รู้หรือไม่? Ford Ranger Raptor ได้รับแรงบันดาลใจ
ด้านเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์จาก Ford Mustang
10 ก.ค.66 – Ford Ranger Raptor นับเป็นรถกระบะสมรรถนะสูงที่สุดในตระกูลเรนเจอร์ เจ้าของฉายา ‘เกิดมาแกร่ง’ ดุดันด้วยกระจังหน้าประดับตัวอักษร F-O-R-D ที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงเส้นสายด้านข้างตัวถังที่เน้นความแข็งแรง และการออกแบบที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อลดแรงเสียดทาน เพิ่มสมรรถนะ และประสิทธิภาพของรถกระบะคันนี้อีกด้วย
นักออกแบบและวิศวกรยังใช้ต้นแบบที่หลายคนนึกไม่ถึงมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบการไหลเวียนของอากาศบริเวณรอบล้อ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแรงเสียดทานที่สำคัญของรถ และแม้ว่าฟอร์ด มัสแตง กับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ จะเป็นรถยนต์ที่มีความแตกต่างกันมาก
แต่ทีมพัฒนารถฟอร์ด เรนเจอร์ ในประเทศออสเตรเลียก็ได้นำเทคนิคที่ทีมพัฒนารถฟอร์ด มัสแตง ในทวีปอเมริกา คิดค้นขึ้นมาปรับใช้เพื่อจัดการการไหลเวียนของอากาศบริเวณรอบล้อและซุ้มล้อของรถฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้อย่างดีเยี่ยม
การจัดการระบบไหลเวียนอากาศบริเวณรอบซุ้มล้อและบันไดข้าง
ดร. ลูวิงตัน กล่าวว่า ล้อรถยนต์คือแหล่งกำเนิดหลักของแรงต้าน หากใช้ผ้าจริงๆ มาทำม่านคลุมล้อเพื่อทำให้ลมไหลเวียนบริเวณรอบๆ ล้อนั้นได้ ก็คงดูตลก
นักออกแบบและวิศวกรของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ จึงใช้แรงบันดาลใจเรื่องม่านอากาศจากฟอร์ด มัสแตง มาพัฒนาต่ออย่างชาญฉลาดโดยการออกแบบกันชนหน้าและไฟตัดหมอกเพื่อชาร์จลมที่ด้านหน้ารถและสร้างม่านอากาศที่บริเวณล้อหน้า
ชุดกันชนหน้าและกรอบไฟตัดหมอกได้รับการออกแบบให้ดักกระแสลมผ่านเข้าทางร่องข้างไฟตัดหมอกไปยังล้อหน้าและไหลไปตามด้านข้างตัวถัง ดร. ลูวิงตัน บอกว่าการออกแบบนี้มีข้อดี 2 ประการ คือ ช่วยลดแรงต้านสูงที่บริเวณด้านหน้ารถ และยังใช้กระแสลมที่มีโมเมนตัมสูงเข้าไปลดทอนลมที่เกิดโดยธรรมชาติจากล้อหน้า
“การจัดการการไหลของอากาศบริเวณรอบล้อสำคัญต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเน้นสมรรถนะ การขับขี่ในเมือง หรือประโยชน์ใช้สอยอื่นๆ
แต่สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ นอกจากการเพิ่มม่านอากาศที่ล้อหน้าแล้ว เรายังพัฒนาสปอยเลอร์กันยางที่ส่วนหน้าของล้อหลังเพื่อลดแรงเสียดทานจากยางหลังอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความสี่ยงที่กระแสลมจะกระทบระบบช่วงล่างและบันไดเหยียบข้างกระบะท้าย” ดร. ลูวิงตัน กล่าว
บันไดเหยียบข้างกระบะท้ายนับเป็นการออกแบบอันชาญฉลาดที่ช่วยให้ผู้ใช้งานขึ้นลงจากด้านข้างกระบะได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเหยียบล้อหลังเพื่อขึ้นกระบะอีกต่อไป ทีมนักออกแบบมั่นใจว่า บันไดเหยียบข้างกระบะท้ายแทบไม่ส่งผลกระทบต่อแรงเสียดทานตามหลักอากาศพลศาสตร์ ดร. ลูวิงตัน ยังเน้นย้ำว่า ฟอร์ดยังคงมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนารถเพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าอยู่เสมอ
ดร. ลูวิงตัน กล่าวว่า บันไดเหยียบข้างกระบะท้ายอยู่ก่อนล้อหลังเพียงเล็กน้อย จึงไม่มีผลกระทบต่อการต้านทานอากาศมากนัก อุปกรณ์นี้จึงเป็นประโยชน์ต่อทั้งลูกค้าและตัวรถ คือลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีขึ้นจากการใช้งานรถ และตัวรถก็ไม่ได้รับผลกระทบด้านอากาศพลศาสตร์
ปรับรูปทรงกระบะท้ายใหม่
ดร. ลูวิงตัน กล่าวว่า ทีมนักออกแบบได้ปรับรูปทรงของเสา C ฝาครอบขอบกระบะท้าย และสปอยเลอร์บนฝาปิดกระบะท้าย เพื่อให้การไหลเวียนของอากาศเหนือกระบะและรอบกระบะท้ายดีขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่ากระบะท้ายได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่างดีที่สุด
“การไหลเวียนของอากาศเหนือกระบะท้ายส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์โดยรวมของรถ รูปทรงของรถจึงมีส่วนสำคัญในการกำหนดปริมาณอากาศไหลเวียนในที่ว่างเหนือกระบะ” ดร. ลูวิงตัน กล่าว
“จากการปรับแต่งรูปทรงหลังคาและเสา C อย่างประณีตเพื่อให้สอดรับกับรูปทรงของฝาครอบขอบกระบะท้าย และสปอยเลอร์บนฝาปิดกระบะท้าย เราจึงควบคุมปริมาณอากาศไหลเวียน และลดการต้านทานตามหลักอากาศพลศาสตร์ลงได้”
ถึงแม้ฟอร์ดจะออกแบบส่วนหน้าของรถให้มีขนาดใหญ่ และดุดัน แถมยังมีซุ้มล้อที่กว้าง แต่แรงต้านอากาศโดยรวมของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ลดลงไปถึง 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารแล้ว ยังช่วยให้รถกินน้ำมันน้อยลง เนื่องจากแรงต้านอากาศจากการวิ่งบนทางหลวงที่ลดลงทุกๆ 3 เปอร์เซ็นต์ เทียบได้กับการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงลง 1 เปอร์เซ็นต์
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เทอร์โบคู่ ที่มอบพละกำลัง 397 แรงม้า และแรงบิด 583 นิวตันเมตร และตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ทรงพลังด้วยโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ถึง 7 แบบ รวมถึงโหมดบาฮา จึงทำให้เรียกได้ว่าเป็นรถกระบะตระกูลเรนเจอร์ที่ทรงพลังที่สุดที่เคยมีมา
นอกเหนือจากระบบเชื่อมต่อการสื่อสารที่ล้ำสมัยแล้ว ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ยังมีระบบควบคุมเฟืองท้ายแบบ Locking Differentials ทั้งด้านหน้าและหลัง พร้อมโช้คอัพแบบ Live Valve จาก FOX และเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงระบบ Active Valve Exhaust ที่ปรับระดับเสียงท่อ 4 โหมดได้อีกด้วย
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รู้หรือไม่? Ford Ranger Raptor ได้รับแรงบันดาลใจ ด้านเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์จาก Ford Mustang "