Royal Enfield Classic 350 เปิดตัวแล้วที่อินเดีย มีให้เลือกถึง 11 สี
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 9 ก.ย. 64 – รอยัล เอนฟิลด์ (Royal Enfield) เป็นสัญลักษณ์ของความยืดหยุ่น การมีอายุยืนยาวอย่างมีเป้าประสงค์ และความเป็นของแท้ มาตั้งแต่ปี 1901 โดยได้สืบสานมรดกของการสร้างรถจักรยานยนต์แนวคลาสสิกที่เรียบง่ายและกลมกลืน ผสมผสานงานฝีมือแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่รถจักรยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบ
ในโอกาสฉลองครบรอบปีที่ 120 นี้ รอยัล เอนฟิลด์ได้คิดค้นและสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวเองในมุมใหม่ นั่นคือ รุ่น Classic ด้วยการเปิดตัว All-New Royal Enfield Classic 350 ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์คลาสสิกเหนือกาลเวลาที่สร้างสรรค์ขึ้นมาพร้อมมุมมองใหม่เพื่อตอบสนองแรงบันดาลใจยุคใหม่ ความงามล้ำเลิศและความมั่นใจของรถรุ่นคลาสสิก ซึ่งบัดนี้ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอีกขั้นเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล แม่นยำ และสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
All-New Royal Enfield Classic 350 สร้างตำนานบทใหม่ให้กับรอยัล เอนฟิลด์ในการสร้างรถจักรยานยนต์ตามแบบฉบับของอังกฤษยุคหลังสงคราม ซึ่งเป็นที่รักของผู้ที่ชื่นชอบจักรยานยนต์ทั่วโลก มรดกตกทอดของรุ่น Classic นี้มีความเป็นมาย้อนไปถึงปี 1948 ที่รถจักรยานยนต์สุดล้ำในเวลานั้นอย่าง Royal Enfield Model G2 เป็นรุ่นแรกที่มีระบบกันสะเทือนหลังแบบสวิงอาร์มในรถจักรยานยนต์ที่ผลิตเต็มรูปแบบ ซึ่งทั้งสวยงามและมีสมรรถนะที่เชื่อถือได้
Model G2 จึงเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบอันแรงกล้าสำหรับ Classic 500 และ Classic 350 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเปิดตัวในปี 2008 ปรัชญาการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายหากแต่ดูสง่างามพร้อมรายละเอียดต่าง ๆ ที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานกับการสื่อถึงลีลาท่าทางที่ออกแนวขึงขังและเป็นผู้สั่งการ แต่กลับขับขี่ได้สะดวกสบายและวางใจได้ด้วย เครื่องยนต์ UCE ทำให้ขึ้นแท่นเป็นจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่จักรยานยนต์เป็นกิจกรรมยามว่าง
นับตั้งแต่เปิดตัว รุ่น Classic นี้ได้กลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่ให้นิยามใหม่แก่รถจักรยานยนต์รุ่นมิดเดิ้ลเวท และก่อให้เกิดการฟื้นคืนชีพของรอยัล เอนฟิลด์ โดยเริ่มก้าวเป็นผู้นำระดับโลกในเซกเมนต์นี้ ในอีก 12 ปีต่อมาและหลังจากจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 3 ล้านคัน รุ่น Classic ได้สร้างตำนวนที่เป็นของตัวเอง และ Classic 350 ใหม่ก็พร้อมแล้วที่จะสานต่อตำนานบทนี้ไปข้างหน้า
คุณสิทธัตถะ ลาล, กรรมการผู้จัดการ, ไอเชอร์ มอเตอร์ส กล่าวถึงตำนานที่ยังสืบสานมาถึงปัจจุบันของรุ่น Classic และให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดตัว Royal Enfield Classic 350 ใหม่ ว่า “Classic 350 ซึ่งเปิดตัวในปี 2008 ในครั้งนั้นนับเป็นรถจักรยานยนต์ที่ทันสมัยและมีขีดความสามารถที่เป็นสัญลักษณ์ของรถสไตล์หลังสงครามที่ไร้กาลเวลาจากยุครุ่งเรืองของอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ของอังกฤษ เป็นภาษาการออกแบบที่น่าดึงดูดใจและความเรียบง่ายควบคู่ไปกับความน่าเชื่อถือ ผลักดันให้ Classic เป็นที่นิยมไปทั่วโลก และได้สร้างนิยามใหม่ของเซกเมนต์รถจักรยานยนต์รุ่นมิดเดิ้ลเวท (250-750cc) อีกด้วย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการสร้างรถจักรยานยนต์ที่มีรูปลักษณ์สวยงามเหนือกาลเวลา คลาสสิก และขับขี่ได้อย่างเพลิดเพลิน และ Classic 350 ใหม่ก็เป็นอย่างนั้น โดย All-New Classic 350 ผสมผสานการออกแบบที่ถือเป็นต้นแบบและไร้กาลเวลานี้เข้ากับประสบการณ์การขับขี่ที่ทันสมัยและประณีตอย่างแท้จริง ทั้งหมดถูกพัฒนาขึ้นโดยมีจุดเริ่มต้นจากเครื่องยนต์ J-series อันทันสมัย พร้อมแชสซีส์ใหม่ทั้งหมด Classic 350 จึงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับและไร้ที่ติ ซึ่งแทบรู้สึกเหมือนได้กลับมาขับขี่อีกครั้งเป็นครั้งแรก
เราให้ความสำคัญกับทุกแง่มุมของรถจักรยานยนต์เป็นอย่างมาก ตั้งแต่รูปลักษณ์อันน่าทึ่ง ไปจนถึงความสมบูรณ์แบบในชิ้นส่วนและจุดสัมผัส ไปจนถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่ไร้ที่ติ เครื่องยนต์ที่ได้รับการสอบเทียบอย่างดีเยี่ยมนั้นมีความราบรื่นเป็นพิเศษ ตอบสนองตามสัญชาตญาณและให้การตอบรับต่อการบังคับรถของผู้ขับขี่เป็นอย่างดี และให้เสียงดังของเครื่องยนต์ที่ไม่รำคาญโสตประสาทเมื่อเร่งความเร็ว
ในส่วนของแชสซีก็ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด สร้างความมั่นใจอย่างมากในขณะบังคับควบคุม ทั้งยังทรงตัวได้ดีโดยเฉพาะในสถานการณ์การจราจรคับคั่งและในมุมที่คดเคี้ยว Classic เป็นรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่สบายที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยเบาะนั่งและระบบกันสะเทือนที่นุ่มสบาย และด้วยการออกแบบเชิงการยศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าจักรยานยนต์จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มจักรยานยนต์ระดับเดียวกัน และทั้งยังให้ความละเมียดละไมและขับขี่สบายอย่างน่าทึ่ง
เรามั่นใจว่า All-new Classic 350 ที่ได้รับการขัดเกลามาดีอย่างเหลือเชื่อนี้จะสร้างนิยามใหม่ให้วงการรถจักรยานยนต์ขนาดกลางทั่วโลกอีกครั้ง”
Royal Enfield Classic 350 ถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมนักออกแบบและวิศวกรมากความสามารถที่ศูนย์เทคโนโลยีล้ำสมัยสองแห่งของรอยัล เอนฟิลด์ในประเทศอินเดีย และสหราชอาณาจักร
โดยมีการดูแลใส่ใจเป็นพิเศษเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่จะได้ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเมื่อขับ Classic 350 ใหม่ แชสซีก็ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อความสะดวกสบายและความคล่องตัวที่เหนือกว่า ทั้งยังมีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทำความเร็วสูงขึ้นขณะเข้าโค้ง และให้ความรู้สึกมั่นคงและยึดเกาะถนนทางตรงได้ดีเยี่ยมเช่นกัน
ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าและด้านหลังได้รับการพัฒนาอย่างครบถ้วนทุกรายละเอียดเพื่อให้นั่งบนอานได้อย่างสบายยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการใช้หลักการยศาสตร์ในการขับขี่ที่ดีขึ้นและการเบรกที่มั่นใจมากขึ้น Classic ให้ความรู้สึกคล่องตัวและตอบสนองได้ดี จึงมั่นใจได้ว่าประสบการณ์การขับขี่ในแต่ละครั้งจะเป็นประสบการณ์ที่ดีขึ้น
Royal Enfield Classic 350 มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยโทนสี 11 สี เริ่มด้วย Redditch series, the Halcyon series, the Classic Signals, the Dark series และ Classic Chrome
ทุกรุ่นติดตั้งระบบเบรก ABS แบบ dual channel ABS และ dual disc brakes ยกเว้นรุ่น Redditch ที่มีระบบเบรก ABS แบบช่องเดี่ยวและดิสก์เบรกที่ด้านหน้า
แม้รูปลักษณ์และขนาดของ All-new Classic 350 ยังคงรักษาความงามและแก่นแท้ที่เหนือกาลเวลา ทุกแง่มุมของรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ได้รับการอกแบบใหม่ทั้งคัน โดยมีรูปลักษณ์ที่ดูสดใหม่ ไม่ซ้ำกับรุ่นก่อน ๆ ทั้งยังมีความลงตัวพอดีและการตกแต่งระดับพรีเมียมทั้งหมด สะท้อนสไตล์ของรถจักรยานยนต์อังกฤษยุคหลังสงครามอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
พร้อมความกลมกลืนของเส้นสายและลวดลายที่ไหลจากด้านหน้าไปยังส่วนท้ายที่ยังคงทำให้ Classic 350 เป็นจักรยานยนต์ที่มีรูปลักษณ์ที่สวยงามโดดเด่น รถจักรยานยนต์รุ่นนี้มาพร้อมถังทรงหยดน้ำแบบ Casquette ที่เป็นซิกเนเจอร์สไตล์ของรอยัล เอนฟิลด์ และมีไฟหน้า รวมถึงไฟสัญญาณนำร่องแบบใหม่อีกด้วย
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาช่วงเวลาสบาย ๆ บนอานรถ Classic ใหม่มีเบาะนั่งใหม่ที่กว้างขึ้นพร้อมเบาะรองนั่งบุด้วยโฟมนุ่ม นอกจากนี้ยังมพร้อมแฮนด์แบบใหม่ ตำแหน่งการขี่ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายควบคู่กับความรู้สึกคลาสสิกที่คุ้นเคย แผงหน้าปัดแบบ digi-analog ใหม่ มีจอแสดงผล LCD ที่ทันสมัย มีจุดชาร์จ USB อยู่ใต้แฮนด์เพื่อความสะดวกในการชาร์จอย่างรวดเร็วขณะเดินทาง
ระบบนำทาง Tripper แบบ turn-by-turn มีให้ใช้งานเป็นอุปกรณ์เสริม Make It Yours (MiY) ใน Chrome series ทั้งนี้ MiY เป็นเครื่องมือเฉพาะของรอยัล เอนฟิลด์ ที่ส่งเสริมการแสดงออกถึงตัวตนของผู้ขับขี่ ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับแต่งรถจักรยานยนต์ได้ตามความต้องการเฉพาะของตนเอง
Classic 350 ใหม่ จะวางจำหน่ายพร้อมกับชุดอุปกรณ์เสริม Genuine Motorcycle Accessories มากมาย ซึ่งได้รับการออกแบบและพัฒนาเพื่อเสริมความเก่งกาจ รวมทั้งเพิ่มความสะดวกสบาย ประโยชน์ใช้สอย และเสริมสไตล์ ชุดอุปกรณ์เสริมใหม่สำหรับ Classic 350 มีมาให้เลือกตามวัตถุประสงค์การใช้งานและมีตัวเลือก 35 แบบที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแต่ละธีม ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเสริมรูปลักษณ์และฟังก์ชั่นของรถจักรยานยนต์ได้ตามความต้องการหรือความชอบส่วนตัว
ทั้งนี้ อุปกรณ์เสริมสำหรับรถจักรยานยนต์ของ รอยัล เอนฟิลด์ มาพร้อมการรับประกัน 3 ปีแบบครอบคลุม และได้รับการออกแบบ พัฒนา และรับรองเพื่อใช้ควบคู่ไปกับรถจักรยานยนต์ และเพื่อการแสดงออกถึงตัวตนของผู้ขับขี่แต่ละคน อุปกรณ์การขี่ที่ได้รับการคัดสรร รวมทั้งหมวกกันน็อค เสื้อยืด และอุปกรณ์ไลฟ์สไตล์ได้รับการออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Classic 350 ด้วยเช่นกัน
Classic 350 ใหม่ นำพาตำนานความคลาสสิกสมัยใหม่เสริมเข้าไปไว้ในขอบข่ายผลิตภัณฑ์ของรอยัล เอนฟิลด์ การออกแบบที่เป็นแบบฉบับและไร้กาลเวลาของรถจักรยานยนต์จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ ในขณะที่การยศาสตร์และความประณีตจะเพิ่มความสุนทรีทุกครั้งที่ผู้ขี่ขับขี่ขึ้นนั่งบนอาน
Classic 350 ใหม่ ทุกรุ่นมีให้จอง และทดลองขับแล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายในประเทศอินเดีย ยกเว้น Redditch series ซึ่งจะวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 เป็นต้นไป
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Royal Enfield Classic 350 เปิดตัวแล้วที่อินเดีย มีให้เลือกถึง 11 สี "