เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ประสบความสำเร็จทำยอดขายรวมตลอดปี 2555 ที่ผ่านมา สูงถึง 6,274 คัน พร้อมเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมแห่งยานยนต์ ประเดิมตลาดรถหรูในไทยปีนี้ด้วยแผนขยายพอร์ตฟอลิโอ ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีกหลากหลายรุ่น เพื่อตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เน้นทำตลาด digital marketing เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มยังก์เจเนอเรชั่น รุกทำกิจกรรม CRM มอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ และสร้างสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2555 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการนำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดหลากหลายรุ่นด้วยกัน พร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม รวมทั้งยังสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดรถหรูเป็นปีที่ 12 ติดต่อกันโดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 6,274 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าคิดเป็น 34% โดยรถยนต์รุ่น C-Class และ E-Class ยังคงเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ดร. เพาฟเลอร์ กล่าวต่อว่า “ปัจจัยความสำเร็จของยอดขายในปี 2555 เป็นผลมาจากการนำเสนอยนตรกรรมที่เหมาะสมต่อความต้องการของตลาดด้วยการจัดกิจกรรมเปิดตัวรถหลากหลายรุ่น ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่มและทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็น The new M-Class, The new B-Class, The new SL-Class, The new CLS Shooting Brake, The new CLS, The new A-Class และ C-Class Coupe รวมถึงพฤติกรรมการเลือกซื้อรถยนต์ที่มาจาก ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการที่เพิ่มขึ้น นอกจากนั้นเรายังมีบริการทางการเงินที่หลากหลายและน่าสนใจจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง ที่สำคัญลูกค้าให้ความไว้วางใจในการบริการหลังการขายภายใต้โปรแกรม “My Service” ที่มีการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเป็นพิเศษเฉพาะรายบุคคล เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด นอกจากนี้ยังมีการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทางและสิทธิพิเศษ Star Assist โปรแกรมพิเศษที่พร้อมให้บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง รับประกันอะไหล่แท้ที่มีคุณภาพสูงส่งตรงมาจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศเยอรมนีโดยลูกค้าจะได้รับประสบการณ์เหล่านี้โดยตรงจากโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ 30 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ลูกค้ายังเล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องข้อได้เปรียบสำคัญที่จะได้รับจากการซื้อจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการโดยตรง คือ “ความคุ้มค่า” ตลอดอายุการใช้งานในระยะยาว รวมถึงความได้เปรียบในเรื่องราคาขายต่อเมื่อเทียบกับคู่แข่งอีกด้วย”
มร. มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับในปี 2556 เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) มีนโยบายการทำตลาดเชิงรุก เพื่อกระตุ้นยอดขาย ผ่านการสร้างแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงการจัดกิจกรรมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในปีนี้ไม่น้อยกว่า 6 รุ่น ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่ม นอกจากนี้เรายังคงเดินหน้าให้บริการ พรูเวนท์เอ็กซ์คลูซิวิตี้ (ProvenExclusivity) บริการแบบครบวงจรที่มีทั้งการรับซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ใช้แล้วที่ผ่านการรับรองโดยโปรแกรมมาตรฐานรถใช้งานแล้วจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าเช่นกัน”
“นอกจากนี้เรายังคงให้ความสำคัญกับการทำ Digital Marketing ผ่านช่องทาง Social Network อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูล ข่าวสาร รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยปีที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากจำนวนแฟนเพจบน Facebook ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีจำนวนแฟนเพจประมาณ 98,000 คน และยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ที่มีปฏิสัมพันธ์ต่างๆ จากผู้ใช้ Facebook มากที่สุดเป็น ลำดับ 2 (ณ เดือนธันวาคม 2555) จากการสำรวจโดย Socialbakers เว็บไซต์ที่รวบรวมสถิติผู้ใช้ Facebook รวมทั้งการพัฒนาเครือข่ายระบบการบริหารจัดการในส่วนของศูนย์บริการและ โชว์รูมของผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งในปีนี้เรามีแผนที่จะเปิดตัวโชว์รูมเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง ที่จังหวัดนครราชสีมา และประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงการมอบสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ถือบัตร MercedesCard การจัดกิจกรรมตอบแทนลูกค้า เพื่อการสร้างความสัมพันธ์อันดีร่วมกัน และทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด ”
มร.ชูลซ์ กล่าวสรุปว่า “การนำรถโมเดลใหม่ๆ เข้ามาในประเทศไทย บริษัทฯ จะคัดสรรผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับปัจจัยโครงสร้างของประเทศ รวมทั้งมีการเตรียมพร้อมทีมช่างเทคนิคให้มีทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญในรายละเอียดของรถรุ่นต่างๆ ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น BlueTEC HYBRID เป็นต้น ตลอดจนเครื่องมือและอุปกรณ์เฉพาะทางจากกลุ่มบริษัทเดมเลอร์อย่างต่อเนื่อง และยังคงนโยบายงดให้การรับประกันคุณภาพและการบริการหลังการขายในทุกกรณีสำหรับรถยนต์ใหม่โมเดลปี 2013 เป็นต้นไปที่ซื้อจากผู้นำเข้าอิสระ โดยในปัจจุบันพฤติกรรมการเลือกซื้อรถยนต์ที่มาจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเพิ่มขึ้น ซึ่งเราขอขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเลือกซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่เพียงด้วยศรัทธาในความเป็นเลิศในคุณภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่า แต่ด้วยความมั่นใจในการเลือกซื้อจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ เมอร์เซเดส-เบนซ์”
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " Mercedes Benz ปลื้มยอดขายปีมังกรเพิ่มขึ้นถึง 34% ที่ 6,274 คัน "