สื่อนอกเผย MG จะนำเสนอแบตเตอรี่โซลิดสเตตในปี 2025 ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแบตเตอรี่ที่ใช้งานกันในปัจจุบัน ถึง 2 เท่า
MG เตรียมนำเสนอเทคโนโลยีแบตเตอรี่โซลิดสเตตในรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ โดยคาดว่าจะเปิดตัวภายในปีหน้า ซึ่งจะมอบข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่แข่ง
โดยแบตเตอรี่โซลิดสเตตนี้มีความหนาแน่นพลังงานมากกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปถึงสองเท่า ทำให้สามารถเพิ่มระยะทางขับขี่ได้ หรือทำให้ตัวรถเบาลงและลดต้นทุนการผลิต
เทคโนโลยีแบตเตอรี่โซลิดสเตตถูกพัฒนาภายใต้ IM ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือของ SAIC โดยแบรนด์นี้ได้เริ่มติดตั้งแบตเตอรี่กึ่งโซลิดสเตตในรถยนต์แล้ว และจะนำรถเก๋ง L6 เข้าสู่สายการผลิตในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
ตามข้อมูลที่ Yu Jingmin รองประธานฝ่ายการดำเนินงานรถยนต์โดยสารของ SAIC ให้สัมภาษณ์กับ Autocar เขาคาดว่า MG จะได้รับเทคโนโลยีนี้ในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2025 และวางจำหน่ายก่อนสิ้นปี
แม้ว่าบริษัทรถยนต์หลายแห่งอย่าง BMW และ Toyota จะตั้งเป้าเปิดตัวแบตเตอรี่โซลิดสเตตในปี 2030 และ 2027 ตามลำดับ แต่ SAIC ดูเหมือนจะสามารถเร่งกรอบเวลานี้ให้เร็วขึ้น
โดย Yu Jingmin ไม่ได้ระบุชัดเจนว่ารุ่นใดของ MG จะเป็นรุ่นแรกที่ได้รับเทคโนโลยีนี้ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ MG จะเข้าสู่ยุคใหม่ของการปฏิวัติเทคโนโลยีแบตเตอรี่ไฟฟ้าในไม่ช้า
อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานจะคอยติดตามข่าวนี้ต่อไป และถ้าหากทราบรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " สื่อนอกเผย MG จะนำเสนอแบตเตอรี่โซลิดสเตตในปี 2025 ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแบตเตอรี่ที่ใช้งานกันในปัจจุบัน ถึง 2 เท่า "