HONDA เผยความสำเร็จและทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2556
อันดับหนึ่งตลาดรถยนต์นั่งครึ่งปีแรก ชูกลยุทธ์เพื่อครองแชมป์ประจำปี
คาดยอดขายในประเทศกว่า 1.2 ล้านคันในปีนี้
กรุงเทพฯ — วันที่ 25 กรกฎาคม 2556 –บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย รายงานผลสำเร็จในการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 โดยมียอดการจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสะสม (ม.ค.-มิ.ย. 2556) สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในตลาด จำนวนทั้งสิ้น 131,458 คัน จากยอดขายตลาดรวมทั้งสิ้น 370,288 คัน หรือมีส่วนแบ่งตลาด 35.5% และเพิ่มขึ้น 172% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (48,309 คัน) พร้อมตั้งเป้าครองอันดับหนึ่งของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลประจำปี 2556 โดยใช้กลยุทธ์การตลาดเชิงรุก
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความสำเร็จที่มีมาอย่างต่อเนื่องนั้นทางบริษัทฯ ต้องขอขอบคุณทุกการสนับสนุนของลูกค้าชาวไทย ที่ให้การตอบรับรถยนต์ทุกกลุ่มของฮอนด้าด้วยดีมาโดยตลอด สำหรับในครึ่งปีแรกนี้ โดยภาพรวมตลาดรถยนต์ของไทยยังคงมีอัตราการเติบโต โดยมียอดขายสะสม (ม.ค.-มิ.ย.) รวม 739,126 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 600,384 คัน เพิ่มขึ้น 23.11% อันเป็นผลสืบเนื่องจากโครงการรถยนต์คันแรก ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญในการผลักดันตลาดรถยนต์ไทย ประกอบกับการฟื้นคืนกำลังผลิตของค่ายรถและระบบซัพพลายเชนสู่ระดับปกติได้อย่างรวดเร็วหลังเกิดปัญหาน้ำท่วม
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2556 นี้ ฮอนด้าคาดว่าเศรษฐกิจในภาพรวมจะยังทรงตัวเหมือนในปัจจุบัน เพราะมีปัจจัยผันผวนทางเศรษฐกิจ เช่น ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น การผันผวนของตลาดหุ้นและราคาหุ้น รวมถึงการเร่งคลี่คลายปัญหาการระบายรถยนต์คงค้างของผู้ผลิตแต่ละราย โดยคาดว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยของปี 2556 จะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่กว่า 1.2 ล้านคัน”
ยอดการจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในครึ่งปีแรกของปี 2556 มีดังนี้:
นายพิทักษ์ กล่าวเสริมว่า “สำหรับในครึ่งปีหลังนี้ ฮอนด้ามั่นใจว่าจะสามารถทำยอดจำหน่ายรวมของปีนี้ได้มากกว่า 200,000 คันตามแผนที่วางไว้ โดยฮอนด้าเน้นการใช้กลยุทธ์การทำตลาดเชิงรุก 3 ประการ เพื่อครองความเป็นหนึ่งในตลาด ได้แก่
1) นำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง
2) การรักษาฐานลูกค้าเดิมและการเพิ่มลูกค้าใหม่ ด้วยการยกระดับการบริการ
เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดตอบโจทย์ทุกความต้องการ และ
3) ผสานการสื่อสารการตลาดและการประชาสัมพันธ์อย่างลงตัว มีการสื่อสารโดยชูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมและตรงเป้าหมาย
“ด้านการพัฒนาคุณภาพการบริการ ฮอนด้าวางแผนเพิ่มพื้นที่การให้บริการครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ด้วยการขยายศูนย์บริการเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 175 แห่งเป็น 200 แห่งภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งการนำเสนอนวัตกรรมล้ำหน้าทางเทคโนโลยี เช่น การเปิดตัว HondaLink แอพพลิเคชั่นยานยนต์อัจฉริยะ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ของตนเองและสิทธิพิเศษ โปรโมชั่นต่างๆ ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส นอกจากนี้ฮอนด้ายังมี Enjoy Honda Club ที่พร้อมมอบสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกต่อเนื่องตลอดทั้งปี” นายพิทักษ์ กล่าว
“จากพันธสัญญาในการเป็นองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไป ฮอนด้าจะมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ เพื่อเติบโตเคียงข้างสังคมไทย ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดตั้งกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทยขึ้น เพื่อเป็นกองทุนฉุกเฉินในการช่วยเหลือประชาชนชาวไทยเมื่อยามประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ปัจจุบันมีเงินสมทบ
เข้ากองทุนฯ แล้วถึง 500 ล้านบาท หรืออาจกล่าวได้ว่าในแต่ละวันจากการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทยมีเงินสมทบเข้ากองทุนฯ เฉลี่ยวันละมากกว่า 1 ล้านบาท กิจกรรมที่ทางกองทุน ฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยด้านภัยหนาว และน้ำท่วม ในจังหวัดต่างๆ การส่งมอบรถพยาบาลดัดแปลงจาก Step Wagon Spada และจักรยานยนต์ดัดแปลงจาก Honda CBR250R การจัดฝึกอบรมความรู้ในการรับมือกับภัยพิบัติกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย
นอกจากนี้ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัท ฯ ฮอนด้ายังได้จัดกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยในรถคันแรกกับฮอนด้า ตลอดจนกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทย ในโครงการ ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย
คอนเทสต์ โครงการโรงเรียนสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติ และล่าสุดฮอนด้าได้เปิด Honda KidZania เพื่อการเรียนรู้โลกแห่งยนตรกรรมที่เต็มไปด้วยสาระและความสนุก เพื่อให้เยาวชนได้ร่วมสนุกผ่านการเล่นบทบาทสมมติ ณ สยามพารากอน อีกด้วย” นายพิทักษ์ กล่าวทิ้งท้าย
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " HONDA เผยความสำเร็จและทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2556 "