Lamborghini Huracan EVO RWD ความดิบของรถสปอร์ตขับหลังกำลังจะกลับมาอีกครั้ง

Lamborghini Huracan EVO RWD ความดิบของรถสปอร์ตขับหลังกำลังจะกลับมาอีกครั้ง

วิวัฒนาการแห่งโลกยานยนต์ทุกวันนี้ถูกพัฒนาไปไกลอย่างก้าวกระโดด ซึ่งการนำเอาเทคโนโลยี และระบบช่วยเหลือต่างๆ เข้ามาติดตั้งไว้ในรถอาจจะช่วยเสริมความปลอดภัยที่มั่นใจได้มากยิ่งขึ้น แต่ทว่าบางครั้งสเน่ห์ของการขับขี่ และความเร้าใจก็อาจจะหดหายไปเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถระดับ Super Car

Lamborghini ได้ตระหนัก และเข้าใจถึงความต้องการของเจ้าของรถ Lamborghini รวมถึงรถ Super Car ทั้งหลาย ว่าล้วนแต่ต้องการการขับขี่ที่สนุก เร้าใจ ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความปลอดภัยที่เหนือชั้น จึงได้ทำการพัฒนา Lamborghini Huracan EVO รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ที่จะกลับมาทวงคืนของดิบ และความเร้าใจในรถสปอร์ตขับหลังอีกครั้ง

ทั้งนี้ Lamborghini Huracan EVO RWD จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ V10 ขนาด 5.2 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 610 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 560 นิวตัน-เมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที ซึ่งจะมีสมรรถนะด้อยกว่ารุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD อยู่เล็กน้อย

โดยรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD จะมีสมรรถนะสูงสุดอยู่ที่ 640 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนั้นจะใช้ระบบส่งกำลังแบบ Dual-Clutch 7 สปีด พร้อมระบบ Launch Control เช่นเดียวกัน

แม้ว่าสมรรถนะในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD จะน้อยกว่ารุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ก็ตาม แต่ถ้าเทียบจากน้ำหนักที่ไร้ซึ่งระบบเวกเตอร์ และเพลาขับ 4 ล้อแล้ว ก็ทำให้น้ำหนักในรุ่นขับหลังนั้นมีน้ำหนักที่เบากว่า โดยมีน้ำหนักตัวถังอยู่ที่ 1,389 กก. ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อนั้นมีน้ำหนักที่ 1,422 กก. (ต่างกัน 33 กก.)

ทั้งนี้ Lamborghini Huracan EVO RWD มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.3 วินาที (ช้ากว่า AWD 0.4 วินาที) และอัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ใน 9.3 วินาที (ช้ากว่า AWD 0.3 วินาที) ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้เท่ากับรุ่น AWD ที่ 325 กม./ชม. (โดนล็อคไว้)

แม้ด้านสมรรถนะ และอัตราเร่งของรุ่น RWD จะเป็นรอง แต่ Lamborghini Huracan EVO RWD นั้น จะมาพร้อมกับระบบควบคุมการลื่นไถล P-TCS ใหม่ ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษสำหรับขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งจะไม่ตัดการทำงานของเครื่องยนต์ หรือลดแรงบิดแม้ในขณะที่รถเสียการทรงตัว (สามารถสไลด์ หรือ Drift ได้นั่นเอง) ซึ่งจะช่วยมอบความสนุกและเร้าใจในการขับขี่มากกว่ารุ่น AWD แต่ในขณะเดียวกันยังมีระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือต่างๆ ที่ไม่แตกต่างกัน