Great Wall Motors ทุ่มงบ 5,000 ล้านหยวน เพื่อวิจัยและพัฒนาพลังงานไฮโดรเจนระดับโลก
Great Wall Motors ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) จัดประชุมระดับโลก GWM Hydrogen Energy Strategy Global Launch กำหนดยุทธศาสตร์ด้านพลังงานไฮโดรเจนแห่งอนาคต พร้อมขับเคลื่อนโลกเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด โดยมีผู้เชี่ยวชาญ พันธมิตร รวมถึงสื่อมวลชนมากมายร่วมรับฟัง พร้อมลงนามข้อตกลงการเป็นพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมกับทั้งศูนย์รับรองคุณภาพแห่งประเทศจีน และมหาวิทยาลัย Tong Ji
อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ ตลอดจนภาวะโลกร้อนที่เกิดจากปัญหาก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้จีนซึ่งเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ได้ออกนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน โดยกำหนดให้รัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทต่างๆ สร้างห่วงโซ่อุปทานและรูปแบบธุรกิจที่สนับสนุนการเติบโตสำหรับพลังงานไฮโดรเจน ในเอกสารของ China Hydrogen Alliance ที่เผยแพร่ในปี 2562 ได้คาดการณ์ว่า พลังงานไฮโดรเจนจะคิดเป็นประมาณ 10% ของปริมาณพลังงานทั้งหมดของจีนภายในปี 2593
ก้าวสู่การเป็นผู้นำพลังงานสะอาดเพื่อโลกแห่งอนาคต
เส้นทางการเป็นผู้นำยานยนต์พลังงานไฟฟ้า xEV ระดับโลกของ Great Wall Motors ได้เริ่มขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จากการตั้งทีมโปรเจค xEV ขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อเริ่มการพัฒนาเทคโนโลยีหลักของ Great Wall FCEV ตั้งแต่ปี 2559 และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นบริษัทรถยนต์ในประเทศจีนแห่งแรกที่เข้าร่วมสภาพลังงานไฮโดรเจนระหว่างประเทศ (Hydrogen Council) ในปี 2560 และเดือนมิถุนายนปีถัดมา ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจนแห่งแรกในประเทศได้สร้างเสร็จ และเปิดดำเนินการ
โดยในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน Great Wall Motors เข้าครอบครองหุ้นทั้งหมดของ Shanghai Fuel Cell Vehicle Powertrain Co. , Ltd ก่อนก่อตั้งบริษัท FTXT Energy Technology Co., Ltd. ขึ้นในปี 2562 เพื่อดำเนินการด้านพลังงานเซลส์เชื้อเพลิง และได้จัดแสดงระบบเซลล์เชื้อเพลิง 85kW แท็งค์เก็บไฮโดรเจนชนิด IV และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในงาน Shanghai Auto Show ปีที่ผ่านมา ซึ่งการพัฒนานับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วจนสามารถจัดแสดงรถยนต์ต้นแบบเซลล์เชื้อเพลิงคันแรกได้ในปี 2563
กลยุทธ์การพัฒนาระบบนิเวศ (ECO System) อย่างครอบคลุมเพื่อก้าวไปสู่ความยั่งยืนทางพลังงาน
Great Wall Motors สร้างโซลูชั่นสำหรับการใช้พลังงานไฮโดรเจนในระดับมาตรฐานยานยนต์ที่จะเกิดความคุ้มค่าสูงสุด โดยนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เทคโนโลยีการจัดเก็บไฮโดรเจนในรถยนต์และเทคโนโลยีความปลอดภัยของพลังงานไฮโดรเจน มารวมเข้าไว้ด้วยกันทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการวิจัย-การผลิต-การจัดเก็บ-การขนส่ง–การติดตั้ง-การใช้งาน เพื่อสร้างระบบนิเวศครบวงจร ในขณะที่บริษัท UTMOLIGHT ในเครือของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ทำลายสถิติโลก ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย Perovskite รุ่นใหม่ ที่มีประสิทธิภาพการแปลงพลังงานแสงเป็นพลังงานไฟฟ้าถึง 20.01% จึงนับเป็นผู้นำด้านการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตอบโจทย์ทุกๆ ความต้องการใช้งาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
ซึ่ง Great Wall Motors ได้วางแนวทางปฏิบัติด้านการจัดเก็บพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ รวมไปถึงการออกแบบระบบการจ่ายพลังงานผ่านระบบจัดเก็บพลังงานไฮโดรเจนร่วมกับพลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่เซลล์เชื้อเพลิง นับเป็นการวางรากฐานอันมั่นคงสำหรับการบริหารจัดการพลังงานทั้งแบบคงที่ และแบบเคลื่อนที่
ความมุ่งมั่นของ Great Wall Motors ในการวิจัยและพัฒนา ทำให้เกิดศูนย์เทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจนระดับโลกที่มีห้องปฏิบัติการเกือบ 10,000 ตารางเมตร พร้อมอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงมากกว่า 240 ชุด ให้บริการการวิเคราะห์ และทดสอบกว่า 181 รายการ ตั้งแต่ปี 2561 นับเป็นศูนย์วิจัย และพัฒนาแห่งแรกในประเทศที่มีระบบวงจรไฮโดรเจน 70MPa ระบบทดสอบความปลอดภัย สายทดลองการผลิตแท็งค์ไฮโดรเจนชนิด IV สายการผลิตชุดเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Stack) และขั้วไฟฟ้า (Membrane Electrode) อัตโนมัติ รวมไปถึงระบบพลวัตพลังงานสูง และการทดสอบยานพาหนะ
จนถึงปัจจุบัน Great Wall Motors ได้ลงทุนไปแล้วกว่า 2 พันล้านหยวนในการวิจัย และพัฒนา และในอีก 3 ปีข้างหน้าจะยังคงลงทุนมากกว่า 3 พันล้านหยวนเพื่อพัฒนากำลังการผลิต 10,000 ชุดและกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานไฮโดรเจนในประเทศ ด้วยแนวคิด “Talents are the foundation of innovation”
Great Wall Motors ยังได้รวบรวมทีมงานวิจัยและพัฒนาระดับนานาชาติจากยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย แคนาดาและประเทศอื่นๆ กว่า 430 คน ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ด้านเทคนิคมากกว่าสิบปีในสาขาพลังงาน ซึ่งกว่า 50% จบปริญญาโท-เอก โดยทีมนักวิจัยเหล่านี้จะหมุนเวียนทำงานในศูนย์วิจัยและพัฒนาทั้ง 5 แห่ง ใน 4 ประเทศ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ และเป่าติ้ง ในจีน และในประเทศ แคนาดา ญี่ปุ่น และเยอรมนี ซึ่งกำลังดำเนินการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับพลังงานไฮโดรเจนและโซลูชั่นเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงและทิศทางการพัฒนาพลังงานแห่งโลกอนาคต
ปัจจุบัน Great Wall Motors ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าของสิทธิบัตร และทรัพย์สินทางปัญญาของ 6 เทคโนโลยีหลักและผลิตภัณฑ์อย่างเต็มตัว ประกอบไปด้วย
ความสำเร็จที่ตอบรับยุทธศาตร์ชาติ สู่การต่อยอดนวัตกรรมเพื่อผู้บริโภค
Great Wall Motors มุ่งเน้นการส่งเสริมและการดำเนินงานสำหรับระบบขนส่ง 3 ประเภท ได้แก่ ระบบขนส่งสาธารณะ/รถประจำทาง รถบรรทุกขนาดใหญ่/รถขนส่งทางโลจิสติกส์ และรถยนต์นั่ง โดยเข้าร่วมโครงการเมืองนำร่องสำคัญทั้ง 4 แห่งในประเทศจีน ได้แก่ เส้นทางพิเศษสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ทั้งเพื่อการขนส่งสินค้าทางการเกษตรในเขต Xinfadi ที่เมืองปักกิ่ง เส้นทางเพื่อการขนส่งกรวด หิน ดิน ทรายในเขต Xiong’an ใหม่ เมืองเหอเป่ย และเส้นทางการขนส่งโลจิสติกส์ที่เขต Binhai ใหม่ เมืองเทียนจิน เป็นต้น เพื่อสาธิตการใช้รถยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิง ในอุตสาหกรรมการขนส่ง
โดย Great Wall Motors ได้สร้างระบบบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่ การพัฒนาวัตถุดิบ การวิจัยและพัฒนา การผลิต การวิจัยเทคโนโลยีหลัก การทดสอบอุปกรณ์พลังงานไฮโดรเจน การทดสอบสภาพการใช้งานจริง โดยได้วางเป้าการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่องถึงปี 2568
Great Wall Motors ตั้งเป้าที่จะผลิตรถยนต์โดยสารเซลล์เชื้อเพลิงสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก และผลิตรถบรรทุกขนาดใหญ่น้ำหนัก 49 ตันที่จะใช้พลังงานไฮโดรเจน 100 คันแรกของโลกภายในปีนี้ และจะมีการเปิดตัวรถยนต์โดยสารระดับไฮเอนด์ที่ใช้พลังงานเซลส์เชื้อเพลิงครั้งแรกในช่วงโอลิมปิกฤดูหนาวปีหน้า รวมถึงเปิดตัวยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ เช่น รถบรรทุกพ่วงขนาดใหญ่ ยานพาหนะขนส่งและขยายการใช้งานเซลล์เชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำไปยังการขนส่งทางเรือและทางรถไฟ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการขึ้นเป็นเป็นบริษัท Top 3 ในตลาดพลังงานไฮโดรเจนของโลก ภายในปี 2568
ต่อยอด ตอบโจทย์ และเชื่อมโยงนวัตกรรมสู่ผู้บริโภคด้วย GWM LEMON
อีกหนึ่งความก้าวหน้าของ Great Wall Motors คือ การนำเทคโนโลยีไฮโดรเจนผนึกกำลังกับเลมอนแพลตฟอร์ม (Lemon Platform) ในการสร้าง “ระบบพลังงานไฮโดรเจน” สำหรับการใช้งานของรถยนต์ที่คุ้มค่าที่สุด เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมเพื่อการเดินทางที่เหมาะสมในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนนอย่างไร้คาร์บอน และจะกลายเป็น Mega Trend สำคัญของโลก ที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายการลดภาวะโลกร้อนได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และจากงาน GWM Hydrogen Energy Strategy Global Launch
Great Wall Motors ยังได้ลงนามพันธมิตรอุตสาหกรรมร่วมกับกับศูนย์รับรองคุณภาพแห่งประเทศจีน และคณะยานยนต์ มหาวิทยาลัย Tong Ji ประเทศจีน เพื่อต่อยอดการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาพลังงานสะอาดสู่ขั้นสุด ซึ่งความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจนระดับโลกของ Great Wall Motors จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการร่วมสร้างโลกแห่งพลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Great Wall Motors ทุ่มงบ 5,000 ล้านหยวน เพื่อวิจัยและพัฒนาพลังงานไฮโดรเจนระดับโลก "