All-New Toyota Corolla Altis โฉมยุโรป พร้อมภาพและรายละเอียดเต็มรูปแบบ

หลังจากการปล่อยภาพชุดแรกอย่างเป็นทางการของ Corolla sedan โฉมใหม่ ออกมาในยุโรปและตลาดอื่นๆ ล่าสุดทางค่ายผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Toyota เพิ่งปล่อยข้อมูลเต็มๆ สำหรับโมเดล saloon ขนาดกะทัดรัดผ่านสื่อดังนี้

โมเดล Corolla ในเจนเนอรชั่นที่ 11 มาพร้อมการตกแต่งภายในที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะที่นั่งตรงผู้โดยสารด้านหลัง เนื่องจากมีฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่นก่อนถึง 100 มิลลิเมตร (2,700 มิลลิเมตร) มิติตัวถังประกอบด้วยความยาว 4,620 มิลลิเมตร (181.9 นิ้ว), ความกว้าง 1,775 มิลลิเมตร (69.9 นิ้ว) และความสูง 1,465 มิลลิเมตร (57.7 นิ้ว) ซึ่งยาวกว่า 80 มิลลิเมตร, กว้างกว่า 15 มิลลิเมตร และเตี้ยกว่า 5 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีพื้นที่ตรงฝากระโปรงหลังใหญ่กว่าถึง 452 ลิตร (16 ลูกบาศก์ฟุต) แม้จะมีด้านหลังที่ยื่นออกมาสั้นกว่าก็ตาม

ในยุโรป Corolla โฉมใหม่ จะนำเสนอสมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซล และเครื่องยนต์เบนซินอีก 4 แบบ โดยเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล D-4D ขนาด 1.4 ลิตร จะส่งกำลังที่ 89 แรงม้า (90PS) และแรงบิด 205 Nm (151 lb-ft) จาก 1,800 ถึง 2,800 rpm เชื่อมต่อกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมอัตราประหยัดน้ำมัน 3.8 ลิตร/100 กม. (61.9 ไมล์/แกลลอน ในอเมริกา) และอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 99 กรัม/กม. โดยเครื่องยนต์จะวางจำหน่ายพร้อมเกียร์ MultiMode 6 สปีด และเทคโนโลยี Stop & Start

ในส่วนของเครื่องยนต์เบนซินรุ่นพื้นฐาน จะมาพร้อมเครื่องยนต์ Dual VVT-i ขนาด 1.33 ลิตร พร้อมกำลัง 98 แรงม้า (99PS) และแรงบิด 128 Nm (94 lb-ft) ที่ 3,800 rpm อัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 5.6 ลิตร/100 กม. (42 ไมล์/แกลลอน ในอเมริกา) สำหรับเวอร์ชั่นมาตรฐาน พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

รุ่นต่อมาได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-i ขนาด 1.6 ลิตร ส่งกำลัง 120 แรงม้า (122PS) และแรงบิด 154 Nm (113 lb-ft) ที่ 5,200 rpm อัตราประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 6.6 ลิตร/100 กม. (35.6 ไมล์/แกลลอน ในอเมริกา) เชื่อมต่อกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แต่จะลดลงไปเป็น 6.3 ลิตร/100 กม. (37.3 ไมล์/แกลลอน ในอเมริกา) เมื่อเชื่อมต่อกับเกียร์ Multidrive S CVT โฉมใหม่

เครื่องยนต์เบนซินแบบที่สาม ได้แก่ เครื่องยนต์ Valvematic ขนาด 1.6 ลิตร ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบ Dual Variable Valve Timing-intelligent (Dual VVT-i) ของทางค่าย ส่งกำลังที่ 130 แรงม้า (132PS) และแรงบิด 160 Nm (118 lb-ft) ที่ 4,400 rpm อัตราประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 6 ลิตร/100 กม. (39.2 ไมล์/แกลลอน ในอเมริกา) พร้อมเชื่อมต่อกับเกียร์ธรรมดา

สุดท้ายคือเครื่องยนต์ที่มาพร้อมสมรรถนะสูงสุด ได้แก่ เครื่องยนต์ Dual VVT-i ขนาด 1.8 ลิตร เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติ Multidrive S ส่งกำลังที่ 138 แรงม้า (140PS) และแรงบิด 173 Nm (127 lb-ft) ที่ 4,000 rpm อัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 6.4 ลิตร/100 กม. (36.8 ไมล์/แกลลอน ในอเมริกา)

Corolla โฉมใหม่ จะวางจำหน่ายใน 3 เกรด ได้แก่ Live, Active และ Lounge โดยขึ้นอยู่กับอุปกรณ์, ระบบ Smart Entry & Start, ระบบปรับอากาศสองโซน, ระบบ Simple Intelligent Park Assist (SIPA) และระบบ Toyota Touch 2 multimedia

นอกจากสมรรถนะในเรื่องเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันระหว่าง Corolla sedan โฉมยุโรป และอเมริกาเหนือแล้ว ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกเล็กน้อยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะงานดีไซน์ด้านหน้า, ไฟท้าย, แผงอุปกรณ์ และตัวควบคุมแด๊ชบอร์ด