Hilux Revo Caravan Trip ตอนที่ 9 ตะลุยตุรกี สู่ ออสเตรีย
วันที่สามสิบห้า : 7 ก.ค. 2559
เส้นทาง : อิสตันบูล ตุรกี – พลอฟดิฟ บัลแกเรีย
ในวันนี้คาราวาน Hilux Revo เดินทางมาถึงช่วงเวลาสุดท้ายในทวีปเอเชียแล้วมุ่งหน้าสู่ทวีปยุโรป โดยจะข้ามช่องแคบบอสฟอรัสสู่อิสตันบูลฝั่งยุโรปและมุ่งหน้าตรงไปยังเมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv) ประเทศบัลแกเรีย โดยผู้รับไม้ต่อจะเป็นคณะสื่อมวลชนกลุ่มที่ 5 ซึ่งเดินทางมาถึงอิสตันบูลเมื่อเช้ามืดวันนี้
ในช่วงเช้าวันนี้คณะสื่อมวลชนกลุ่มที่ 4 ก่อนกลับได้ออกสำรวจเมืองอิสตันบูล เมืองเดียวของตุรกีที่มีพื้นที่อยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) และทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส)
ในขณะเดียวกัน ทีมคาราวานพร้อมคณะสื่อมวลชนกลุ่มที่ 5 ก็ออกเดินทางเป้าหมาย คือ เมืองพลอฟดิฟ ประเทศบัลแกเรีย ระยะทาง 446 กิโลเมตร คาราวานได้ขับผ่านช่องแคบบอสฟอรัสที่คั่นกลางระหว่างทวีปเอเชียกับยุโรปกลางกรุงอิสตันบูล เมื่อข้ามสะพานมาก็ถือว่าเข้าสู่ทวีปยุโรปอย่างเป็นทางการ ปิดฉากภารกิจในทวีปเอเชีย
ทีมคาราวานได้เตรียมข้ามชายแดนจากประเทศตุรกีเข้าสู่ประเทศบัลแกเรีย ซึ่งเสียเวลาที่ด่านขาออกจากประเทศตุรกีกันพอสมควร รถต้องสแกนกันหลายรอบ เสียเวลากันนาน ขณะการตรวจค้นอันเข้มข้น คณะคาราวานจึงถือโอกาสพักผ่อนเอนกายนอนกันภายในรถ ที่เรียกได้ว่ากว้างขวางและนั่งสบายที่สุดคันหนึ่ง บางคนเปิดโน้ตบุคชาร์จไฟทำงานกันในรถ หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ด่านขาเข้าบัลแกเรีย ซึ่งขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเร็วกว่าที่คาดไว้ เพราะไม่มีการค้นรถ
จากนั้นคาราวานเข้าสู่ประเทศบัลแกเรีย ซึ่งวันนี้เรามาถึงพลอฟดิฟกันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้คาราวานจะพาสำรวจความสวยงามของเมืองพลอฟดิฟพร้อมชิมโยเกิร์ตชื่อดังกันต่อ
วันที่สามสิบหก : 8 ก.ค. 2559
เส้นทาง : พลอฟดิฟ – รูเซ บัลแกเรีย
ในวันนี้ถือเป็นการเดินทางวันแรกในยุโรป เริ่มล้อหมุน 9 โมงเช้า เป้าหมายวันนี้ คือ เมืองรูเซ (Ruse) บริเวณชายแดนประเทศบัลแกเรีย มีระยะทาง 305 กิโลเมตร
โดยช่วงเช้านี้มีโปรแกรมเยือนเมืองเก่าพลอฟดิฟ (Plovdiv) ซึ่งห่างจากโรงแรมเพียง 15 นาที เราเริ่มเดินเล่นกันที่เขตเมืองเก่า มีร้านค้ามากมาย อาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ยังดูเก่าและคงความคลาสสิก
จากนั้นออกเดินทางต่อ เส้นทางในวันนี้ Hilux Revo ได้แสดงสมรรถนะหลายอย่าง
ช่วงถนนขรุขระ ช่วงล่าง DCS ของรถก็ยังนิ่ง แน่น
ภายในห้องโดยสารรู้สึกก็ยังคงให้ความสบายตลอดเส้นทาง
เมื่อขึ้นเขา และเป็นเลนสวน ไม่ว่าจะโค้งกว้างและแคบ รถยังคงเกาะแน่นหนึบ พวงมาลัยมีความแม่นยำในการเข้าโค้งเช่นเคย ช่วงลงทางชันการเบรกถือเป็นเรื่องสำคัญ เบรกได้อย่างมั่นใจ รถไม่ส่าย สมดุลดี
เมื่อมาถึงยอดเขา ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์จารึกถึงการปลดแอกของประเทศบัลแกเรีย และคาราวานได้แวะทานอาหารกลางวัน พร้อมกับชมวิวบนยอดเขาแห่งนี้ สวมงามสบายตาจากความเขียวชอุ่ม
จากนั้นเราออกเดินทางกันต่อ สภาพถนนยังคงเป็นสองเลน ผ่านเส้นทางธรรมชาติสลับกับชุมชน บางครั้งต้องเร่งแซงรถใหญ่ที่ขับอยู่ด้านหน้า การชิฟต์เกียร์ด้วยระบบ Sequential Shift ทำให้การเร่งแซงดี มั่นใจยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับกำลังเครื่องยนต์ GD Efficient Boost ได้อย่างลงตัว
เรามาถึงปลายทาง คือ เมืองเวลิโค เทอร์โนโว (Veliko Tarnovo) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยานตา (Yantra) เมืองนี้เปรียบเสมือนเมืองหลวงเก่าของประเทศ ซึ่งมีความคึกครื้นเพราะจะมีการจัดงานดนตรีช่วงค่ำ เมื่อได้เวลามุ่งหน้าสู่เมืองรูเซ (Ruse) กันต่อ
เมืองรูเซ (Ruse) เป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยว จึงให้คำนิยามของเมืองนี้ว่า ”กรุงเวียนนาน้อย” (Little Vienna)
เมื่อเราเช็คอินเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินสำรวจเมืองที่ถนนคนเดินกันสักหน่อย แต่ร้านส่วนใหญ่ปิดกันแล้ว เมื่อเราเดินจนสุดทางก็กลับโรงแรมที่อยูใกล้ ๆ กัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางวันต่อไป
วันที่สามสิบเจ็ด : 9 ก.ค. 2559
เส้นทาง : รูเซ บัลแกเรีย – บูคาเรสต์ – บราซอฟ โรมาเนีย
วันนี้ เราจะมาเดินทางข้ามประเทศกันต่อ จึงออกเดินทางกันแต่เช้า แม้ระยะทางเพียง 274 กิโลเมตร แต่ต้องเผื่อเวลาด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ชายแดนประเทศโรมาเนีย มีจุดหมายที่เมืองบราซอฟ (Brasov)
เมื่อเดินทางมาได้ไม่นาน คาราวานก็เข้าสู่ด่านตรวจขาออกของบัลแกเรีย และขาเข้าของโรมาเนีย ซึ่งไม่ได้ใช้เวลานานอย่างที่คิด เจ้าหน้าที่ตรวจเพียงแค่หนังสือเดินทางเท่านั้น ทำให้เราเข้าสู่ประเทศโรมาเนียได้อย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะทั้งบัลแกเรียและโรมาเนียได้เข้ามาเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่างๆ จึงไม่ยุ่งยากมาก
เส้นทางช่วงต้นหลังจากผ่านเข้ามาเป็นถนนสองเลน ทิวทัศน์สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้และทุ่งหญ้าเขียวคาราวานได้แวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่เมืองบูคาเรสต์ (Bucharest) เมืองหลวงของโรมาเนีย ซึ่งการจราจรวุ่นวายพอสมควร Hilux Revo ทั้ง 9 คัน ต้องพยายามขับเกาะกลุ่มกัน มีการเร่งเครื่องยนต์และแตะเบรกกันตลอดเวลา พลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ GD Efficient Boost ตอบสนองได้ดี ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นใด ผ่านมาไม่นานก็มาถึงร้านอาหารไทย “คุณนาย” กับเมนูอาหารที่คุ้นเคยแต่ไม่ได้ทานกันนานมากแล้ว ทั้งกะเพราหมู แกง ยำเนื้อ ปลาหมึกผัดพริก เรียกได้ว่าเป็นมื้อที่เจริญอาหารที่สุดสำหรับทุกคน
และก่อนจะลาเมืองบูคาเรสต์ คาราวานได้ขับไปวนที่ประตูชัย Triumph Arch ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหล่าทหารหาญชาวโรมาเนียที่เสียชีวิตจากการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 1
จากนั้นจึงเดินทางกันต่อ เพื่อไปแวะชมปราสาทบราน (Bran Castle) หรือ ปราสาทแดร๊กคูล่า (Dracula’s Castle) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทที่สวยงามที่สุดในโรมาเนีย ตั้งอยู่บนยอดเขา เราจึงต้องขับขึ้นเขากันอีก ช่วงล่วง DCS ก็ทำงานดีเช่นเคย
เราได้เยี่ยมชมตัวปราสาททั้งภายนอกและภายในกันอย่างใกล้ชิด โดยภายในมีการตกแต่ง จัดแสดงไว้เสมือนจริง คล้ายพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมที่จำลองยุคสมัยในอดีต คาราวานเดินชมส่วนต่างๆ ของปราสาทกันจนครบถ้วน จึงได้ออกเดินทางไปยังเมืองบราซอฟ (Brasov) จุดหมายของวันนี้
เมื่อเดินทางผ่านเส้นทางธรรมชาติและบ้านเรือนแบบโบราณกันมาสักพัก คาราวานก็เข้าสู่เมืองบราซอฟ เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมเมืองหนึ่งของประเทศโรมาเนีย มีความเก่าแก่ที่สามารถสืบประวัติไปได้ถึงสมัยยุคหินกันเลยทีเดียว คาราวานเริ่มสำรวจเมืองจากป้อมปราการบนเนินเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของที่พัก ซึ่งเป็นจุดชมวิวเมืองเก่าที่สวยที่สุด มองลงไปจะเห็นจัตุรัสที่ว่าการเมือง (The Council Square) ตั้งเด่นเป็นศูนย์กลางอยู่ภายในเมืองเก่า
หลังจากเดินเล่นกันจนค่ำ ก็ได้เวลากลับไปพักผ่อน เตรียมความพร้อมเดินทางกันต่อในโรมาเนีย
วันที่สามสิบแปด : 10 ก.ค. 2559
เส้นทาง : บราซอฟ – เซียไวร่า – ออราเดีย โรมาเนีย
การวันนี้คาราวานเรา ยังคงอยู่กันที่โรมาเนีย วันนี้เดินทางต่อไปยังเมืองเก่าสุดคลาสสิกอีกแห่ง นั่นคือ เมืองมรดกโลกเซียไวร่า (Sighisoara) และไปจบการเดินทางวันนี้ที่เมืองออราเดีย (Oradea) เมืองชายแดนโรมาเนีย ก่อนจะเข้าสู่ประเทศฮังการีในวันพรุ่งนี้
เราออกเดินทางกัน 9 โมงเช้า ระยะทางรวม 423 กิโลเมตร วิ่งจากเขตทรานซิลเวเนีย บนถนนสองเลน ผ่านหุบเขาและโค้งค่อนข้างหลากหลาย สองข้างทางยังเป็นบรรยากาศของทุ่งใหญ่และต้นไม้สลับกับแนวเขาสีเขียว ผ่านหมู่บ้านโบราณเล็ก ๆ และปราสาทหรือป้อมปราการขนาดย่อมบนเนินเขาเป็นระยะ
ไม่นานนัก คาราวานก็เดินทางมาถึงเมืองเซียไวร่า (Sighisoara) เมืองป้อมปราการบนเนินเขา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของโรมาเนีย
คณะคาราวานเริ่มเดินชมเมือง ตั้งแต่ หอนาฬิกาโบราณอายุกว่า 600 ปี ใกล้ๆ กันจะเห็นอาคารสีเหลือง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเจ้าชายวลาดอีกด้วย
หลังจากเดินเล่นและรับประทานอาหารกลางวันกันเป็นที่เรียบร้อย คาราวานจึงเดินทางกันต่อ โดยเส้นทางช่วงนี้เป็นถนนสี่เลน ซึ่งเราเค้นสมรรถนะกำลังเครื่อง GD Efficient อย่างเต็มที่ ไม่นานจึงมาถึงเมืองออราเดีย
เมืองนี้ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนประเทศฮังการีเพียง 8 ไมล์เท่านั้น เราได้ออกไปเดินเล่นในเมืองเก่าและจตุรัสกลางเมืองในช่วงเย็น วันนี้มีการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลยูโรนัดชิงชนะเลิศ ระหว่างฝรั่งเศสและโปรตุเกสที่กลางจตุรัส ทำให้วันนี้คึกคักเป็นพิเศษ หลังจากเดินเล่นกันสักพักก็กลับมาพักผ่อน เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางข้ามไปยังประเทศฮังการีในวันพรุ่งนี้
วันที่สามสิบเก้า : 11 ก.ค. 2559
เส้นทาง : ออราเดีย โรมาเนีย – บูดาเปสต์ ฮังการี
ในวันนี้ เราจะลาประเทศโรมาเนีย เตรียมมุ่งหน้าสู่ กรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ดินแดนที่ได้รับการขนานนามว่า กรุงปารีสแห่งยุโรปตอนกลาง ระยะทางรวมวันนี้ 318 กิโลเมตร
คาราวานวิ่งออกจากเมืองออราเดีย มาบนเส้นทางที่ค่อนข้างเรียบ ทิวทัศน์สองข้างทางสวยงาม ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงด่านตรวจชายแดน ขั้นตอนการผ่านแดนของทั้งโรมาเนียและฮังการีเป็นไปอย่างราบรื่น ตรวจวีซ่าและหนังสือเดินทางเท่านั้น คณะคาราวาน Hilux Revo ทั้งหมดก็เข้าสู่ประเทศฮังการีได้ทันที
หลังจากผ่านชายแดน คาราวานวิ่งสู่ถนนไฮเวย์ 4 เลน เค้นสมรรถนะกำลังเครื่องยนต์ GD Efficient Boost กันอีกครั้ง แม้จะเดินทางมาถึงวันที่ 38 ของการเดินทางแล้ว รถยังแรงดีไม่มีตก สามารถเร่งทำความเร็วแบบต่อเนื่อง ได้ตลอดเส้นทาง ขอบคุณเครื่องยนต์ที่ทรงพลังจาก Hilux Revo เพราะทำให้เราเดินทางถึงกรุงบูดาเปสต์ได้ราบรื่นภายในเวลาไม่นาน
เรามาถึงบูดาเปสต์ในช่วงบ่าย เคลื่อนขบวนข้ามสะพาน Chain bridge สะพานหลักของเมืองที่ทอดข้ามแม่น้ำดานูบและทำหน้าที่เชื่อมสองฝั่งของเมืองเข้าหากัน คาราวานมุ่งหน้าสู่ด้านบนของฝั่งเมืองเก่า โดยเข้าพักภายในพื้นที่ที่เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองที่โรงแรม Hilton Budapest
จากนั้นก็เที่ยวชมเมืองกันสักหน่อย จุดท่องเที่ยวหลักด้านหน้าโรงแรม ที่เรียกว่า Fisherman Bastion ซึ่งสร้างขึ้นโดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน รำลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมงผู้เสียสละชีวิตปกป้องบ้านเมืองในคราวที่ถูกพวกมองโกลเข้ามารุกราน ป้อมชาวประมงแห่งนี้ ถือเป็นจุดชมวิวรอบเมืองบูดาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง
คณะคาราวานแยกย้ายกันไปชอปปิ้งและเดินเล่นตามอัธยาศัย ในช่วงค่ำจะพบภาพความสวยงามของอาคารรัฐสภาที่เปิดไฟ ซึ่งอาคารรัฐสภาฮังการี (Hungary Parliament) เป็นรัฐสภาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ดื่มด่ำภาพความงดงามริมฝั่งแม่น้ำดานูบกันพอสมควรแล้ว คณะคาราวานจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน เก็บแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ กับภารกิจวิ่งผ่าน 5 ประเทศภายในวันเดียว
วันที่สี่สิบ : 12 ก.ค. 2559
เส้นทาง : บูดาเปสต์ ฮังการี – สโลวาเกีย – สาธารณรัฐเช็ก – ออสเตรีย – เบิร์ชเทสการ์เดน เยอรมัน
วันนี้นับเป็นวันที่ท้าทายมากที่สุดวันหนึ่ง เพราะต้องเดินทางวันเดียวข้ามแดนกันถึง 5 ประเทศ กับระยะทางรวม 690 กิโลเมตร ปลายทางอยู่ที่เมืองเบิร์ชเทสการ์เดน ประเทศเยอรมัน
คาราวานเริ่มออกเดินทางกันแต่เช้า เส้นทางส่วนมากในวันนี้ยังคงเป็นถนนสี่เลน คาราวานจึงใช้ความเร็วกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเร่งทำความเร็วมากแค่ไหนแต่ภายในห้องโดยสารก็ยังคงนิ่งสนิท และเงียบ มอบสุนทรีย์ได้อย่างผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียด
ไม่นานนัก เราก็เข้าสู่เขตแดนของประเทศสโลวาเกีย (Slovakia) โดยมีปราสาทบราติสลาว่า (Bratislava Castle) มองให้เห็นกันไกลๆ จากนั้นก็เข้าสู่ประเทศสาธารณรัฐเช็ก (Czech) ซึ่งเส้นทางที่คาราวานผ่านห่างจากกรุงปรากไม่ถึงร้อยกิโลเมตร ก็มาถึงเส้นแบ่งแดนเช็กและออสเตรีย (Austria) มีป้ายต้อนรับของทั้งสองประเทศตั้งอยู่ตรงข้ามกัน ในวันนี้เราได้ฟังเพลงจากคลื่นวิทยุที่ค้นหาอัตโนมัติกันถึง 5 ประเทศ สามารถหาคลื่นวิทยุด้วยปุ่มบังคับบนพวงมาลัยสะดวก เพลิดเพลิน และปลอดภัย
ในวันนี้บางช่วงจะมีฝนตกลงมา ให้ทดสอบสมรรถนะของการยึดเกาะบนถนนที่เปียกลื่นกันบ้าง เพื่อย้ำความมั่นใจในช่วงล่าง DCS ไม่ว่าจะวิ่งด้วยความเร็วบนทางด่วนที่มีโค้งกว้าง สลับเนินขึ้น-ลงเขา ก็ยังมั่นใจเอาอยู่
ในที่สุดเราก็มาถึงปลายทางที่เมืองเบิร์ชเทสการ์เดน (Berchtesgaden) ประเทศเยอรมัน (Germany)
คาราวาน Hilux Revo เคลื่อนตัวผ่านหุบเขาที่เขียวชอุ่มและสวยงามในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะในวันที่มีฝนตกลงมาแบบนี้ อากาศหลังฝนตกเย็นสบายและสดชื่น เราพักกันที่ Grunberger Hotel ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา แต่กว่าจะมาถึงก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนทันทีที่มาถึงเพราะเหนื่อยล้ากันมาทั้งวันกับการเดินทางข้าม 5 ประเทศรวดในวันเดียว
วันที่สี่สิบเอ็ด : 13 ก.ค. 2559
เส้นทาง : เบิร์ชเทสการ์เด้น เยอรมัน – ลินซ์ ออสเตรีย
ในวันนี้คาราวานเราไม่เร่งรีบนัก เพราะจุดหมายปลายทางของวัน คือ เมืองลินซ์ ประเทศออสเตรีย ซึ่งอยู่ห่างเพียง 206 กิโลเมตรเท่านั้น เราจึงพอมีเวลาที่แวะเยี่ยมชมอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของเยอรมันที่อยู่ระหว่างทาง นั่นคือ เคลสไตน์เฮาส์ (Kehlsteinhaus) หรือที่เรียกอีกชื่อว่า รังอินทรีย์ (Eagle’s Nest) สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศเยอรมัน
การเดินทางไปเคลสไตน์เฮาส์ คณะคาราวานต้องขับรถขึ้นเขาที่มีความโค้งและชันพอสมควร แน่นอนช่วงล่าง DCS ใน Hilux Revo หนึบเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ช่วยพาคาราวานผ่านขึ้นมาได้อย่างสบายจนถึงที่หมาย ปัจจุบันเคลสไตน์เฮาส์ได้แปลสภาพเป็นภัตตาคารและจุดชมวิวบนเทือกเขาแอลป์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง น่าเสียดายที่อากาศวันนี้ปิด เราจึงรีบออกเดินทางกันต่อ
เนื่องจากฝนเพิ่งตกลงมา ทำให้การขับรถในช่วงขาลงลำบากมาก ทั้งลาดชันแล้ว ยังเปียกลื่น ขอบคุณระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ DAC ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบเบรก ABS และระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ซึ่งทั้งหมดนี้ เข้ามาช่วยให้คาราวานเราผ่านเส้นทางอันตรายไปได้ด้วยความมั่นใจและปลอดภัยดีทุกคน
คาราวานขับผ่านเส้นทางธรรมชาติที่สวยงามของประเทศออสเตรีย สองข้างทางถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ บางช่วงจะเห็นยอดเขาที่ยังมีหิมะปกคลุมอยู่ ไม่นานเราก็เดินทางกันมาถึงลินซ์ (Lienz) เมืองเก่าเปี่ยมเสน่ห์ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ คาราวานเลือกพักกันที่นี่เพื่อเตรียมตัวควบ Hilux Revo ไปพิสูจน์สมรรถนะกันต่อที่ยอดเขากลอสกล็อกเนอร์ (GrossGlockner) ยอดเขาที่สูงที่สุดในออสเตรีย ที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามและเป็นเส้นทางสุดท้าทายในฝันของนักขับจากทั่วโลก
ในตอนต่อไป 9carthai เราจะพาทุกท่านมาติดตามเส้นทางสุดท้าทายของกลอสกล็อกเนอร์กันต่อ
เพื่อนๆสามารถรับชม ข้อมูลข่าวสารกันได้ที่ www.toyota.co.th/hiluxrevocaravantrip
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ขับจริง หนึบจริง แกร่งจริง
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Hilux Revo Caravan Trip ตอนที่ 9 ตะลุยตุรกี สู่ ออสเตรีย "