Callum เนรมิต Jaguar C-X75 ให้เป็นซูเปอร์คาร์ถูกกฎหมายบนท้องถนน

Callum เนรมิต Jaguar C-X75 ให้เป็นซูเปอร์คาร์ถูกกฎหมายบนท้องถนน

Jaguar C-X75 คอนเซปต์ซูเปอร์คาร์จากปี 2010 ที่ไม่เคยได้ผลิตจริง แต่มันได้กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งจากภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ Spectre ปี 2015 ซึ่งยังมีรุ่นนี้เหลืออยู่สี่คันในมือของนักสะสม ล่าสุด Callum บริษัทของดีไซเนอร์ Ian Callum ได้ปรับโฉมคันที่สองจากภาพยนตร์นี้ให้กลายเป็นซูเปอร์คาร์ที่พร้อมใช้บนท้องถนน

จากโปรเจคครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2024, ขณะนี้มี C-X75 สองในสี่คันที่ได้รับการปรับแต่งจาก Callum โดยล่าสุด คันที่ 001 ได้ถูกปรับแต่งให้หรูหราและปราดเปรียวที่สุด ด้วยการตกแต่งใหม่ทั้งภายนอกและภายใน

สัมผัสความงดงามที่ “เกือบพลาด” ของ C-X75 ที่กลายเป็นจริงได้

Ian Callum ได้อธิบายว่า C-X75 คือตำนานที่ “เกือบไม่ได้สร้าง” เขากล่าวว่า “เรารวมความต้องการของลูกค้ากับการออกแบบที่เน้นรายละเอียด เพื่อมอบสิ่งที่ C-X75 สมควรได้รับ”

ทีมงานใช้เวลา กว่า 1,000 ชั่วโมง ในการปรับแต่งตัวถัง, ปรับช่องว่างของแผงให้น้อยลง, และทำสีใหม่เป็น Willow Green พร้อมเพิ่มรายละเอียดอย่างขอบอะลูมิเนียมปัดเงา, กระจังโลหะ, ฝาถังน้ำมันออกแบบเฉพาะ และไฟท้ายปรับใหม่ให้กระจายแสงดียิ่งขึ้น

เสริมสมรรถนะกับเทคโนโลยีแอโรไดนามิกส์ที่ออกแบบใหม่

ระบบแอโรไดนามิกส์แบบแอ็คทีฟ ที่ Callum เพิ่มเติมเข้ามาช่วยเพิ่มความเสถียรขณะขับเคลื่อนและทำให้บังคับรถได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเสริมด้วยล้อแม็กอัลลอยขนาด 20 และ 21 นิ้วจากต้นฉบับ

ภายในหรูหรา ล้ำสมัย และสะดวกสบาย

ห้องโดยสารของรถที่เคยใช้ในภาพยนตร์ถูกแปลงโฉมให้หรูหราและนั่งสบายยิ่งขึ้น พวงมาลัยที่ออกแบบใหม่และเบาะบัคเก็ตซีทจากหนัง Bridge of Weir ในสีเขียวเข้มและครีมทำให้การตกแต่งภายในสวยงามมากขึ้น

แผงควบคุมบนคอนโซลกลางมีการรวมจอสัมผัสเล็ก ๆ พร้อมเทคโนโลยีใหม่ เช่น แผ่นชาร์จไร้สาย, Apple CarPlay, ระบบเสียงสั่งทำพิเศษ, และกระจกมองหลังดิจิตอล อีกทั้งยังเพิ่มระบบปรับอากาศที่ช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ดีขึ้นอีกด้วย

สมรรถนะของขุมพลัง V8 ที่ทรงพลังและขับง่ายในชีวิตประจำวัน

ยังคงใช้เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จขนาด 5.0 ลิตร ที่ตอนนี้มาพร้อมเกียร์ออโต้ 7 สปีดแบบคลัตช์คู่ ส่งกำลังไปยังล้อหลัง โหมดขับขี่สปอร์ตยังช่วยปรับการตอบสนองของคันเร่งและทำให้เสียงท่อดังกระหึ่ม

ระบบช่วงล่างก็ถูกปรับจูนใหม่หลังจากทดสอบอย่างหนัก อีกทั้งยังมีระบบยกหน้ารถแบบไฮดรอลิกส์ที่ช่วยให้ C-X75 ผ่านทางชันหรือเนินลูกระนาดได้อย่างไร้ปัญหา

ค่าปรับโฉมอาจสูงพอๆ กับค่ารถ แต่ก็คุ้มค่าสำหรับคนที่ชอบความโดดเด่น

แม้ Callum จะไม่เผยราคาการปรับแต่งในครั้งนี้ แต่เชื่อได้ว่ามันไม่ธรรมดา ซึ่งยังต้องรอดูว่าเจ้าของ C-X75 คันที่เหลือจะเข้ามาใช้บริการปรับแต่งพิเศษนี้ด้วยหรือไม่

สุดท้ายนี้ ถ้าหากทางทีมงานทราบข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ