
ดีทรอยท์ สหรัฐอเมริกา – แซม มิลเลอร์-คริสเตนเซน หนึ่งในลูกค้าเชฟโรเลต โวลต์ รุ่นปี 2014 มีความประทับใจในประสิทธิภาพของรถเป็นอย่างมากและเขาได้ให้ความคิดเห็นอัน เป็นประโยชน์สำหรับ การพัฒนาโวลต์ เจนเนอเรชั่นใหม่
“ผมได้กล่าวกับทีมนักพัฒนาของเชฟโรเลตไว้ว่าถ้าพวกเขาเพิ่มระยะทางขับ เคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โวลต์ซึ่งเป็นหนึ่งในรถที่ผมชื่นชอบนั้นจะน่าใช้งานมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม” มิลเลอร์-คริสเตียนเซนกล่าว “และผมก็ต้องประหลาดใจเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาขยายระยะทางขับเคลื่อนให้ไกล ขึ้นจริงๆ”
ความเห็นของมิลเลอร์-คริสเตียนเซนเป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็น ว่าโวลต์ รุ่นปี 2016 ได้รับการพัฒนาทางวิศวกรรมจากการรับฟังเสียงของลูกค้าที่ใช้งานจริง ความคิดเห็นของลูกค้ามีความสำคัญ ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเชฟโรเลตที่ผลิตและจำหน่ายรถทั่วโลกรวมถึงในประเทศ ไทย
หลังจากการเปิดตัวโวลต์ เจนเนอเรชั่นแรก เชฟโรเลตได้มีการพบปะกับกลุ่มลูกค้าที่ปรึกษาจำนวน 12 คนจากทั่วสหรัฐอเมริกาเป็นประจำทุกเดือนเพื่อทำความเข้าใจว่าลูกค้ามีการใช้ งานโวลต์อย่างไร
“โวลต์เป็นการบุกเบิกรถพลังงานไฟฟ้ารูปแบบใหม่อย่างแท้จริงและเราไม่แน่ ใจว่าผู้คนทั่วไปจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหรือโวลต์จะถูกใช้งานอย่างไรในชีวิต ประจำวันของลูกค้า” ดาริน เกสส์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์โวลต์กล่าว “ดังนั้นเราจึงเริ่มตั้งคำถามง่ายๆ อาทิ ลูกค้าเสียบปลั๊กชาร์จไฟโวลต์อย่างไรและเมื่อใด ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาโวลต์เจนเนอเรชั่นใหม่”
“เราให้ลูกค้าเป็นหัวใจในทุกสิ่งที่เราทำ และเราใช้แนวคิดดังกล่าวในการพัฒนาโวลต์ รุ่นปี 2016 อย่างแท้จริง”
ทีมพัฒนาโวลต์ยังต้องการทราบว่าคุณสมบัติเด่นด้านใดของโวลต์ที่ลูกค้า ชื่นชอบและคุณสมบัติใดที่ต้องการให้มีการปรับปรุง ทีมพัฒนาของเราได้พูดคุยกับลูกค้าโวลต์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย กิจกรรมต่างๆ และช่องทางอินเตอร์เน็ต
ความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์และตรงไปตรงมาของลูกค้าช่วยให้ทีมนักวิศวกรของเราสามารถตัดสินใจกำหนดทิศทางการพัฒนาโวลต์เจนเนอเรชั่นต่อไป
นอกจากการเพิ่มระยะทางขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและพัฒนาอัตราสิ้น เปลืองเชื้อเพลิงในโหมดขยายระยะทางขับเคลื่อนแล้ว ลูกค้ายังต้องการเบาะที่นั่งสำหรับผู้โดยสารคนที่ห้าในการเดินทางระยะใกล้ โดยโวลต์รุ่นใหม่มาพร้อมคุณสมบัติดังกล่าวพร้อมกับการขยายพื้นที่ใช้สอยให้ กว้างมากขึ้นและติดตั้งเบาะ ที่นั่งแถวหลังที่สามารถปรับอุณหภูมิความร้อนได้
โวลต์รุ่นปี 2016 สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าบนระยะทาง 50 ไมล์ (ประมาณ 80 กม.) จากการประเมินของจีเอ็ม และมีระยะทางขับเคลื่อนไกลกว่า 400 ไมล์ (ประมาณ 643 กม.) ก่อนการเติมเชื้อเพลิง ถ้าชาร์จไฟตามปกติลูกค้าสามารถเดินทางได้ไกลโดยเฉลี่ยมากกว่า 1,000 ไมล์ (ประมาณ 1,609 กม.) ระหว่างการเติมเชื้อเพลิง ระยะทางดังกล่าวคาดคะเนจากอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของจีเอ็มซึ่งอยู่ที่ 41 ไมล์ต่อแกลลอน (17.4 กม./ลิตร) และ 102 ไมล์ต่อแกลลอนเทียบเท่า (MPGe) ซึ่งเป็นมาตรวัดระยะทางเฉลี่ยต่อการบริโภคพลังงานหนึ่งหน่วย
นอกจากนี้เชฟโรเลตยังได้ทราบว่าลูกค้าต้องการอินเตอร์เฟซภายในรถยนต์ที่ ใช้งานง่ายขึ้นดังนั้น แผงคอนโซลของโวลต์ รุ่นปี 2016 จึงถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมโดยมีไอคอนน้อยลง สวิทช์ควบคุมอากาศแบบแยกส่วน และปุ่มควบคุมด้านล่างหน้าจอแสดงผลที่ออกแบบมา เพื่อความชัดเจนและสะดวกต่อการสั่งงาน
เสียงของลูกค้าช่วยให้เชฟโรเลตสามารถพัฒนาคุณสมบัติเด่นได้ดังต่อไปนี้
โวลต์โฉมปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในรถที่มีลูกค้าชื่นชอบอย่างเหนียวแน่นมาก ที่สุดและทำคะแนน ด้านคุณภาพสูงสุดในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ หลังจากเปิดตัวทำตลาดแค่เพียง 4 ปี โวลต์ได้รับรางวัลและการยกย่องมากกว่ารถพลังงานไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ โดยหนึ่งในรางวัลอันน่าภาคภูมิใจ ได้แก่ 2015 Kelley Blue Book’s 2015 Best Buy Award และ Top Safety Pick จากสถาบันรับประกันความปลอดภัยบนถนนหลวงของสหรัฐอเมริกา
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " CHEVROLET รับฟังเสียงจากลูกค้า เพื่อนำไปพัฒนา VOLT เจนเนอเรชั่นใหม่ "