Microlino 2.0 รถยนต์ไฟฟ้าไซส์มินิ ดีไซน์ล้ำสมัย เน้นขับในเมือง

Microlino 2.0 รถยนต์ไฟฟ้าไซส์มินิ ดีไซน์ล้ำสมัย เน้นขับในเมือง 

Microlino 2.0 รถยนต์ไฟฟ้าเน้นขับขี่ในเมือง ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก BMW Isetta ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในงาน IAA Mobility 2021 ณ กรุงมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยมีกำหนดการผลิตก่อนสิ้นปี 2021 และมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Urban, Dolce และ Competizione ซึ่งจะมีความจุแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน

Micro บริษัทสัญชาติสวิส ได้เปิดตัว Microlino ครั้งแรกในปี 2016 โดยมีแผนเปิดตัวสู่ตลาดในปี 2018 หลังจากเกิดความล่าช้า Microlino 2.0 ที่ปรับปรุงใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2020 ด้วยแชสซี Unibody ซึ่งเข้ามาแทน Tubular ของรุ่นก่อน

Wim Ouboter ผู้ก่อตั้ง Microlino กล่าวว่า “หลังจากหลายปีของการพัฒนา และความท้าทายมากอย่างมาก เราพร้อมแล้วที่จะนำเสนอ Microlino เวอร์ชันผลิตจริงเป็นครั้งแรก”

การออกแบบ Microlion 2.0 ยังคงไว้เหมือนกับรถต้นแบบด้วยขนาดกะทัดรัดแต่ปรับปรุ่งให้มีความทันสมัยมากขึ้นด้วยแถบไฟ LED ไฟหน้าทรงกลมติดตั้งตรงกระจกมองข้าง ประตูเข้าห้องโดยสารอยู่ด้านหน้าที่สามารถเปิดด้วยการกดปุ่ม

ภายในห้องโดยสารรองรับ 2 ที่นั่ง และพื้นที่เก็บสัมภาระ 230 ลิตร พวงมาลัย 3 ก้าน เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ และแดชบอร์ดดีไซน์เรียบทันสมัย พร้อมติดแผงหน้าปัดดิจิตอล และหน้าจอสัมผัสตรงกลางสำหรับควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ

รุ่น Urban ระดับเริ่มต้นมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Santorini White และสี Amsterdam Orange พร้อมล้อสีดำ ภายในติดตั้งเบาะผ้าสีดำ หรือสีแอนทราไซต์

รุ่น Dolce ระดับกลาง ภายนอกจะโดดเด่นด้วยโครเมียม โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สี Paris Mint, สี Milano Red และสี Zurich Blue หลังคาสีขาว พร้อมแถบไฟ Infinity LED เสริมที่ด้านหน้าและด้านหลัง

ภายในบุด้วยผ้าหรือหนังวีแกน หลังคาซันรูฟสำหรับรุ่น Dolce และ รุ่น Competizione

รุ่น Competizione ระดับท็อป มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สี Gotham Anthracite, สี London Green และ สี Torino Aluminium หลังคาสีดำเงา

โครงสร้างแบบชิ้นเดียว Unibody เสริมความแข็งแกร่งของตัวถังได้เป็นอย่างดี และทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ระบบกันสะเทือนแบบอิสระ Strut McPherson ด้านหน้า และหลัง แทนที่แบบด้านกระทุ่ง/เพลาแข็งของรุ่นก่อน

ระบบส่งกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 17 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร โดยมีกำลังสูงสุด 26 แรงม้า น้ำหนักรถไม่รวมแบตเตอรี่ 435 กก. อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 5 วินาที ความเร็วสูงสุด 90 กม./ชม.

แบตเตอรี่แต่ละรุ่นมีความจุแตกต่างกันดังนี้

– รุ่น Urban ระดับเริ่มต้น แบตเตอรี่ 6 kWh ระยะทางวิ่งไกลสุด 95 กม./ชาร์จ รองรับการชาร์จ 0-80% ใน 4 ชั่วโมง
– รุ่น Dolce ระดับกลาง แบตเตอรี่ 10.5 kWh ระยะทางวิ่งไกลสุด 175 กม./ชาร์จ รองรับการชาร์จ 0-80% ใน 3 ชั่วโมง
– รุ่น Competizione ระดับท็อป แบตเตอรี่ 14 kWh ระยะทางวิ่งไกลสุด 230 กม./ชาร์จ รองรับการชาร์จ 0-80% ใน 4 ชั่วโมง

แม้ต้นทุนการพัฒนาและการผลิตจะสูงขึ้น แต่ Micro ยังคงยึดมั่นในราคาเริ่มต้นดังที่เคยประกาศไว้ที่ 12,500 ยูโร หรือประมาณ 480,000 บาท ซึ่งจะเข้าสู่กระบวนการผลิตที่โรงงาน ณ เมืองตูริน ภายในปีนี้ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าการผลิตต่อปีจะอยู่ที่ 7,500 คัน และจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

Micro ยังได้เปิดเผยอีกว่าตอนนี้มียอดสั่งจองมากกว่า 24,000 คันแล้ว ดังนั้นจึงคาดว่าการส่งมอบครั้งแรกจะเกิดขึ้นในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตามมาด้วยเยอรมนี ส่วนการทำตลาดของประเทศอื่น ๆ ในยุโรปจะเริ่มภายหลัง

นอกเหนือจากรุ่นการผลิตของ Microlino 2.0 แล้ว Micro ยังได้นำเสนอรถยนต์อีกสองคันที่งาน IAA Mobility 2021 อย่างแรกคือ Microletta ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์สามล้อไฟฟ้าที่กำลังถูกพิจารณาสำหรับการผลิต โดยมีแบตเตอรี่แบบถอดได้และราคาเริ่มต้นที่ 4,900 ยูโร หรือประมาณ 180,000 บาท

อีกรุ่นคือ Gladiator ซึ่งเป็น e-scooter สามล้อที่มีระยะทาง 60 กม. และระบบกันสะเทือนบนทั้งสามล้อ มีกำหนดออกสู่ตลาดในต้นปี 2022

สุดท้าย บริษัทสวิสยังได้นำเสนอหนังสือ “The Micro Mobility Revolution” ที่บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 1999 จนถึงปัจจุบัน เพื่อให้ทราบถึงความเป็นมาของบริษัทอีกด้วย