Naran Automotive อวดโฉม Hypercar-Coupe ขุมพลัง 1,048 แรงม้า ที่จะผลิตแค่ 39 คันเท่านั้น เริ่มต้นที่ 79,600,000.-

Naran Automotive อวดโฉม Hypercar-Coupe ขุมพลัง 1,048 แรงม้า ที่จะผลิตแค่ 39 คันเท่านั้น เริ่มต้นที่ 79,600,000.-

Naran Automotive แบรนด์น้องใหม่ที่ก้าวเข้าสู่วงการยานยนต์ในปี 2020 ล่าสุดพวกเขาเตรียมเปิดตัว Hypercar ต้นแบบและจะถูกนำไปจัดแสดงในงาน Salon Privé ช่วงปลายเดือนนี้

ย้อนกลับไปในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Naran Automotive เคยกล่าวว่า ผู้ก่อตั้ง Ameerh Naran ทำงานร่วมกับ Jowyn Wong จาก WYN Design เพื่อสร้างสไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ตของรถยนต์คันนี้ แม้ว่าชื่อของ Wong อาจไม่คุ้นหูนัก แต่เขาเคยทำงานกับ De Tomaso P72 และ Apollo Intensa Emozione

ปัจจุบันทางแบรนด์ผู้ผลิตจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับรถคันนี้มากนัก แต่บอกว่ามันจะเป็นรถ Hyper-Coupe ที่ดุดันและล้ำสมัย โดยมีฝากระโปรงที่มีช่องระบายอากาศ สปลิตเตอร์ด้านหน้าที่โดดเด่น และชุดไฟส่องสว่างที่โดดเด่น

นอกจากนี้ยังมีเกิร์ตข้างแบบสปอร์ต ปีกหลังที่โดดเด่น และล้อ Hybrid Carbon ที่เสริมด้วยระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก รวมถึงแผงตัวถังแบบคอมโพสิต

แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยภาพภายในห้องโดยสารให้ได้ชม แต่คาดว่าจะใช้วัสดุหนังระดับพรีเมียม รวมถึงอลูมิเนียมบิลเล็ตที่กลึงด้วยเครื่อง CNC อย่างไรก็ตาม ห้องโดยสารสามารถปรับแต่งได้หลากหลาย และทาง Naran Automotive ได้แจ้งว่าคำขอในช่วงแรกมีตั้งแต่การใช้หินอ่อนและหินแกรนิตไปจนถึงแผ่นทองคำเปลว

สำหรับขุมพลังในการขับเคลื่อนเจ้า Hyper-Coupe คันนี้มาจากเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 5.0 ลิตร ซึ่งว่ากันว่าสามารถผลิตแรงม้าสูงสุดได้ถึง 1,048 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,035 นิวตัน-เมตร เชื่อมต่อกับระบบส่งกำลังที่สั่งทำพิเศษและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่สามารถปิดการใช้งานเพื่อเปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังได้

Naran Automotive บอกว่ารถคันนี้สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 2.3 วินาที และทำอัตราเร่งจาก 0-200 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 16.5 วินาที และยังเป็นรถ 4 ที่นั่ง ที่ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่เร็วที่สุดในโลกอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับพวงมาลัยไฮดรอลิก โช้คอัพปรับได้ 4 ทิศทาง และระบบกันสะเทือนปีกนกคู่ ชุดแอโรไดนามิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสนามแข่งที่สร้างแรงกด Downforce ได้ 1,377 กก.

ส่วนการผลิตจะถูกจำกัดไว้ที่เพียง 39 คันเท่านั้น โดยแต่ละคันมีราคาเริ่มต้นที่ 2,000,000 ยูโร (หรือประมาณ 79,600,000 บาท)

สุดท้ายนี้ ถ้าหากทางทีมงานทราบข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ