Koenigsegg Gemera ไฮเปอร์คาร์ 4 ที่นั่ง สมรรถนะ 1,700 แรงม้า 0-100 km/h ใน 1.9 วินาที

Koenigsegg Gemera ไฮเปอร์คาร์ 4 ที่นั่ง สมรรถนะ 1,700 แรงม้า 0-100 km/h ใน 1.9 วินาที

Koenigsegg เปิดตัว Hyper Car รุ่นใหม่ล่าสุด แบบ 4 ที่นั่ง ที่มีชื่อว่า Koenigsegg Gemera ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์สุดหรู พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร Twin-Turbo พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า 1,700 แรงม้า โดยได้รับการขนานนามว่าเป็น Mega-GT 4 ที่นั่ง คันแรกของโลก

ทั้งนี้ Koenigsegg Gemera มาพร้อมกับโครงสร้าง Sub-Frame อลูมิเนียม ส่วนตัวถังและชิ้นส่วนทั้งหมดผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา โดยออกแบบมาในสไตล์ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ไร้เสา B-Pillar

โดยดีไซน์ด้านหน้ามาพร้อมกับชุดกันชนอันดุดัน ที่มาพร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่ยาวเชื่อมต่อกันทั้ง 2 ฝั่ง, ชุดไฟหน้าแบบ LED ดีไซน์ทรงบูมเมอแรง 5 เลนเรียงกัน, กระจกมองข้างเป็นแบบกล้องดิจิตอลสะท้อนภาพขึ้นหน้าจอในรถ

ประตูข้างเปิดแบบปีกนกยกขึ้นทำมุม 90 องศา เพื่อรองรับกับการเข้า-ออกตัวรถที่สะดวกสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

ส่วนด้านหลังมาพร้อมแบบ LED แบบ 5 เลนเรียงกันแบบเดียวกันไฟหน้า, สปอยเลอร์ท้ายแบบ Built-in, กันชนท้ายทรงสปอร์ตพร้อมช่องระบายอากาศรังผึ้งขนาดใหญ่ทั้งซ้าย-ขวา, กระจกหลังถูกขนาบข้างด้วยปลายท่อไอเสีย, Diffuser ท้ายขนาดใหญ่ เพื่อรีดอากาศออกจากใต้ท้องรถได้เร็วที่สุด

ด้านล้อแม็กเป็นแบบ Aircore Carbon ที่ทาง Koenigsegg คิดค้นและพัฒนาขึ้นใหม่เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 มาพร้อมเทคโนโลยี Center Locking โดยด้านหน้ามีขนาด 21″ หน้ากว้าง 10.5″ ส่วนด้านหลังมีขนาด 22″ หน้ากว้าง 11.5″ รัดด้วยยาง Michelin Pilot Sport 4S สำหรับรุ่นมาตรฐาน และยาง Michelin Cup R3 เป็นอ็อพชั่นเสริม

มิติตัวถังของ Koenigsegg Gemera

• ความยาว : 4,975 มม.
• ความกว้าง : 1,988 มม.
• ความสูง : 1,295 มม.
• ระยะฐานล้อ : 3,000 มม.
• ระยะต่ำสุดจากพื้น : 117 มม. (ด้านหน้ายกสูงเพิ่มได้ 35 มม.)

สำหรับภายในห้องโดยสารของ Koenigsegg Gemera นั้น มาพร้อมกับเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารแบบ 4 ที่นั่ง ซึ่งเป็นทรง Sport Bucket Seat ที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาทุกที่นั่ง, หลังคาเป็นแบบกระจก Panoramic Sunroof เต็มพื้นที่ห้องโดยสาร, ภายในห้องโดยสารสีทูโทนดำ-เหลือง, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 2 ก้านท้ายตัด D-Shape คาร์บอนไฟเบอร์, หน้าจอดิจิตอลแสดงภาพแทนกระจกมองภาพบริเวณเสา A-Pillar ซ้าย-ขวา

สิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อมไปด้วย หน้าจออินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ ที่สามารถควบคุมการทำงานต่างๆ ของตัวรถได้ครบถ้วนในจอเดียว รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Apple CarPlay อีกทั้งยังมีระบบอินเตอร์เน็ตในตัวด้วย, ลำโพงระดับไฮเอนท์ 11 ตำแหน่ง, ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน, แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายที่ติดตั้งไว้ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง

สำหรับไฮไลท์สำคัญของ Koenigsegg Gemera นั้น อยู่ที่ขุมพลัง ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร Twin-Turbo ระบบวาล์วเป็นแบบ Free-Valve ที่มีชื่อว่า Tiny Friendly Giant (TFG) ให้สมรรถนะสูงสุด 598 แรงม้า (PS) ที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 7,000 รอบ/นาที ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ซึ่งให้สมรรถนะการขับขี่รวมเป็น 1,700 แรงม้า (PS) แรงบิด 3,500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ Single-Speed Direct-Drive ขับเคลื่อน 4 ล้อ

ทั้งนี้ มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 3 ตัว จะเป็นการแยก 2 ตัวในการส่งกำลังไปยังล้อคู่หลัง และอีก 1 ตัวติดตั้งไว้ที่เพลาข้อเหวี่ยง ส่งผลให้ Koenigsegg Gemera มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ดีกว่า Hyper Car หลายๆ คัน โดยสามารถทำได้ภายในระยะเวลาเพียง 1.9 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดที่ทำได้คาดว่าจะอยู่ที่ 399 กม./ชม. และสามารถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว หรือ EV Mode ได้ไกลถึง 50 กม.

ทั้งนี้ Koenigsegg Gemera จะถูกผลิตออกมาจำหน่ายด้วยจำนวนจำกัดเพียง 300 คันเท่านั้น โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 31.5 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีนำเข้า)