วิเคราะห์จุดแข็งของรถจาก KIA ในรุ่น “Sorento SUV” ใหม่ล่าสุด

ภายใต้การแข่งขันอย่างมากในตลาดโลกนั้นทำให้ค่ายรถต่างๆต้องทำการบ้านกันอย่างหนักหากหวังจะเอาชนะใจลูกค้า นอกจากนี้ยังต้องทำรถในโฉมเรนเดอร์ออกมาก่อนเพื่อเซอร์เวย์ฐานข้อมูลก่อนจะเปิดตัวรถต้นแบบอย่างจริงจัง

และล่าสุดเป็นทางค่ายรถอย่าง KIA ที่พร้อมจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่าง “Sorento SUV” เพื่อมาแข่งขันกับรถอย่าง Ford Explorer ในเวทีระดับโลก โดยพวกเขาได้ใช้ต้นแบบจากรถอย่าง Hyundai Santa Fe มาใช้งาน

โดยรถคันนี้ถือเป็นรถแบบ  Sorento 3rd generation model (รุ่นที่ 3) ของพวกเขาแล้วในรุ่นปี 2014 นี้หลังจากการเปิดตัวครั้งสุดท้ายต้องย้อนไปถึงปี 2009 โน่นเลย โดยทาง Carscoops ได้เจาะลึกรายละเอียดมาให้ชมกัน

Bold New Design (การออกแบบใหม่)

สำหรับรถรุ่นใหม่นี้จะได้ทางทีมงานของ  Peter Schreyer ผู้เชี่ยวชาญด้านไฟ LED มาออกแบบโดยมีการเปลี่ยนแปลงไฟหน้าจากเดิมไปพอสมควรเนื่องจากเป็นเทคโนโลยีการกระจายแสงจากด้านหน้าแบบใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อนช่วยให้มันสว่างขึ้นอย่างชัดเจน

นอกจากนี้รูปทรงทางด้านหน้าจะใช้เป็นรูปแบบของ  Kia’s “Tiger Nose” พร้อมด้วยไฟตัดหมอกขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใต้ไฟล่างที่เห็นเด่นชัดเป็นทุนเดิม

ปิดท้ายด้วยรูปทรงของเสา  A-pillar ทางด้านหลังที่เพิ่มความแข็งแรงให้ห้องโดยสารส่วนหลังมากขึ้น, กระจกหลังมีความแข็งแกร่งและมีรูปทรงโค้งที่สวยงามมากกว่าเดิม ปิดท้ายด้วยกระบังลมทางด้านหลังที่ออกแบบตามหลักของอากาศพลศาสตร์

How Many People Can It Seat? (จำนวนที่นั่งทั้งหมด)

เช่นเดียวกับรถต้นแบบจากทาง Hyundai เจ้ารถรุ่นใหม่ของ KIA นั้นจะทำให้มีทั้งหมด 7 ที่นั่งด้วยกัน โดยแบ่งเป็น 3 แถวเพื่อใช้ประโยชน์ภายในห้องโดยสารให้มากกว่าเดิม นอกจากนี้ด้านหลังจะมีพื้นที่การวางขามากขึ้นด้วย

นอกจากนี้พวกเขายังยืนยันด้วยว่ารถในโฉมแบบ MY2014 version รุ่นใหม่นั้นจะใช้วัสดุที่ดีกว่าเดิมในการทำห้องโดยสารแน่นอนและจะออกแบบทุกอย่างเพื่อเอื้อเฟื้อกับผู้โดยสารภายใน

Market Positioning (จุดยืนทางการตลาด)

ด้วยการเพิ่มขนาดพื้นที่ภายในและภายนอกนั้นจะทำให้เจ้ารถแบบ next generation Sorento คันนี้เข้าใกล้กับรถขนาดใหญ่อย่าง ord Explorer, Chevrolet Traverse, Nissan Pathfinder, Dodge Durango และพี่ใหญ่อย่าง Hyundai Santa Fe

โดยค่ายรถชื่อดังจากเกาหลีใต้ยังเชื่อมั่นว่าด้วยการทุ่มเทพลังในการออกแบบรถครั้งนี้จะทำให้ KIA มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้นในรถแบบ SUV และจะเปิดตัวในบ้านเกิดก่อนประมาณเดือนกันยายนก่อนจะข้ามฟากไปยังสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายนต่อไป