กรุงเทพฯ – จีเอ็ม ประเทศไทย เตรียมส่งออกรถเชฟวี่ โคโลราโดไปยังหลายประเทศทั่วโลก ทั้งออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และรัสเซีย หลังประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโดสู่ตลาดโลก ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2554 รวมถึงการจัดกิจกรรมเปิดตัวในอีกหลายประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เพื่อปูทางสำหรับความสำเร็จของการส่งออกกระบะโคโลราโด เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สื่อข่าวสายยานยนต์จากทั่วโลกได้รับเชิญให้มาทดสอบรถโคโลราโดในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิต โดยเส้นทางทดสอบเริ่มจากเชียงรายไปเชียงใหม่ ผ่านทางหลวงหลายสายที่มีรถสัญจรไปมาตามปกติ ผ่านทางโค้งและทางแคบหลายรูปแบบ ผ่านเส้นทางลดเลี้ยวตามภูเขา รวมถึงเส้นทางที่สมบุกสมบันแบบออฟโรด เพื่อแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะรอบด้านของโคโลราโด
แอนตัน เชอร์เยฟ บรรณาธิการนิตยสารออโต้โมบิลี (Automobili) ของรัสเซีย กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากสำหรับผมที่ได้มาทดลองขับรถกระบะที่นี่ ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนที่ลัดเลี้ยวไปตามภูเขาเช่นนี้ ผมยังรู้สึกสะดวกสบาย ไม่มีเสียงดังและสามารถขับขี่ได้อย่างคล่องตัว เกือบจะเหมือนรถยนต์นั่งปกติทั่วไปเลยครับ”
เขากล่าวอีกว่า “การควบคุมและการตอบสนองจากรถยนต์ตระกูลนี้ยอดเยี่ยมมาก ผมคิดว่ารถกระบะตระกูลนี้จะเป็นที่นิยมมากในรัสเซีย”
เชฟโรเลต โคโลราโด ผ่านการทดสอบอย่างหนักหน่วงในดินแดนที่เป็นถิ่นกำเนิด นั่นคือ ประเทศไทย – สื่อมวลชนต่างประเทศร่วมทดสอบรถโคโลราโดบนเส้นทางออฟโรด
นอกจากการทดสอบรถโดยกลุ่มสื่อมวลชนต่างประเทศแล้ว ยังรวมถึงกลุ่มผู้แทนจำหน่าย และลูกค้าจากหลายประเทศในตะวันออกกลาง อาทิ อิรัก คูเวต ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประมาณ 50 คน ซึ่งทั้งหมดได้ไปเยี่ยมชมฐานการผลิตของจีเอ็ม ประเทศไทย ในจังหวัดระยองด้วย พร้อมได้รับทราบข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับแผนงานของเชฟโรเลตในส่วน ของรถโคโลราโดและเทรลเบลเซอร์ ในตลาดตะวันออกกลาง
นอกจากนี้พวกเขายังได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานของจีเอ็ม รวมทั้งรับฟังรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตรถกระบะตระกูลดังกล่าวและ ระบบคุณภาพที่นำมาใช้ จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซล หรือจีเอ็ม เพาเวอร์เทรน เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์
จอห์น สตาดวิค ประธานและกรรมการผู้จัดการของจีเอ็ม ตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มสื่อมวลชนและแขกรับเชิญร่วมชมโรงงาน กล่าวว่า “การเยี่ยมชมโรงงานครั้งนี้น่าประทับใจมาก ถือเป็นโอกาสดีสำหรับจีเอ็ม ประเทศไทย ที่จะได้อวดโฉมรถโคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ ใหม่ ในสายการผลิต ซึ่งกำลังจะเปิดตัวสู่ตลาดตะวันออกกลาง หากดูจากปฏิกิริยาเบื้องต้นของกลุ่มที่มาเยี่ยมชมโรงงาน พูดได้ว่ารถกระบะทั้งสองตระกูลจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในตะวันออกกลาง”
กระบะในตระกูลโคโลราโดมีรถให้เลือกถึง 26 รุ่น ประกอบด้วยซิงเกิลแค็บตอนเดียว เอ็กซ์เทนเดดแค็บ ตอนครึ่ง และครูว์แค็บ 4 ประตู ที่มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนสองล้อหรือสี่ล้อ ยกสูง และธรรมดา พร้อมแล้วที่จะให้ผู้ขับขี่รถยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป ตะวันออกกลาง รัสเซีย และอเมริกาใต้ได้เลือกตามความต้องการ ทั้งนี้ จีเอ็ม ประเทศไทย ระบุว่าประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์ ของกำลังการผลิตรวมของโคโลราโดในประเทศไทยจะจัดไว้สำหรับตลาดส่งออก นับจากวันที่เริ่มเปิดตัวถึงปัจจุบัน เชฟโรเลต ผลิตโคโลราโดไปแล้ว 18,576 คัน
เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากตลาดใน ประเทศ ตลาดในภูมิภาคและตลาดระดับโลก จีเอ็มเพิ่มกำลังการผลิตในสายการผลิตที่ระยองเป็น 3 ผลัด ส่วนโรงงานผลิตเคลื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ก็จะเพิ่มเป็น 3 ผลัดเช่นเดียวกันในเดือนพฤษภาคม 2555 ในภาพรวม การส่งออกรถกระบะโคโลราโดจะช่วยขยายตลาดรถยนต์ของจีเอ็มและชื่อเสียงของไทย ในฐานะแหล่งผลิตรถยนต์ในตลาดระดับโลก ทั้งยังช่วยเพิ่มการจ้างงานสำหรับงานแรงงานที่มีทักษะในประเทศไทย และสร้างรายได้ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยอีกด้วย
“แม้ว่าความต้องการรถยนต์ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะสูงเป็น ประวัติการณ์ เราก็ไม่กังวลกับเรื่องกำลังการผลิต เนื่องจากสายการผลิตรถยนต์และรถบรรทุกของเราได้รับการออกแบบให้มีความ ยืดหยุ่นสูง เราจึงสามารถจะตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า” มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
เขากล่าวอีกว่า “จีเอ็ม และเชฟโรเลต ประเทศไทย มีบทบาทสำคัญอย่างมากในแผนการผลิตและจำหน่ายรถกระบะโคโลราโดในระดับโลก ยิ่งไปกว่านั้นยังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคุณภาพและความสามารถในการผลิต ของพนักงานกว่า 4,600 คนในประเทศไทยเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลก
ประเทศไทยถือเป็นถิ่นกำเนิดของรถกระบะโคโลราโด ซึ่งนับเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของที่ที่เป็นทั้งฐานการผลิตแห่งนี้ จึงไม่มีสถานที่ใดเหมาะสมสำหรับการทดสอบรถเท่าประเทศไทยอีก เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับรถกระบะขนาดกลาง”
“ด้วยแผนการส่งออกดังกล่าว ไทยจะเป็นศูนย์กลางของเชฟโรเลตสำหรับรถกระบะขนาดกลาง เพื่อตลาดส่งออกทั่วโลก” เขากล่าวเสริม
โคโลราโด ได้รับการพัฒนาขึ้นจากโครงสร้างรถกระบะขนาดกลางขับเคลื่อนล้อหลัง แบบตัวถังบนแชสซีส์ ที่จีเอ็มนำไปเป็นต้นแบบในการผลิตทั่วโลก และได้รับการออกแบบ พัฒนาเชิงวิศวกรรม และผลิตเพื่อนำเสนอภายใต้รูปลักษณ์ สมรรถนะ ประโยชน์ใช้สอยที่หลาหลาย และคุณสมบัติที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งถือได้ว่าโดดเด่นที่สุดในกลุ่มรถระดับเดียวกัน
“การตกแต่งภายใน ภายนอก และคุณสมบัติด้านเทคนิคที่สำคัญๆ ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด นับเป็นแผนการพลิกโฉมหน้าการพัฒนารถกระบะขนาดกลางครั้งสำคัญที่สุดในประวัติ ศาสตร์ 100 ปีของเชฟโรเลต โดยรถกระบะตระกูลนี้ถูกออกแบบและผลิตขึ้นเพื่อให้เป็นรถขนาดกลางที่แกร่งที่ สุด สมรรถนะสูงสุด และดีที่สุดตั้งแต่เคยมีมาของเชฟโรเลต” นายแอพเฟล กล่าวเสริม
เช่นเดียวกับรถโคโลราโดที่จำหน่ายในประเทศไทยและตลาดอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รถโคโลราโดที่ผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล ดูราแม็กซ์ 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร ที่พัฒนาใหม่ทั้งหมด ซึ่งให้ทั้งสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในทุกรุ่นย่อย
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Chevrolet เชฟโรเลต เตรียมส่งออกโคโลราโด ลุยตลาดทั่วโลก "