Group Test : รีวิว MG V80 ตู้ 11 ที่นั่ง สัมผัสแรก ! ในฐานะผู้โดยสาร กว้างสบาย ช่วงล่างไม่กระด้าง
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เตรียมเปิดตัว ‘NEW MG V80’ (อ่านออกเสียงว่า วี แปดสิบ) รถยนต์ Passenger Van ขนาด 11 ที่นั่ง ที่มาพร้อมห้องโดยสารกว้าง พร้อมความสะดวกสบาย และระบบความปลอดภัยครบครัน เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถยนต์นั่งขนาดใหญ่เพื่อการเดินทางกับครอบครัว หรือในแบบหมู่คณะ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม ถึง 7 เมษายน 2562 นี้
นับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นแรกสู่ตลาดเมืองไทยเมื่อปี 2014 ปัจจุบัน เอ็มจีจำหน่ายรถยนต์นั่งที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง 4 ประตู (Sedan) รถยนต์นั่ง 5 ประตู (Hatchback) และรถเอสยูวี (SUV) โดยได้รับการตอบรับจากลูกค้าคนไทยเป็นอย่างดีและมียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จากแผนงานของบริษัทฯ ที่ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนไทยมากขึ้น
ล่าสุดได้เตรียมแนะนำ ‘NEW MG V80’ ยานยนต์ในรูป Passenger Van ขนาด 11 ที่นั่ง มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ที่มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบาย มีความปลอดภัยสูง ตลอดจนมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเดินทางของสมาชิกในครอบครัวหรือหมู่คณะ และสามารถรองรับทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้
โดยช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทาง บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชนร่วมสัมผัสกับกับ NEW MG V80 ในฐานะผู้โดยสาร (ไม่ได้ขับ) รวมทั้งไม่มีการแจ้งสเปกละเอียดให้ทราบ โดย เดินทางไป-กลับ จาก MG Driving Experience Centre ย่านศรีนครินทร์ สู่จังหวัดฉะเชิงเทรารวมระยะประมาณ 100 กม.
รูปลักษณ์ภายนอก สำหรับภาพรวมหลังจากได้เห็นสำรวจรอบๆ แทบไม่ต่างจาก MAXUS V80 ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ ส่วนกระจังหน้าเป็นลายรังผึ้งพาดด้วยซี่แนวนอน 3 ชั้น ถัดลงมามีไฟตัดหมอกทรงเกือบสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาบที่มุมกันชนซ้าย-ขวา มีมิติตัวถังที่กว้าง 1.99 เมตร สูง 2.13 เมตร มาพร้อมล้อแม็กลาย 5 ก้านคู่สีเงินขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 215/75 R16
ภายในห้องโดยสาร โดดเด่นด้วยพื้นห้องโดยสารที่ราบเรียบ (Flat floor) ช่วยให้สามารถนั่งได้อย่างสบายไม่อึดอัด อีกทั้งยังสามารถเดินถึงกันจากเบาะคู่หน้าไปยังห้องโดยสารแถวหลังได้ในแบบ Walk Through มาพร้อมกับการติดตั้งเบาะแบบ 11 ที่นั่ง (2+2+3+4) พร้อมเข็มขัดนิรภัยทุกตำแหน่ง ซึ่งในตำแหน่งเบาะคู่หน้า แถว 2-3 นับว่านั่งได้ค่อนข้างสบาย ฐานเบาะปีกเบาะกว้างกำลังดี คนสรีระสูงรูปร่างใหญ่นั่งสบาย ส่วนแถวสุดท้ายอาจจะไม่ได้สะดวกสบายนักโดยเฉพาะกับคนรูปร่างสูงใหญ่ขายาว แต่ก็ไม่ถึงขั้นว่านั่งไม่ได้เลย ที่สำคัญการเข้า-ออกจากตำแหน่งแถวสุดท้ายต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากศีรษะอาจกระแทกกับพาดานที่ต่ำกว่าเบาะแถว 2-3 ได้ เพราะมีการติดตั้งพัดลมแอร์เพื่อช่วยเพิ่มความเย็นในเบาะแถวหลัง
พร้อมประตูสไลด์ 2 บาน และบันไดข้างไฟฟ้าระบบอัตโนมัติที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้น-ลง รวมไปถึงประตูท้ายบานคู่ (ตู้กับข้าว) เปิดแบบ 50 : 50 ได้กว้างถึง 180 องศา เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน
เครื่องยนต์ ในส่วนของสมรรถนะ มีการออกแบบสไตล์รถยุโรปด้วยการวางเครื่องยนต์ด้านหน้า ดีเซลคอมมอลเรล ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 136 แรงม้า 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร-เมตร ที่รอบต่ำเพียง 1,800 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า ในส่วนระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ แต่ด้วยทาง MG ไม่ได้มีเปิดให้สื่อมวลชนเป็นผู้ขับ จึงไม่ได้รายละเอียดของสมรรถนะมาอ้างถึง
อีกหนึ่งจุดที่นับว่าโดดเด่นสำหรับ NEW MG V80 ภายใต้สเปกที่ทราบข้อมูลเพียงเบื้องต้นคือ ‘ระบบช่วงล่าง’ ซึ่งภาพรวมนับว่าให้ประสิทธิภาพที่ค่อนข้างสวนทางกับระบบช่วงล่าง โดยด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเพอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเป็นแบบแหนบพร้อมโช้กอัพแก็ส ซึ่งหลายคนแอบคิดว่านั่งในตอนหลังต้องสัมผัสได้ถึงความแข็งและกระเด้งกระดอนแน่ๆ แต่ทว่าสิ่งที่ถ่ายทอดออกมาให้รูสึกกลับเป็นความนิ่มแต่ไม่ถึงกับโคลงเคลงจนย้วย ซึ่งข้อดีคือทำให้ผู้โดยสารไม่มีอาการวิงเวียนศีรษะ ส่วนหนึ่งคาดว่าเพราะมีน้ำหนักการบรรทุก ถ้าหากเป็นการขับด้วยรถเปล่าอาจมีอาการกระด้างให้ได้รู้สึก
ในขณะที่การเก็บเสียงรวมๆ นับว่าทำได้ดีในระดับหนึ่งโดยเฉพาะในช่วงความเร็วต่ำ แต่เมื่อขยับใช้ความเร็วสูงประมาณ 80-90 กม./ชม. ก็ได้ยินถึงเสียงลมที่มาปะทะอยู่พอสมควร ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากความสูงของรถและดีไซน์ด้านหน้าที่ค่อนข้างตั้งชันนั่นเอง
ในด้านความปลอดภัย NEW MG V80 มาพร้อมช่วงล่างที่ให้เสถียรภาพในการขับขี่แบบรถยุโรป ระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ และติดตั้งระบบความปลอดภัย ESP (Electronic Stability Program) ซึ่งครอบคลุมทั้งระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกครบครัน
สรุป : หลังจากได้สัมผัสแบบเบื้องต้นกับ V80 ในฐานะผู้นั่ง นับว่าห้องโดยสารมีความกว้างขวางนั่งสบาย ขึ้น-ลงรถได้ง่ายและสะดวกด้วยบันไดข้างไฟฟ้าระบบอัตโนมัติ แถมช่วงล่างนั้นให้ความนุ่มนวลกว่าที่คิด ออพชั่นและอุปกรณ์ต่างๆ ก็มีให้อย่างพอเพียง และคาดว่า MG จะตั้งราคา V80 ไว้ที่ประมาณ 1 ล้านบาทต้นๆ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีราคาต่ำกว่าคู่แข่ง อย่างไรก็ตามต้องคอยลุ้นในงาน Bangkok Motor Show 2019 นี้ว่า MG จะประกาศราคาอย่างเป็นทางการมาเท่าไหร่
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Group Test : รีวิว MG V80 ตู้ 11 ที่นั่ง สัมผัสแรก ! ในฐานะผู้โดยสาร กว้างสบาย ช่วงล่างไม่กระด้าง "