7 วิธีเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้ายังไง ให้ถูกใจกับไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง
สกูตเตอร์ไฟฟ้า ถือว่าเป็นพาหนะที่ตอบโจทย์ในการเดินทาง ให้กับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองอย่างกรุงเทพได้เป็นอย่างดี ช่วยทำให้การเดินทางเป็นเรื่องที่สนุกและง่ายมากยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง ไม่ต้องไปเผชิญกับปัญหารถติด ให้ต้องหงุดหงิดใจ ลัดเลาะไปเส้นทางต่าง ๆ ได้สะดวก และการใช้งานก็ง่ายมาก ๆ ไม่ต้องเติมน้ำมัน ดูแลรักษาก็ง่าย ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด ทำให้พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก และที่สำคัญยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้โลกน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
แชร์ไอเดียการเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าอย่างไรให้ถูกใจ
ด้วยพฤติกรรมของคนเริ่มเปลี่ยนจากการเดินทางด้วยรถยนต์ พอรถเจอปัญหารถติดหนัก ๆ ก็เริ่มหันมาใช้เป็นมอเตอร์ไซค์ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการเดินทาง แต่เมื่อเทรนด์ทั่วโลกที่ตอนนี้กำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้นเพราะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงทำให้รถพลังงานไฟฟ้าต่าง ๆ รวมถึงสกูตเตอร์ไฟฟ้าได้รับความนิยมใช้กันมากขึ้น และใครที่สนใจอยากหาซื้อมาใช้กันบ้าง วันนี้เราอยากจะมาแชร์ไอเดียวิธีการเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าอย่างไรให้ถูกใจ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้เข้ากับวิถีชีวิตคนเมือง ลองมาดูกัน
1.ความเร็วของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
สิ่งแรกที่ควรจะต้องพิจารณาในการซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้า คือ ความเร็ว เนื่องจากสกูตเตอร์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ก็จะมีความเร็วที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน แต่ถ้าคุณอยากจะซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ เพื่อตอบโจทย์สไตล์ในการใช้ชีวิตในเมือง เราขอแนะนำให้เลือกสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 250-500 วัตต์ ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานกับถนนในเมืองอย่างกรุงเทพ และความเร็วที่เหมาะสมก็ควรไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าเป็นความเร็วที่กำลังดี ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป และน่าจะทำให้การเดินทางของคุณปลอดภัยที่สุด แต่ถ้าในช่วงเวลาเร่งรีบใครที่อยากจะขับซิ่งเร็วกว่าที่แนะนำก็ได้ แต่ก็ต้องแลกมากับความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน ก็อย่างที่หลายคนรู้ดีว่าถนนหนทางในบ้านเรา มักจะมีเนินสูงต่ำไม่เท่ากัน ผิวถนนที่ขรุขระ ก็อาจจะทำให้เกิดสะดุดล้มได้ และสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่มีความสูง ๆ ราคาก็จะสูงตามไปด้วยเช่นกัน
2.ความสูงของสกูตเตอร์ไฟฟ้า
รูปทรงความสูงของสกูตเตอร์ไฟฟ้าก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากความสูงของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน แล้วถ้าเราเลือกสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่มีแฮนด์สูงหรือเตี๊ยเกินไป ไม่สามารถปรับระดับได้ ก็จะทำให้คุณขับสกูตเตอร์ไฟฟ้าไม่ถนัด ทรงตัวไม่ได้ แล้วอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ทางที่ดีควรจะเลือกสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่มีระดับความสูงของแฮนด์พอดีกับตัวคุณ สามารถรองรับสรีระร่างกายของคุณได้ หรือถ้าจะให้ชัวร์แนะนำให้คุณไปทดลองขี่หรือจับที่ร้านก่อนก็ได้ ลองไปดูสิว่ารุ่นที่จะเลือกซื้อนั้น มีความสูงพอดีกับเราไหม ปรับระดับความสูงได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อที่เวลาซื้อมาใช้งานแล้วจะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง
3.ขนาดและน้ำหนักของสกูตเตอร์ไฟฟ้า
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้า นั่นก็คือเรื่องของขนาดและน้ำหนักของสกูตเตอร์ไฟฟ้า ควรจะเลือกที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาไปไหนมาได้อย่างสะดวก แน่นอนว่าเราใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าในการเดินทาง เมื่อถึงที่หมายแล้วครั้นจะจอดที่ทิ้งไว้คงไม่ได้แน่ คุณจะต้องพกสกูตเตอร์ไฟฟ้าไปด้วย และถ้าเลือกซื้อตัวที่หนักจนเกินไป ก็อาจจะทำให้ไม่สะดวกในการถือ ถ้าจะให้ดีแนะนำให้เลือกรุ่นที่สามารถพับแฮนด์ได้ก็ดีมาก ๆ ยิ่งทำให้การใช้ชีวิตของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น ตอบโจทย์สไตล์ชีวิตคนเมืองได้ดีทีเดียวล่ะ ซึ่งน้ำหนักของสกูตเตอร์ไฟฟ้าควรอยู่ไม่เกิน 10-15 กิโลกรัม ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการแบกน้ำหนักของแต่ละคนด้วย เผื่อว่าบางคนชอบรุ่นที่มีน้ำหนักมากกว่าที่เราแนะนำ และคุณเองก็สามารถถือได้อย่างสบาย ก็ใช้งานได้ดีเหมือนกัน
4.ขนาดของล้อและยางของสกูตเตอร์ไฟฟ้า
สกูตเตอร์ไฟฟ้า ถือว่าพาหนะชนิดหนึ่งที่ใช้ในการเดินทาง ฉะนั้นการเลือกซื้อก็ควรจะคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งานด้วยเช่นกัน แนะนำให้เลือกขนาดของล้อสกูตเตอร์ไฟฟ้า ที่สามารถรองรับน้ำหนักของคุณได้ และต้องคำนึงถึงเส้นทางในการใช้งานด้วย ถ้าเลือกล้อที่เล็กจนเกินไป เวลาใช้งานแล้วไปเจอกับหลุมต่าง ๆ บนถนนก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ เราขอแนะนำให้เลือกล้อที่มีขนาดตั้งแต่ 8 นิ้วขึ้นไป แต่ถ้าการใช้งานเพียงแค่วิ่งในหมู่บ้าน วิ่งในพื้นเรียบ ๆ ก็เลือกล้อที่มีขนาด 5-6 นิ้วก็ได้เช่นกัน เมื่อเลือกล้อแล้วก็จะต้องดูเรื่องของยางควบคู่กันไปด้วย เพราะยางจะต้องเป็นตัวที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง ซึ่งตัวยางจะมีให้เลือกด้วยกัน 2 ประเภท คือ ล้อยาง 100% จะมีความทนทานต่อการใช้งานที่มากกว่า ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย แต่ข้อเสียคือเวลาใช้งานจะไม่ค่อยลื่นไหลเท่าที่ควร เหมาะกับใช้พื้นผิวที่เรียบ และยางแบบเติมลม จะมีลักษณะคล้ายกับยางของจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ทั่วไปเลย เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ลมยางก็อ่อนได้ เราก็ต้องไปเติมลม เพื่อให้มันยึดเกาะกับถนนได้ดี ข้อดีของยางแบบเติมลม คือจะขับสกูตเตอร์ไฟฟ้าได้นุ่มไหลลื่นดีกว่า
5.ระบบการทำงานเรื่องความปลอดภัยของสกูตเตอร์ไฟฟ้า
ข้อนี้ก็ไม่อาจมองข้ามไปได้ ก็ในเมื่อสกูตเตอร์ไฟฟ้า จัดว่าเป็นยานพาหนะอย่างหนึ่งที่ใช้ในการเดินทาง ฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยก็มาเป็นที่หนึ่งเช่นกัน แนะนำก่อนซื้อว่าควรเช็คเรื่องของระบบการทำงานช่วงล่างของสกูตเตอร์ไฟฟ้า ว่ามีระบบกันสะเทือนจะช่วยดูดซับความสั่นสะเทือนหรือไม่ และระบบเบรกดีไหม เนื่องจากบางครั้งในการขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้าอาจจะต้องใช้ความเร็ว แล้วถ้าจะต้องเบรกกะทันหันจะเอาอยู่ไหม ข้อนี้จึงเป็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามจริง ๆ เพราะมันคือความปลอดภัยของตัวคุณเอง
6.งบประมาณในการซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้า
เรื่องเงินก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าสเปคที่เราบอกไปเลย เพราะว่าเงินในกระเป๋าจะเป็นตัวกำหนด ว่าคุณจะเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าได้ในสเปกประมาณไหน ราคาของสกูตเตอร์ไฟฟ้าก็จะมีตั้งแต่หลักพันขึ้นไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์และก็รุ่นต่าง ๆ และบางคนก็อาจจะลังเลว่าถ้ามีเงินสักหมื่นหนึ่งจะซื้ออะไรดีระหว่าง สกูตเตอร์ไฟฟ้า กับ มอเตอร์ไซค์มือสอง ด้วยราคาที่ใกล้เคียงกัน ก็ต้องบอกอย่างนี้ว่าถ้าใช้เดินทางแค่ใกล้ ๆ ในเมือง เลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าก็น่าจะตอบโจทย์ได้มากกว่า
7.การรับประกันตัวสกูตเตอร์ไฟฟ้า
ก็ในเมื่อสกูตเตอร์ไฟฟ้าใช้งานเป็นประจำทุกวัน แน่นอนว่าจะต้องมีเสีย ชำรุด หรือเสื่อมสภาพไปตามการใช้งาน โดยเฉพาะตัวล้อ ยาง และผ้าเบรค ฉะนั้นก่อนซื้อควรจะต้องเช็คก่อนเลยว่าสินค้าที่ซื้อมีการรับประกันนานแค่ไหน รับประกันในส่วนไหนบ้าง มีบริการหลังการขายไหม ไม่เช่นกันเกิดสกูตเตอร์ไฟฟ้ามีปัญหาขึ้นมา จะเอาไปซ่อมก็ไม่มีรับประกัน หรือว่าจะต้องเสียเงินค่าอะไหล่ที่แพงเกินไป ก็อาจจะไม่คุ้มที่จะซ่อม ฉะนั้นเรื่องการรับประกัน รวมไปถึงการดูแลหลังการขาย เป็นเรื่องที่สำคัญและไม่ควรที่จะมองข้าม
ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีการเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าเบื้องต้นที่ควรรู้ก่อนจะตัดสินใจซื้อ คราวนี้ก็ไปเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นที่ใช่ ราคาที่โดนใจ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณกันได้แล้ว แต่ขอเสริมนิดนึงถ้าจะให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แนะนำให้หาอุปกรณ์เสริมอย่างพวก หมวกกันน็อค กระจกมองข้าง กล้องติดรถยนต์ กระเป๋าสะพายข้างสำหรับเก็บสกูตเตอร์ไฟฟ้า เป็นต้น สุดท้ายนี้เราก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนที่อ่าน อย่างน้อย ๆ ก็ได้ข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อ
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " 7 วิธีเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้ายังไง ให้ถูกใจกับไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง "