สิ้นสุดการรอคอย Ford F-150 Raptor 2021 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แข็งแกร่ง และพร้อมลุยมากยิ่งขึ้น
เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ถูกจับตามองไปทั่วโลก สำหรับ Ford F-150 Raptor 2021 เจ้าแห่งรถกระบะ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในรูปแบบออนไลน์ โดยมาพร้อมกับการอัปเกรดใหม่ที่ช่วยเสริมสมรรถนะในการขับขี่แบบสปอร์ตออฟโรดให้ดีขึ้นไปอีกระดับ
สำหรับ Ford F-150 Raptor 2021 ยังคงพัฒนาบนตัวถังของ F-150 เหมือนเช่นเคย โดยมีการอัปเกรดระบบช่วงล่างใหม่ทั้งหมด ให้แข็งแกร่ง และพร้อมลุยมากกว่าเดิม โดยช่วยล่างด้านหน้าเป็นแบบปีกนกอิสระ มาพร้อมกับโช้คอัพ FOX Racing เหมือนเดิม ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Five Links คอยล์สปริง โช้คอัพ FOX Racing แบบมี Valve By Pass เสริมด้วยกันโคลง Trailing Arm แข็งแกร่งกว่าเดิม
ทั้งนี้ตามรายงานระบุว่า โช้คอัพใหม่ของ FOX Racing มีการเสริมระบบวาล์วระบายแรงดันน้ำมันที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า สามารถปรับแรงดันภายในโช้คได้ตามต้องการ อีกทั้งชุดคอยสปริงด้านหลังยังมีขนาดที่ยาวขึ้นถึง 24″ ทำให้เพิ่มระยะยืดได้มากถึง 14″ ที่ด้านหน้า และ 15″ ที่ด้านหลัง ซึ่งมากกว่า Raptor รุ่นเก่าถึง 25%
อีกทั้งในส่วนของแกนโช้คยังมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึงขนาด 775 มม. และทำจากอลูมิเนียมทั้งหมด ช่วยลดแรงเสียดทาน และเพิ่มความแข็งแกร่งทนทานกว่าเดิม สามารถรองรับแรงกดได้มากถึงด้านละ 1,000 ปอนด์ นอกจากนั้นแล้วยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการโยกขึ้น-ลงของโช้คอัพ เพื่อปรับค่า Damping Rate แต่ละด้านได้อย่างอิสระ
นอกเหนือไปจากระบบช่วงล่างที่เหนือชั้นแล้ว Ford F-150 Raptor 2021 ยังมาพร้อมกับความสูงใต้ท้องรถที่มากขึ้น โดยมีความสูงใต้ท้องรถถึง 12″ มีมุมไต่ที่ 31 องศา และมุมจาก 23.9 องศา ในขณะที่มุมคร่อมอยู่ที่ 22.7 องศา อีกทั้งยังมีการเสริมความแกร่งให้กับชุดแชสซีส์ทั้งคันอีกด้วย สามารถเอาไปโดดเนินได้อย่างสบายๆ โดยที่แชสซีส์ไม่สะเทือน
ในส่วนของดีไซน์ก็ยังคงมาในสไตล์แข็งแกร่งดุดันตามแบบฉบับของ F-150 Raptor เริ่มด้วยกระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ พร้อมอักษร FORD ตรงกลาง ระบบไฟเป็นแบบโปรเจคเตอร์ LED พร้อมมีไฟ DRL ห้อมล้อมไว้ กันชนหน้าแบบสปอร์ตพร้อมไฟตัดหมอก และการ์ดกันกระแทกใต้ท้อง ฝากระโปรงหน้าขนาดใหญ่ พร้อมสครู๊ปดักอากาศ
โป่งล้อถูกยืดออกและติดตั้งการ์ดกันกระแทก เพื่อรองรับกับการใส่ยางขนาดใหญ่ถึง 35″ ของ BF Goodridge KO2 ซึ่งเป็นยางแบบ All-Terrain อีกทั้งยังมีอ็อพชั่นเสริมให้ลูกค้าสามารถเลือกเป็นขนาดยาง 37″ เพื่อสมรรถนะในการขับแบบออฟโรดขั้นสุดได้อีกด้วย
ส่วนดีไซน์ด้านท้ายมาพร้อมกับฝาปิดกระบะท้ายขนาดใหญ่ พร้อมมีที่เหยียบด้านบน และออกแบบเป็นสปอยเลอร์สร้าง Down Force ด้านท้ายไปในตัว ที่ฝาปิดกระบะมีอักษร FORD และเพลทสีดำตกแต่งอยู่ กันชนท้ายเป็นแบบแยกส่วน
และอีกหนึ่งไฮไลท์ของ Ford F-150 Raptor 2021 ก็คือการมาของท่อไอเสียคู่ออก 2 ฝั่ง ที่สามารถเลือกปรับระดับเสียงได้เหมือนกัน Ford Mustang โดยมีให้เลือกความดัง 4 ระดับ ได้แก่ Quiet, Normal, Sport และ Baja
ส่วนภายในยังคงมาพร้อมกับห้องโดยสารขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยสีทูโทน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบทุกฟังก์ชั่น ความโดดเด่นอยู่ที่พวงมาลัยหุ้มหนังเดินด้ายตะเข็บสีแดง และมีคลิบแดงด้านบนบ่งบอกความเป็นรุ่น Raptor รวมไปถึงคลิปแดงที่บริเวณกรอบช่องแอร์ซ้าย-ขวาด้วย เบาะนั่งของ Recaro เรือนไมล์เป็นแบบดิจิตอล พร้อมข้อมูลการแสดงผลสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ถึง 12″ รองรับการเชื่อมต่อครบทุกฟังก์ชั่น พร้อมระบบความบันเทิงเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด Ford Sync 4 และมีกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศามาให้ด้วย
สำหรับขุมพลังของ Ford F-150 Raptor 2021 นั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ Eco Boost เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร Twin-Turbo ที่ประจำการอยู่ใน F-150 รุ่นก่อน ซึ่งในเรื่องของสมรรถนะทั้งแรงม้า และแรงบิดยังไม่ถูกเปิดเผย แต่คาดว่าน่าจะให้สมรรถนะที่ดีขึ้น โดยเครื่องยนต์บล็อคนี้ที่เคยติดตั้งอยู่ในโฉมก่อนให้แรงม้าสูงสุด 450 แรงม้า แรงบิด 691 นิวตัน-เมตร
ส่วนระบบส่งกำลังยังคงเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดเหมือนเดิม มาพร้อมระบบล็อคเฟืองท้ายเป็นมาตรฐาน พร้อม Torsen Limited Slip ในอัตราทดเฟืองท้าย 4.1
อีกทั้ง Ford F-150 Raptor 2021 ยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกปรับได้มากถึง 7 โหมด ได้แก่ Slippery, Tow/Haul, Sport, Normal, Off-Road, Baja และ Rock Crawl
โดยแต่ละโหมดจะปรับการตอบสนองของ พวงมาลัย,การตอบสนองเกียร์, ระบบควบคุมการทรงตัว, โช้คอัพ, คันเร่งไฟฟ้า และอัตราทดของเกียร์ ให้เหมาะสมกับโหมดต่างๆ และสภาพถนน
สำหรับ Ford F-150 Raptor 2021 จะพร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้ โดยจะถูกผลิตที่โรงงานในรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐฯ ส่วนราคาจำหน่ายก็ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาเช่นกัน
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " สิ้นสุดการรอคอย Ford F-150 Raptor 2021 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แข็งแกร่ง และพร้อมลุยมากยิ่งขึ้น "