อ : ลบ สามารถเลือกลบไฟล์วีดีโอจากหน้าจอแสดงผลทีละไฟล์ หรือ จะเลือกลบไฟล์วีดีโอทั้งหมดในครั้งเดียว
หัวข้อ : ป้องกัน หรือ ล็อกไฟล์ มีให้เลือกทั้งหมด 4 หัวข้อ ได้แก่ ป้องกันไฟล์เดียว / ยกเลิกไฟล์เดียว / ป้องกันทั้งหมด / ยกเลิกไฟล์ทั้งหมด
หัวข้อ : ประเภทวีดีโอ มีให้เลือกทั้งหมด 3 หัวข้อ คือ Nomal / Parking / Emergency โดยปกติในการขับรถทั่วไปเลือกใช้ Normal ค่ะ
4 โหมดการตั้งค่าทั่วไป มีให้เลือก 4 หน้า 13 หัวข้อ ดังนี้ (กดปุ่มเลื่อนขึ้น-ลง และ กด ปุ่ม Ok เพื่อเข้าไปยังเมนูตั้งค่าต่าง ๆ )
หัวข้อ : เสียงปุ่มกด เลือกเปิด-ปิดเสียงปุ่มกดได้
หัวข้อ : โหมดปิดเครื่องอัตโนมัติ เมื่อกล้องไม่ได้บันทึกวีดีโอ ตัวกล้องจะปิดอัตโนมัติตามเวลาที่เรากำหนดไว้ โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบ ปิดใช้งาน / 1 นาที และ 5 นาที
หัวข้อ : การตั้งค่าเวลาและวันที่ – ใช้ตั้งเวลาและวันที่ของตัวกล้อง
หัวข้อ : รูปแบบวันที่ เลือกปรับใช้งานได้ตามภาพที่แสดงบนหน้าจอค่ะ
หัวข้อ : แสดงวันที่และเวลา มีให้เลือกทั้งแบบวันที่ + รุ่น / วันที่เท่านั้น / รุ่นกล้องเท่านั้น หรือ ปิดใช้งานไปเลย แนะนำให้เลือกเป็นวันที่และรุ่นของกล้อง หรือ เลือกเป็นวันที่เท่านั้น เพื่อใช้ในการยืนยันเวลานำไฟล์วีดีโอ และ ไฟล์ภาพไปใช้ในเชิงราชการ อย่างการติดต่อประกัน และ การแจ้งความค่ะ
หัวข้อ : เลือกภาษา ตัวกล้องรองรับหลายภาษาค่ะ โดยปกติแนะนำให้ตั้งค่าเป็นภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ ตามความถนัดของผู้ใข้งาน
หัวข้อ : ความถี่ มีให้เลือก 2 หัวข้อ คือ 50Hz และ 60 Hz แนะนำให้ตั้งความถี่เป็น 50Hz
หัวข้อ : พักหน้าจออัตโนมัติ มีให้เลือก 3 หัวข้อ คือ ปิด หน้าจอกล้องจะแสดงภาพตลอดเวลา / 1 นาที และ 3 นาที หน้าจอจะปิดลงตามเวลาที่เรากำหนดไว้ค่ะ
หัวข้อ : G-Sensor ไฟล์วีดีโอจะถูกล็อกเพื่อป้องกันการถูกวนทับ ตามแรงสั่นสะเทือนที่เรากำหนดไว้ ข้อดีคือมีไว้เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุนั่นเองค่ะ
หัวข้อ : ตรวจจับการเคลื่อนไหว คือ กล้องวีดีโอจะถูกบันทึกต่อเมื่อมีวัตถุเคลื่อนไหวเท่านั้น ข้อนี้แนะนำให้ตั้งค่าปิดไว้ค่ะ
หัวข้อ : คืนการตั้งค่า คือการคืนการตั้งค่าของตัวกล้องไปยังการตั้งค่าของโรงงาน มีให้เลือกระหว่างใช่ และ ไม่ใช่
หัวข้อ : ฟอร์แมตการ์ด เป็นการเลือกลบข้อมูลในเมมโมรี่การ์ดทั้งหมด แนะนำให้ฟอร์แมตทุกครั้งก่อนการใช้งาน หรือ ฟอร์แมตการ์ดจากกล้องอย่างน้อย 1 ครั้ง/เดือนค่ะ
หัวข้อ : เวอร์ชั่น เป็นหัวข้อสุดท้ายของโหมดการตั้งค่าทั่วไป เป็นหารกดดูรุ่นและเวอร์ชั่นของกล้องนั่นเองค่ะ
วิธีการเปิดดูไฟล์ภาพและวีดีโอจาก microSD
เปิดไฟล์ขึ้นมาจะเจอกับ Folder ย่อย 4 Folder คือ
การเปิดดูไฟล์วีดีโอประเภททั่วไป ให้เราเข้าไปที่ Folder Normal
ใน Folder Normal จะแบ่งเป็น F สำหรับบันทึกวิดีโอกล้องหน้า และ R สำหรับบันทึกวิดีโอกล้องหลัง
ภายในแต่ละ Folder จะบรรจุไฟล์วิดีโอไว้ในรูปแบบ MOV มีวัน/เดือน/ปี/เวลา ที่บันทึกภาพบอกไว้ชัดเจน เพื่อง่ายต่อการใช้งาน โดยจากการทดลองใช้งาน กำหนดให้แบ่งบันทึกไฟล์วิดีโอความยาวไฟล์ละ 3 นาที ขนาดไฟล์ประมาณ 200-400 MB
ภาพตัวอย่างวีดีโอที่บันทึกจาก “กล้องหน้า” Dcam Pro3 Dual ในเวลากลางวันและกลางคืนจะมีความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 1920 x 1080p @30fps ตามค่าที่เรากำหนดไว้ ได้มุม Wide กว้าง 150 องศา เห็นภาพบรรยากาศรอบ ๆ ยี่ห้อรถยนต์ ป้ายนำทาง และ ป้ายทะเบียนค่อนข้างชัดเจนดีค่ะ
ภาพตัวอย่างวีดีโอที่บันทึกจาก “กล้องหลัง” Dcam Pro3 Dual แบบติดในตัวรถ ในเวลากลางวัน และกลางคืน ความละเอียดของกล้องจะต่ำกว่ากล้องหน้า อยู่ที่ 1280 x 720p @30fps ได้มุม Wide กว้าง 120 องศา
ภาพตอนช่วงเช้าเห็นรายละเอียดบรรยากาศรอบ ๆ ลักษณะรถ และ ยี่ห้อรถยนต์ได้ในระดับปานกลาง ในส่วนของป้ายทะเบียนของรถที่ขับตามหลังมา ทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืนอาจจะมองยากหน่อย เพราะทางทีม 9CarThai เลือกติดกล้องหลังไว้ที่ด้านในรถยนต์
ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ อยากได้ภาพที่คมชัดกว่านี้ สามารถเปลี่ยนการติดตั้งจากด้านในตัวรถ มาเป็นการติดตั้งที่ด้านนอกตัวรถ ก็จะได้ภาพที่คมชัด สว่างกว่า เพราะว่าไม่โดนแสงสะท้อนจากฟิล์มติดรถยนต์ และ องศาของตัวคอนโซลด้านหลังรถนั่นเองค่ะ
สรุป
Dcam Pro3 Dual เป็นกล้องติดรถยนต์หน้า-หลังรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Dcam ที่มีการพัฒนาฟังก์ชั่นต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ตัวเครื่องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีดำด้าน ดีไซน์ทันสมัย มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ไม่บดบังทัศนะวิสัยในการขับขี่ และ สามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเอง ส่วนกล้องหลังก็มีขนาดเล็ก สามารถติดได้ที่กระจกหลังภายในรถ หรือ ที่ตัวรถด้านนอก
ฟังก์ชั่นการใช้งานอื่น ๆ ของ Dcam Pro3 Dual มีให้ครบครัน ไม่แพ้กล้องติดรถยนต์ราคาแพง ๆ ไม่ว่าจะเป็น G-sensor, Motion Detection, จอ LED ขนาด 3 นิ้ว แบบ Enhanced IPS Screen, เมนูกล้องภาษาไทยพร้อมแบตเตอรี่แบบ Super Capacitor ใช้งานได้นานขึ้น แบบไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ และ ทนต่อแดดเมืองไทยได้ดี
จากการทดลองการใช้งาน Dcam Pro3 Dual บันทึกพร้อมกันลงบน microSD แบบแยกไฟล์ แยกโฟลเดอร์ ตัดไฟล์เป็นท่อน 3 นาที ซึ่งทำให้เปิดดูย้อนหลังได้อย่างสะดวก และ ง่ายต่อการค้นหา สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อใช้งานร่วมกับ SmartPhone ได้
ส่วนภาพที่บันทึกวีดีโอกล้องหน้าเห็นบรรยากาศโดยรวม ลักษณะ ยี่ห้อรถ และ ป้ายทะเบียนคันหน้าได้ค่อนข้างชัดเจนในเวลากลางวัน ในตอนกลางวันและกลางคืนของกล้องหลังภาพวีดีโออาจจะไม่คมชัดมากนัก ซึ่งก็เหมาะสมกับราคาที่จ่ายไปค่ะ
ปัจจุบันกล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง Dcam Pro3 Dual ราคาปกติอยู่ที่ 2,290 บาท พร้อมการรับประกันนานถึง 18 เดือน*
จุดเด่น กล้องติดรถยนต์หน้า-หลัง Dcam Pro3 Dual
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์บริการติดตั้งกล้องติดรถยนต์
บ.ออโต้วิชั่น จำกัด พระราม 2
3 ซอยพระรามที่ 2 ซอย 50 แยก 5-2
แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ 10150
โทร. 02-415-2129 มือถือ 081-565-7870
เปิดทำการทุกวันจันทร์-ศุกร์ เปิดทำการ เวลา 9.00 – 17.00 น.
ก่อนเข้ารับบริการติดตั้งฯ กรุณาโทรแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วัน
Facebook Page : Dcam กล้องติดรถยนต์ https://www.facebook.com/dcamcarmera/
Website : http://dcam-camera.com/
Line Official : @dcamcamera
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว กล้องติดรถยนต์ Dcam Pro3 Dual บันทึกภาพหน้า-หลัง พร้อม Wi-Fi และ Super Capacitor ในงบ 2 พันต้น ๆ "