รีวิว All-New Honda Forza 350 ที่สุดของพรีเมียม A.T. แห่งปี 2020 ปรับใหม่ครั้งนี้ดีกว่าเดิมเยอะ
เรียกได้ว่าเป็นกระแสร้อนแรงอย่างมาก สำหรับการเปิดตัวครั้งแรกในโลกของ All-New Honda Forza 350 ที่งาน Motor Show 2020 ซึ่งยอมรับตามตรงว่าผู้เขียนเองก็รอคอย และจับตามองเป็นพิเศษ
เนื่องจากปัจจุบันขี่ Honda Forza 300 อยู่แล้ว และการปรับใหม่ครั้งนี้หากพิจารณาให้ลึกถึงแก่นต้องบอกว่ามีความคุ้มค่า เพราะด้วยค่าตัวที่เพิ่มขึ้นมาเพียง 4,500 บาท กับสมรรถนะการขับขี่ที่ได้รับนั้น ต้องบอกว่าอย่างกับรถคนละรุ่นกันเลยทีเดียว
ทั้งนี้ A.P. Honda ไม่รอช้า รีบอัดกระแสดังกล่าวด้วยการเชิญคณะสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบสมรรถนะการขับขี่ของ All-New Honda Forza 350 ซึ่งแน่นอนทีมงาน 9carthai.com รีบตอบรับอย่างไม่รีรอ
และในวันนี้ผมจะมาถ่ายทอดให้ได้ทราบโดยทั่วกัน ว่าโฉมใหม่นั้นแตกต่างจากโฉมเก่าอย่างไร และมีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างไรบ้าง พูดแล้วอย่ารอช้า ไปติดตามกันเลย..
ก่อนอื่นต้องขอเล่าถึงรายละเอียดการเปลี่ยนแปลง และข้อมูลพื้นฐานของตัวรถให้ได้ทราบกันก่อน
โดยดีไซน์ภายนอกของ All-New Honda Forza 350 นั้น หากมองผ่านๆ ก็ดูคล้ายกับโฉม Forza 300 ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ถ้าหากเจาะลึกลงไป
จะทราบว่ามีรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยกันในหลายจุด เริ่มจาก
ชุดแฟริ่งด้านหน้าที่ออกแบบเส้นสายใหม่ พร้อมเจาะทำเป็นช่อง Air Duct ปล่อยให้อากาศไหลผ่านได้ ซึ่งจุดนี้นอกจากจะช่วยเพิ่ม Aerodynamic และความสวยงามแล้ว ยังส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่อีกด้วย ซึ่งจะช่วยลดแรงลมต้านด้านหน้า อันเป็นเหตุให้เกิดอาการหน้าส่ายในโฉม 300 ซึ่งจุดนี้ทาง Honda ตั้งใจแก้ไขมาให้เรียบร้อยแล้ว
ส่วนตัวบังชิลด์หน้ามีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้มีความสปอร์ตเร้าใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งชิลด์หน้ายังมีการปรับเพิ่มสูงขึ้นไปเป็น 150 มม. (จากเดิม 110 มม.) ซึ่งช่วยมอบความสะดวกสบาย และลดแรงลมปะทะขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี สาย Touring น่าจะถูกอกถูกใจ เพราะช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่เดินทางไกล
ส่วนชุดแฟริ่งด้านข้างมีการปรับเส้นสานใหม่เล็กน้อย พร้อมเปลี่ยนวัสดุมือจับผู้ซ้อนท้ายใหม่ให้มีน้ำหนักที่เบากว่าโฉม Forza 300 ที่ช่วยลดแรงกดด้านท้ายลง
ส่วนไฟท้ายยกมาจากโฉม Forza 300 ทั้งชุด ที่เป็นแบบ Full LED พร้อมติดตั้งระบบไฟเบรกฉุกเฉิน ESS มาให้พร้อมจากโรงงาน
ด้านเรือนไมล์ มีการปรับดีไซน์ใหม่เล็กน้อย ด้วยการเพิ่มเส้นสายของโครเมียมเข้าไป ซึ่งยังคงบอกรายละเอียดการทำงานของเครื่องยนต์ผ่านจอ LCD เหมือนเช่นเคย โดยมาตรวัดความเร็ว และรอบเครื่องยนต์จะเป็นแบบเข็มที่ให้อารมณ์สปอร์ต
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง, อุณหภูมิความร้อนเครื่องยนต์, อุณหภูมิอากาศภายนอก, กระแสไฟแบตเตอรี่, ทริปจับระยะทาง 2 ช่อง (Trip A, Trip B), ระยะทางที่สามารถขับขี่ต่อไปได้ (คำนวณจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่), อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย จะแสดงผลแบบดิจิตอลที่จอกลาง
อีกทั้งยังมีระบบไฟแจ้งเตือนการทำงานของระบบ ABS และ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ให้อีกด้วย
มิติตัวถังของ All-New Honda Forza 350
ด้านระบบช่วงล่าง หากจะบอกว่ายกมาจากโฉม Forza 300 ก็คงไม่ผิด แต่ทว่าทางฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ A.P. Honda ระบุว่า มีการปรับเซ็ทน้ำมันในโช้คอัพหน้าใหม่ ที่เป็นแบบเทเลสโคปิคให้มีความนุ่มนวล และหนึบยิ่งขึ้น ส่วนโช้คอัพหลังยังคงเป็นแบบโช้คอัพคู่ยูนิตสวิงตามเดิม
ส่วนระบบเบรกนั้นยังคงเป็นแบบดิสก์เบรกทั้งหน้า-หลัง โดยด้านหน้าจะทำงานร่วมกับปั้มเบรก Nissin 2 Pot ส่วนด้านหลังจะเป็น Nissin 1 Pot ซึ่งมาพร้อมระบบเบรก ABS Dual-Channel
ล้อแม็กด้านหน้าขนาด 15 นิ้ว รัดด้วยยาง IRC ขนาด 120/70-15 และล้อแม็กด้านหลังขนาด 14 นิ้ว รัดด้วยยาง IRC ขนาด 140/70-14 ซึ่งเป็นยางแบบ Tubeless (ไม่มียางใน)
หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็คือ ขุมพลังใหม่! ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บล็อคใหม่ที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น มาในชื่อ eSP+ แบบ 1 สูบ SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
โดยขุมพลังใหม่นี้ มีการเพิ่มบาลานซ์เซอร์ที่ข้อเหวี่ยงใหม่ ซึ่งช่วยให้การหมุนของเครื่องยนต์สมูทมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งอัปเกรดขนาดลูกสูบขึ้นไปเป็น 77 มม. (โฉมเก่า 72 มม.) และปรับระยะช่วงชักเป็น 70.7 มม. (โฉมเก่า 68.6 มม.) ทำให้ได้ขนาดความจุขึ้นไปเป็น 329.60 ซีซี. (จากเดิม 279 ซีซี. เพิ่มขึ้น 50 ซีซี.)
เท่านั้นยังไม่พอ ในส่วนของฝาสูบมีการเปลี่ยนมาใช้กระเดื่องวาล์วแบบโรลเลอร์ยูนิแคม ที่ช่วยลดแรงเสียดทาน อีกทั้งยังขยายหม้อกรองอากาศให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 5.5 ลิตร
เช่นเดียวกับในส่วนของท่อไอเสีย ที่เปลี่ยนมาใช้คอท่อแบบสแตนเลสที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยให้การเผาไหม้และการระบายไอเสียทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ปิดท้ายที่ในส่วนของระบบส่งกำลัง ยังทำการอัพเกรดชชุดคลัทช์เป็น 5 ก้อน (จากเดิม 3 ก้อน) ที่ให้การถ่ายเทกำลังลงสู่พื้นได้ดียิ่งขึ้น และช่วยลดอาการสั่นขณะออกตัวที่เป็นปัญหาจากโฉม Forza 300 ได้อย่างหมดจด
และอีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอบ่อยในรุ่น Forza 300 ที่ทาง Honda ได้แก้ไขมาในรุ่น All-New Honda Forza 350 ก็คือปัญหาความร้อนของเครื่องยนต์
ซึ่งในโฉม Forza 300 นั้น เดิมทีตำแหน่งของหม้อน้ำจะติดตั้งไว้ที่ด้านหน้าเครื่องยนต์ ซึ่งรับลมปะทะได้น้อย ระบายความร้อนไม่ทัน โดยใครที่เคยใช้งานจะรู้เลยว่า U-Box มีความร้อนสะสมเยอะมาก
แต่สำหรับรุ่น All-New Honda Forza 350 นั้น ทาง Honda ได้มีการย้ายตำแหน่งมาไว้ที่ด้านหลังล้อหน้า ซึ่งเป็นจุดที่สามารถรับลมปะทะได้เต็มๆ อีกทั้งยังมีการขยายขนาดพัดลมหม้อน้ำใหม่ให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งจุดนี้รับรองได้เลยว่าช่วยลดความร้อนสะสมของเครื่องยนต์ได้ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน
อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของบาลานซ์รถ และการถ่ายเทน้ำหนักตัวรถที่เปลี่ยนไป เพราะมีการกระจายน้ำหนักด้านหน้า-ด้านหลังที่เหมาะสมยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีประสิทธิภาพการทรงตัว และการขับขี่ที่ดีขึ้นตามมานั่นเอง
หลังจากรู้สเปคพื้นฐานที่ต้องรู้กันไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงคราวสัมผัสสมรรถนะขับขี่จริงกันบ้าง ฟิลลิ่งแรกหลังแฮนด์ของ All-New Forza 350 นั้น
ต้องบอกว่ามิติเหมือนเดิม ขาไม่ถึงพื้นเหมือนเดิม ขนาดตัวรถต่างๆ ไม่แตกต่างกันจากโฉม Forza 300 ยังคงให้ท่วงท่าการขับขี่ที่สบายเหมือนเช่นเคย
ด้านอัตราเร่ง หลังจากที่ได้ลองขี่อย่างสาสมใจ ต้องบอกเลยว่าจุดนี้แตกต่าง และเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน อัตราเร่งในช่วงออกตัวมาเร็ว บิดติดมือ ขี่สนุกขึ้นเยอะ
และที่สำคัญไร้อาการออกตัวสั่นที่พบเจอในโฉม Forza 300 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสมรรถนะของอัตราเร่งมีดังนี้
โดยอัตราเร่งนี้ อ้างอิงจากคลิปวีดีโอทดสอบของ จอห์นไรเดอร์ – Johnrider เพราะในสนามทดสอบมีทางตรงให้ลองแค่ช่วงสั้นๆ เพียง 200 เมตร ซึ่งไม่สามารถเฟ้นหาความเร็วได้อย่างละเอียด
ด้านการควบคุมรถ และการทรงตัว All-New Honda Forza 350 มีความคล่องตัวที่ดี การพลิกรถซ้าย-ขวาทำได้อย่างคล่องตัวเหมือนเดิม แต่จุดที่เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น นั่นคือในเรื่องของความนิ่ง โดยตัวรถมีความมั่นคง และควบคุมได้ตามใจต้องการ (โฉมก่อนจะมีความขืนๆ ของรถอยู่บ้าง)
การเทโค้ง หรือว่า Slalom ทำได้อย่างมั่นใจ และสามารถแบนลงไปได้เยอะ ระบบช่วงล่างแม้จะไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนใหม่แบบยกชุด แต่จุดนี้ถือว่าเพียงพอ และรองรับกับน้ำหนักผู้ขี่ที่หลากหลาย รวมถึงผู้ซ้อนด้วย แต่หากผู้ขี่ที่มีน้ำหนักเบา ก็อาจจะรู้สึกว่ามีความกระด้างอยู่บ้าง
แต่เชื่อเถอะว่าฟิลลิ่งของ All-New Honda Forza 350 นั้น มีขี่ดีกว่าเดิมเยอะจริงๆ
และประเด็นสุดท้ายก็คือในเรื่องของระบบเบรก และระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ซึ่งจุดนี้ก็มีสถานการณ์ให้ได้ทดสอบกันอยู่ด้วย
โดยเจ้าระบบ Traction Control นั้น ทาง Honda ได้มีการปรับเปลี่ยนในส่วนของเซ็นเซอร์ตรวจจับใหม่ ที่สามารถทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยเมื่อตัวรถตรวจจับได้ว่าล้อหลังหมุนฟรี (ล้อหน้า-หลังหมุนไม่สัมพันธ์กัน) ระบบ HSTC จะสั่งการตัดการทำงานของเครื่องยนต์ทันที เพื่อให้ตัวรถกลับมาอยู่ในการควบคุม ซึ่งจุดนี้สามารถเลือกเปิด-ปิดได้จากสวิตช์แฮนด์ฝั่งซ้ายมือ
เช่นเดียวกับระบบเบรก ABS Dual-Channel ที่ปรับการทำงานให้รวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น
โดยผู้เขียนได้ทดลองขี่มาด้วยความเร็วและกดเบรกหนักทั้งหน้าและหลัง ระบบเบรก ABS จะทำงานเพื่อป้องกันล้อล็อคทันที โดยจะมีไฟแสดงการทำงานของระบบ ABS ขึ้นโชว์ให้เห็นที่หน้าจอ ซึ่งจุดนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทาง Honda ตั้งใจติดตั้งมาให้พร้อมจากโรงงาน
บทสรุป
บอกเลยว่านี่คือ ที่สุดของพรีเมียม A.T. แห่งปี 2020 แล้วจริงๆ สำหรับ All-New Honda Forza 350 ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ ที่ดีขึ้นกว่าเดิม และแก้ปัญหาจากโฉมก่อนได้อย่างตรงจุด
อีกทั้งราคาเปิดตัวยังทำให้ช็อคไปทั้งวงการ โดยเฉพาะผู้ที่พึ่งออกโฉม Forza 300 ได้ไม่กี่เดือน เพราะมีราคาที่เพิ่มขึ้นเพียง 4,500 บาท (โฉม Forza 300 ราคา 169,000 บาท) เป็น 173,500 บาท ซึ่งทั้งหมดที่คุณจะได้รับก็อย่างที่ได้อธิบายไปทั้งหมดแล้ว
และสิ่งสุดท้ายที่อยากจะบอกคือ All-New Honda Forza 350 มี Top Speed อยู่ที่ 157 กม./ชม. หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือจมไมล์ตั้งแต่ออกจากศูนย์เลยนั่นเอง ซึ่งพูดกันตามตรงนี่คือพรีเมียม A.T. ที่แรงที่สุดในคลาส และมีอ็อพชั่นที่จัดเต็มที่สุดในคลาสอีกด้วย
ดูตารางเงินผ่อนคลิก ใหม่ Honda Forza 350 2020-2021 ราคา ฮอนด้า ฟอร์ซ่า 350 ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์
แนะนำ รีวิวมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆ
รีวิว GPX Demon GR200R สปอร์ตไบค์สายเลือดไทย ดีไซน์ดุดัน อ็อพชั่นจัดเต็ม
รีวิว Honda CT125 มอเตอร์ไซค์ที่พร้อมจะคุณไปค้นหาชีวิต และเส้นทางในแบบที่คุณต้องการ
รีวิว Yamaha Aerox 155 R-Version ขีดสุดแห่งความเร้าใจ สายพันธุ์สปอร์ตออโตเมติก แรงสุดในคลาส!!
รีวิว Yamaha Finn มอเตอร์ไซค์ครอบครัวสไตล์โมเดิร์น..ขี่ยังไงก็ฟินน์
รีวิว Yamaha Exciter 150 ขีดสุดของความเร้าใจ สูบฉีดอะดรีนาลีนให้พลุ่งพล่านทุกจังหวะคันเร่ง
รีวิว All-New Yamaha NMAX155 พรีเมียม A.T. สุดคุ้มค่า ซ่าได้เต็มแม็กซ์ ราคา 85,900.
รีวิว Yamaha XSR 155 สปอร์ตเฮอริเทจน้องเล็กในตระกูล XSR เท่เกินใคร เร้าใจเกินตัว
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว All-New Honda Forza 350 ที่สุดของพรีเมียม A.T. แห่งปี 2020 ปรับใหม่ครั้งนี้ดีกว่าเดิมเยอะ "