อากาศร้อน..รถติด..สู่ขิตแน่ หากไม่ดูแลเช็คเลขไมล์..ถ่ายน้ำมันเครื่อง
เชื่อว่าผู้ใช้รถยนต์หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่า อากาศร้อนๆ บวกกับสภาพจราจรที่แสนติดขัดของเมืองไทย ที่เราต่างพบเจอและเห็นจนเป็นภาพชินตานั้น จะเป็นอีกตัวการสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะองค์ประกอบภายในที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ อย่าง “น้ำมันเครื่อง” ที่ต้องรับหน้าที่หล่อลื่น-ลดการสึกหรอและระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ ซึ่งเมื่อต้องเจอความร้อนและปัญหารถติดบ่อยๆ ทุกวันๆ ย่อมส่งผลทำให้น้ำมันเครื่องมีอายุการใช้งานที่สั้นลง
ด้วยเพราะคุณสมบัติเฉพาะตัวของน้ำมันเครื่องที่เสื่อมถอยด้อยค่าลง ก็ยิ่งทำให้เครื่องยนต์ของรถคุณทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สิ่งที่ตามมาคือ เครื่องยนต์อาจชำรุดเสียหาย หรือที่สุดแล้วคุณต้องจำใจเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเร็วขึ้นกว่าปกติ
เมื่อแก้ต้นเหตุไม่ได้ (ความร้อน-รถติด) ก็แก้ที่ปลายเหตุแทน วิธีง่ายๆ คือเจาะจงเลือกใช้น้ำมันเครื่องแบรนด์ที่เค้าให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้ รับรองจบแบบไม่เจ็บ!
ผมขออธิบายพอให้เห็นภาพเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ซึ่งในคอนเทนต์นี้ขอพุ่งประเด็นมาที่เครื่องยนต์เบนซินนะครับ โดยเจ้าเครื่องยนต์เนี่ย ถือเป็นต้นกำเนิดของพลังงานที่ใช้สำหรับขับเคลื่อนยานพาหนะหลากหลายรูปแบบ ที่เห็นๆ ก็มีตั้งแต่มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ไม่ว่าจะอีโคคาร์ รถเก๋งซีดาน หรือแม้กระทั่งรถสปอร์ตสมรรถนะสูง และปัจจุบันก็ยังนำมาใช้กับรถยนต์แบบลูกผสมอย่างไฮบริดอีกด้วย
โดยกว่าจะได้มาซึ่งพละกำลังในการขับเคลื่อน ไม่เพียงเกิดจากกระบวนสันดาปภายในด้วยน้ำมันเบนซินและความร้อนจากหัวเทียนเป็นตัวจุดระเบิดเท่านั้น แต่ยังมีองค์ประกอบสำคัญอื่นๆ อีกมากมายที่ส่งผลให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และมีอายุการใช้งานคงทนยาวนาน
ด้วยองค์ประกอบของเครื่องยนต์เบนซิน มีชิ้นส่วนภายที่เป็นโลหะอยู่ไม่น้อย และยังมีการหมุน-ขยับ-ปรับ-เคลื่อนไหว ทำให้การเสียดสีเสียดทานอยู่ตลอดเวลาระหว่างชิ้นส่วน และการเสียดสีกันโดยตรงนี่แหละ ที่ทำให้เกิดการสึกหรอและเกิดความร้อนสะสมขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นเพื่อลดการเสียดสีและความร้อนสะสมของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ จึงต้องมีผู้ช่วยอย่าง “น้ำมันเครื่อง” เข้ามาทำหน้าที่โดยเป็น “ตัวกลาง” ระหว่างผิวโลหะของชิ้นส่วนแต่ละตัว ไม่ให้เกิดการเสียดสีกันโดยตรง เสมือนเป็นชั้นฟิล์มที่เคลือบลงบนผิวของชิ้นส่วนต่างๆ
นอกจากนี้ “น้ำมันเครื่อง” ที่ดียังต้องทำหน้าที่ “ระบายความร้อน” ให้กับเครื่องยนต์ เพราะในขณะเครื่องยนต์ทำงานจะเกิดความร้อนสะสมขึ้นกับชิ้นส่วนต่างๆ และน้ำมันเครื่องก็จะเข้าไปช่วยดูดซับความร้อนเสมือนว่าเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้เครื่องยนต์สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาซึ่งสมรรถนะอย่างเต็มกำลัง
อย่างไรก็ดี “น้ำมันเครื่อง” ไม่ได้เป็นผู้ดูแลปกป้องเครื่องยนต์ตลอดกาล ยิ่งนานวันยิ่งใช้ไป ย่อมมีการเสื่อมสภาพไปตามเวลา และส่งผลให้คุณสมบัติที่ดีของน้ำมันเครื่องลดทอนลงไปด้วย ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าทำไมที่แกลอนหรือขวดผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง ถึงต้องมีฉลากกำหนดระยะทางการใช้งานไว้อย่างชัดเจน
โดยปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าผู้ผลิตน้ำมันเครื่องในแต่ละแบรนด์ ล้วนต่างเร่งค้นคว้าวิจัยพัฒนาน้ำมันเครื่องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมมากกว่าเดิม สามารถก้าวทันและรองรับซัพพอร์ตกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ๆ รวมปัจจัยของสภาพจราจรที่ติดขัดมากกว่าเดิม ซึ่งส่งผลให้พฤติกรรมการขับขี่เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย
หนึ่งในนั้นคือ “คาสตรอล” ผู้ผลิตน้ำมันเครื่องแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่พัฒนาน้ำมันเครื่องประสิทธิภาพสูง ภายใต้ชื่อ “คาสตรอล แม็กนาเทค” มาพร้อมกับคุณสมบัติการหล่อลื่นและปกป้องที่เหนือกว่านวัตกรรมลิขสิทธิ์เฉพาะ “ดูอัลล็อก เทคโนโลยี” ที่ใช้เวลาค้นคว้าวิจัยยาวนานกว่า 10ปี โดยผู้เชี่ยวชาญของคาสตรอลผ่านการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก
ก่อนจะทำการผลิตน้ำมันเครื่องออกมาจำหน่ายก็ไม่ใช่ทำกันง่ายๆ เพียงชั่วข้ามคืน โดย “คาสตรอล” ได้ทำการสำรวจและพบว่าสภาพจราจรปัจจุบันตามเมืองใหญ่แทบทั่วทุกมุมโลก มีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พฤติกรรมของผู้ใช้รถต้องเบรกๆ เร่งๆ และออกตัวอยู่บ่อยๆ คิดเป็นจำนวนมากกว่า 18,000 ครั้งต่อปี และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์เกิดการสึกหรอ
“คาสตรอล” คิดค้นพัฒนาจนได้มาซึ่งน้ำมันเครื่องที่ตอบโจทย์ผู้ใช้รถได้ตรงจุด ด้วยน้ำมันเครื่อง “คาสตรอล แม็กนาเทค” ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม “ดูอัลล็อค เทคโนโลยี” องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยลดการสึกหรอเครื่องยนต์ได้ถึง 50% ปกป้องเครื่องยนต์ได้เหนือกว่าน้ำมันเครื่องทั่วไป ผ่าน 3 ขั้นตอนสำคัญ โมเลกุลเข้ายึดเกาะ(Cling) – ประสานตัว (Locks) – สร้างสนามพลังเพื่อการปกป้อง (Protects)
1.โมเลกุลอัจฉริยะ ทำหน้าที่ยึดเกาะชิ้นส่วนเครื่องยนต์เหมือนแม่เหล็ก (Cling) แม้ขณะเครื่องยนต์ไม่ได้ทำงาน ซึ่งจากการวิจัยของคาสตรอลพบว่าการสึกหรอของเครื่องยนต์ 75% เกิดขึ้นที่ช่วงเวลาที่เริ่มสตาร์ทรถ เพราะขณะสตาร์ทเครื่องใหม่ๆ น้ำมันเครื่องทั่วไปยังไม่ได้ถูกส่งเข้าไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ จึงทำให้การปกป้องเครื่องยนต์ไม่เต็มประสิทธิภาพ
ซึ่งโดยทั่วไปเมื่อเครื่องยนต์หยุดทำงาน น้ำมันเครื่องจะไหลกลับไปที่อ่าง แต่โมเลกุลของคาสตรอล แม็กนาเทค ไม่ได้ไหลกลับลงไปด้วย ยังคงยึดติดกับชิ้นส่วนเครื่องยนต์เสมือนแม่เหล็ก ซึ่งให้ชั้นการปกป้องพิเศษตั้งแต่สตาร์ท โดยไม่ต้องวอร์มเครื่องยนต์ให้เปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เรียกว่าให้การปกป้องทันทีตั้งแต่วินาทีที่เริ่มสตาร์ท
2.ฟิล์มน้ำมันประสานตัวกันเพื่อสร้างสนามพลังแห่งการปกป้อง (Lock) ด้วยโมเลกุลของคาสตรอล แม็กนาเทค ดูอัลล็อก จะเข้าประสานตัวกันอย่างแข็งแกร่งระหว่างโมเลกุล สร้างชั้นฟิล์มน้ำมันที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เป็นสนามพลังแห่งการปกป้อง ซึ่งช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ในทุกสภาวะการขับขี่
3.ปกป้องเครื่องยนต์อย่างแข็งแกร่งจากการเสียดสีระหว่างชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นเหตุของการสึกหรอ (Protect) ในช่วงเวลาที่เครื่องยนต์ต้องทำงานอย่างหนัก อัจฉริยะในน้ำมันเครื่องคาสตรอล แม็กนาเทค ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษนั้น จะทำหน้าที่ยึดชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่มีการเสียดกันอยู่ตลอดเวลาได้ ช่วยปกป้องและลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ในขณะทำงานได้ถึง 50%
หากคุณต้องการการปกป้องที่เหนือกว่า…เพื่อรถที่คุณรักในทุกช่วงเวลาที่ขับขี่ แนะนำเลยครับ เปลี่ยนมาใช้ “คาสตรอล แม็กนาเทค” ซึ่งมาพร้อมกับกับนวัตกรรม “ดูอัลล็อค เทคโนโลยี” รับรองคุณจะหาคุณสมบัติเลิศๆ แบบนี้ไม่ได้ในน้ำมันเครื่องแบรนด์อื่นๆ แน่นอน ภายใต้สโลแกนที่เห็นแล้วอุ่นใจ ปกป้องไม่มีหยุด..ดูแลทุกครั้งทันที่สตาร์ท
ศึกษารายละเอียดข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่
สนใจสามารถซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องคาสตรอล สามารถจองเข้าไปใช้ได้ที่ศูนย์บริการคาสตรอล ออโต้ เซอร์วิสใกล้บ้านง่ายๆ ได้เลย เพียงแอดไลน์ @CastrolThailand หรือ คลิก https://castrolactivity.com/Home/mediacenter?fbclid=IwAR0mM0UHb1Pvh0tZ1R-4JHEBqBdl8XoSsAAJx4Bndc9fKzBX1DhRR4eRNZk
และหากเพื่อนๆมีคำถามเพิ่มเติม แนะนำให้ปรึกษาศูนย์บริการเกี่ยวกับคำแนะนำน้ำมันเครื่องที่เหมาะกับรุ่นสภาพรถ และลักษณะการใช้งานของรถคุณได้ฟรี คลิกที่ลิงค์ด้านล่างได้เลย https://www.facebook.com/CastrolCarsThailand/posts/2320512318009491/ หรือ https://www.castrol.com/th_th/thailand/home/auto-repair-workshops/castrol-auto-service.html
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " อากาศร้อน..รถติด..สู่ขิตแน่ หากไม่ดูแลเช็คเลขไมล์..ถ่ายน้ำมันเครื่อง "