ประกันรถยนต์ เลือกยากแต่เลือกได้

ประกันรถยนต์ เลือกยากแต่เลือกได้

กว่าจะตัดสินใจซื้อรถซักคันหนึ่ง คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าจะเก็บเงินได้ซักก้อน กว่าจะผ่อนจนหมด หลาย ๆ คน คงใช้เวลานานหลายเดือน จนถึงหลายปี แถมกว่าจะตัดสินใจซื้อได้ซักที ยังมีเรื่องให้ต้องมานั่งคิดกันจนปวดหัวมากมาย ไม่ว่าจะต้องนั่งอ่านรีวิวแล้วรีวิวเล่า หาข้อมูลเป็นหลายสิบหน้า สอบถามผู้รู้ และสารพัดวิธีที่จะทำให้ได้ข้อมูลมากที่สุด แต่รู้หรือไม่ว่าพอคุณได้รถมาใช้สมใจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คนไทยมักลืม และไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร นั่นก็คือ การทำประกันภัยรถยนต์ นั่นเอง

หลาย ๆ คนในที่นี่ อาจจะสนใจบ้าง ไม่สนใจบ้าง บางคนสนใจแต่ก็ไม่มีความรู้เท่าที่ควร บางคนเห็นว่าถูก ก็ซื้อไว้ก่อน บางคนก็ขี้เกียจหาข้อมูล มีคนบอกให้ทำอะไรก็ทำตาม ๆ กันไป หนักสุดคงจะไม่สนใจเรื่องของประกันภัยรถยนต์เลย เพราะคิดว่าเสียดายเงิน ทำไปก็ไม่มีประโยชน์ อุบัติเหตุก็ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ซักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใดก็ตาม พอลองมานั่งคิดวิเคราะห์ถึงสาเหตุหลัก ๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ให้ความสนใจดูแล้ว ก็คงจะเป็นเรื่องความยุ่งยากของเนื้อหาข้อมูล คำศัพท์ที่อธิบายยาก แถมบริษัทที่ให้บริการประกันภัยรถยนต์ก็มีมากมายจนเลือกไม่ถูก ดังนั้น วันนี้เลยอยากจะมาอธิบายเรื่องการเลือกประกันภัยรถยนต์ให้เป็นเรื่องง่าย ๆ กัน เพราะคิดว่าคงจะเป็นประโยชน์อยู่บ้างไม่มากก็น้อย

ปัจจัยแรกที่สำคัญต่อตัวเรามากที่สุดในการเลือกประกันภัยรถยนต์ ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของความรู้สึก คือ หากเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริงๆ คุณจะอยากจะเข้าศูนย์ไหนมากที่สุด ลองเลือกไว้ซัก 3-5 เจ้า และเมื่อเลือกเสร็จแล้ว ปัจจัยที่สอง ก็คือลองตรวจสอบชื่อเสียงของบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่คุณเลือกดู ว่าชื่อเสียงเป็นอย่างไร มีใครมาแสดงความคิดเห็นอย่างไรบ้าง บริษัทนั้น ๆ ให้ความรู้และคำปรึกษากับเราได้ดีเพียงใด มีบริการหลังการขายดีแค่ไหน มีศูนย์บริการทั่วถึงหรือไม่ แล้วนำข้อมูลที่ได้เหล่านี้มาเป็นแนวทางในการตัดสินใจและคัดเลือกต่อ ๆ ไป ในส่วนของปัจจัยข้อที่สองนี้ ให้ลดจากเดิมเหลือเพียง 2-3 เจ้า ปัจจัยที่สามคือ ดูบริษัทที่เสนอราคาเบี้ยประกันภัยรถยนต์ให้มีความคุ้มค่ากับความคุ้มครองที่เราจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะสอบถามข้อมูลจากเราเพิ่มเติม ตั้งแต่ขับรถยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร ตั้งแต่ปีใด พฤติกรรมการขับรถเป็นอย่างไร ต้องการระบุชื่อผู้ขับขี่หรือไม่ ซึ่งในส่วนของสอบถามว่าจะมีความต้องการระบุชื่อผู้ขับขี่หรือไม่ จะมีผลต่อการคิดเบี้ยประกันรถยนต์ เนื่องจากจะทำให้ได้เบี้ยประกันในราคาที่ถูกลง และข้อสุดท้ายคือเจ้าหน้าที่จะถามว่า เราเคยทำเรื่องเคลมมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ถ้าหากเราไม่เคยเคลมมาก่อนเลย ก็จะได้รับการพิจารณาได้เบี้ยประกันถูกลงอีก พอเราแจ้งข้อมูลครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้ทราบถึงราคาเบี้ยประกันภัยของบริษัทประกันภัยรถยนต์แต่ละเจ้า เพื่อนำมาเปรียบเทียบ และพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งบางครั้งสิ่งที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ให้มาในแต่ละเจ้า ก็อาจจะไม่ตรงกับความต้องการของเราในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประกันชั้น 1 แน่นอนว่าต้องมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด หากเปรียบเทียบกับประกันภัยชั้นอื่นๆ นั่นคือ จะได้รับความคุ้มครองความสูญหายจากอุบัติเหตุทุกกรณี ไม่ว่าความเสียหายจะเกิดจากการกระทำของบุคคลภายนอก เจ้าของรถ หรือตัวผู้ขับเอง หรือแม้แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบรายละเอียดของการเกิดเหตุเลยว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร มีลักษณะการเกิดเหตุอย่างไร ใครเป็นผู้กระทำ หรือเกิดเหตุที่ไหนก็ตาม ประกันชั้น 1 ก็จะยังคงให้ความคุ้มครองอยู่นั่นเอง ดังนั้น ประกันชั้น 1 จึงเป็นรูปแบบการประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของรถหลากหลายประเภท ซึ่งจำแนกได้ดังนี้

1. รถใหม่ป้ายแดง หากคุณเพิ่งซื้อรถมาใหม่ ๆ รวมถึงถ้ารถของคุณยังมีอายุไม่เกิน 5 ปี ก็ยังคงถือว่าเป็นรถที่มีความเสี่ยงสูง เพราะมีโอกาสหายมากกว่ารถเก่า และด้วยความใหม่อีกเช่นกัน ผู้ขับอาจยังไม่มีความคุ้นเคยในการใช้งาน ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จึงล้วนแต่เป็นความเสียงที่มากกว่าของรถคันใหม่
2. ผู้ขับขี่มือใหม่ไร้ประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นรถคันใดก็ตาม หากคุณเพิ่งเริ่มหัดขับใหม่ ๆ รถคันนั้นก็จะมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น ทันที ดังนั้น การทำประกันชั้น 1 จึงถือว่าเหมาะสมกับผู้ขับขี่มือใหม่มากถึงที่สุด
3. รถที่ใช้งานหนัก หรือใช้งานเป็นประจำ ความเสี่ยงของรถแต่ละคันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวผู้ขับขี่หรือตัวรถตามที่กล่าวมาเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งานด้วย หากรถใช้งานหนัก วิ่งทางไกล หรือใช้เป็นประจำทุกวัน ย่อมส่งผลให้มีค่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ดังนั้น รถที่ใช้งานหนักกว่าจึงต้องการความคุ้มครองที่มากขึ้นเช่นเดียวกัน

สุดท้ายแล้ว ปัจจัยข้อสุดท้าย ที่ควรเปรียบเทียบเพิ่มเติม ดังนี้ คือลองเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยกับความคุ้มครองที่ได้ อย่าเน้นราคาถูกสุดเพียงอย่างเดียว เนื่องจากหากถึงเวลาเคลมแล้ว อาจจะไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ก็เป็นได้ ข้อที่สอง ลองเปรียบเทียบกรมธรรม์ของบริษัทประกันภัยรถยนต์แต่ละเจ้า ดูว่าเงื่อนไขและข้อกำหนดของบริษัทไหนให้ประโยชน์มากกว่ากัน และข้อสุดท้าย ควรตรวจสอบข้อความต่าง ๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วน และทำความเข้าใจความหมายของถ้อยคำในกรมธรรม์ให้ดี ไม่เช่นนั้น เงื่อนไข และข้อกำหนด หรือข้อยกเว้นต่าง ๆ ในกรมธรรม์ อาจทำให้เราเสียเปรียบได้

การจะเลือกประกันภัยรถยนต์ ก็มีขั้นตอนและปัจจัยง่ายๆ แค่นี้เอง ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด  หากกำลังมองหาบริษัทประกันภัยรถยนต์สักที่ ตอนนี้มีบริษัท Frank ซึ่งจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประกันรถยนต์ ตรงทุกความต้องการที่คุณต้องการ แถมคุ้มค่า และสะดวก เพราะด้วยระบบที่เข้าใจง่าย พร้อมยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สนใจสามารถเช็คเบี้ยประกันรถฟรี !