รายงานข่าวจากบริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขยอดขายรถยนต์มาสด้ากลายเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าจับตามองมากที่สุด โดยเฉพาะหลังการส่งมาสด้า 2 และมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ เข้าสู่ตลาด ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์มาสด้าสามารถทะยานขึ้นสู่หลักหมื่นและหลักหลายหมื่นในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะตลาดในช่วงขาขึ้นที่หลายๆ ค่ายต่างฟาดฟันกันอย่างหนัก โดยเฉพาะการเดินหน้าผลิตรถยนต์ให้ทันกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงการแข่งขันเพื่อเสริมทัพรุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะโปรดักซ์แชมป์เปียน ทั้งปิกอัพ และรถยนต์นั่งขนาดเล็ก
แม้ว่ามาสด้าจะไม่มีอีโค่คาร์ หรือรถประหยัดพลังงาน แต่การชูเอาสปอร์ตเก๋งเล็กอย่างมาสด้า2 ซึ่งเป็นบีคาร์แท้ๆ สามารถต่อกรกับคู่แข่งอย่างสมน้ำสมเนื้อ ด้วยยอดขายที่ยังแรงต่อเนื่องผ่านมา 4 เดือน กรวดยอดขายไปแล้วถึง 12,226 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 52% รวมถึงการเปิดมิติใหม่แห่งรถปิกอัพด้วยดีไซน์สไตล์เก๋งที่พิสูจน์ให้ลูกค้าให้การยอมรับอย่างรวดเร็วด้วยยอดขายสูงถึง 5,592 คันหลังการเปิดตัว พร้อมกับยอดจองอีกเป็นหมื่นคัน นี่คือบทพิสูจน์ความแรงของมาสด้าที่ชูความเป็นรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นมาโดยตลอด
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้าเริ่มเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังเมื่อปี พ.ศ. 2542 มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 2.0% และมีผู้จำหน่ายเพียง 50 แห่งเท่านั้น หลังจากเริ่มวางโครงสร้างการบริหารทั้งระบบ การบริหารจัดการ พร้อมกับเปิดตัวมาสด้า 3 และมาสด้า 2 สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้รถยนต์มาสด้าเริ่มได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว โดยในปีที่ผ่านมาเรามียอดขายทั้งสิ้น 42,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 1,000% ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 5.3% และปัจจุบันมีผู้จำหน่ายครอบคลุมเกือบทุกจังหวัดรวมแล้วทั่วประเทศมากถึง 135 แห่งในทุกจังหวัดของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยใช้ระยะเวลาเพียง 13 ปีเท่านั้น
“แน่นอนว่ายอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ไม่สามารถที่จะหยุดการเติบโตของมาสด้าได้ โดยในปี พ.ศ. 2555 นี้ เราได้วางเป้าหมายยอดขายเพิ่มสูงสูดเป็นประวัติการณ์ นั่นคือ 60,000 คัน นับเป็นสิ่งที่ท้าทายของทีมงานเป็นอย่างมาก ซึ้งเรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน หลังจากที่เราเริ่มโหมกิจกรรมทางการตลาดมาอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดส่งผลให้ยอดขายใน 4 เดือนแรกของปีนี้เติบโตสูงถึง 44% หรือ มียอดขายรวมทั้งสิ้น 18,873 คัน ที่สำคัญในเดือนเมษายนที่ผ่านมามียอดขายสูงถึง 4,609 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 47% โดยเฉพาะรถปิกอัพสไตล์เก๋งที่กำลังเร่งผลิตให้ทันกับความต้องการของลูกค้า และมียอดส่งมอบ 1,959 คัน หรือ เติบโตเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 187%” นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเสริม
นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากตัวเลขด้านยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว มาสด้ายังมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากร เพื่อยกระดับการบริการควบคู่กันไปเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (Asean Economic Community) ในปี 2558 ที่กำลังใกล้เข้ามา ซึ่งจะทำให้การค้าขายขยายตัวอย่างน้อย 25% ในส่วนของอุตสาหกรรมบางอย่าง เช่น อุสาหกรรมรถยนต์, การท่องเที่ยว รวมถึงระบบการคมนาคมการขนส่ง และความร่วมมือระหว่างอาเซียนด้วยกัน
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ที่คลุกคลีปลุกปั้นมาสด้ามาตั้งแต่เริ่มต้น กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทีมงานมาสด้าได้ทุ่มเทอย่างหนักในการสร้างแบรนด์ให้สามารถเป็นที่ยอมรับและจดจำของลูกค้าให้ได้อย่างรวดเร็ว โดยงัดเอากลยุทธ์ต่างๆ มากมายมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีแปลกใหม่และแตกต่างได้สร้างสีสันให้กับวงการณ์รถยนต์อย่างมากมาย โดยเฉพาะการประสบความสำเร็จในการเฟ้นหาตัวฟรีเซนเตอร์เข้ามาช่วยในการสื่อสารแทนตัวโปรดักซ์เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็ว ตลอดจนการสื่อสารด้านการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ที่ตรงกลุ่มลูกค้า การออกบูธอีเว้นท์ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เอ็นเตอร์เทรนเม้นต์มาร์เก็ตติ้ง สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง รวมถึงกิจกรรมบีโลว์เดอะลายด์ ซึ่งส่งผลให้รถยนต์มาสด้าสามารถเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ความสำเร็จด้านยอดขายถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกความสำเร็จได้ชัดเจน สำหรับมาสด้าเรายังคงมุ่งมั่นต่อไปเพื่อนำรถยนต์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพมาสู่ตลาดเมืองไทย โดยเฉพาะการสร้างผลิตภัณฑ์ให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ รวมถึงการใส่อุปกรณ์เพิ่มเติม สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าคุ้มราคาให้กับตัวรถอยู่เสมอ
นอกจากการนำเสนอรถยนต์ที่เปี่ยมคุณภาพและสมรรถนะสูงสุด จนประสบความสำเร็จที่เกิดขึ้นทั้งยอดขายและการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งแล้ว อีกส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับมาสด้า นั่นคือ การเอาใจใส่ในบริการหลังการขายที่ต้องมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก โดยเฉพาะมาตรฐานและคุณภาพของการบริการที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ รวมถึงอะไหล่แท้จากมาสด้า การรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมถึงการบริการช่วยความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันเรามีโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศทั้งหมด 135 แห่ง ครอบคลุมในทุกพื้นที่และกำลังขยายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ลูกค้ามาสด้าทุกท่านไม่ควรพลาดโอกาสการในการเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ปี 2011 รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า 3 2.0ลิตรใหม่ รถปิกอัพฮีโร่ มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ และยานยนต์สายพันธ์สปอร์ตจากมาสด้าที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ที่เร้าใจ สมรรถนะเป็นเยี่ยม ให้ความมั่นใจในความปลอดภัยอบอุ่นใจตลอดการเดินทางพร้อมรับข้อเสนอและเงื่อนไขสุดพิเศษจากมาสด้า ทั้งนี้รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นรับประกันคุณภาพนานถึง 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
เชิญสัมผัสและทดลองขับรถสปอร์ตมาสด้า2 สปอร์ต และมาสด้า2 เอลิแกนซ์ รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 2.0ลิตร ใหม่ ปิกอัพฮีโร่ มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ และรถสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 และรถสปอร์ตครอสโอเวอร์หรู 7 ที่นั่ง มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของมาสด้า 135 แห่งทั่วประเทศ
ขอขอบคุณข้อมูล www.prachachat.net
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Mazda โอ่ 4 เดือนแรกโกยยอด 18,873 คัน โต 44% "