ใหม่ New Audi e-Tron GT 2024-2025 ราคา ตารางผ่อน-ดาวน์

ใหม่ New Audi e-Tron GT 2024-2025 ราคา ตารางผ่อน-ดาวน์

Audi e-tron GT 2024 ราคา

*On-board Charger (AC) รองรับได้สูงสุด 11 kw
** On-board Charger (AC) รองรับได้สูงสุด 22 kw

NEW Audi e-Tron GT ราคา ตารางผ่อน-ดาวน์

อุปกรณ์มาตรฐาน Audi e-tron GT
ภายนอก
– ช่วงล่างระบบถุงลม (Adaptive Air Suspension)
– เสียงสังเคราะห์ e-tron แบบ Sports
– ช่องชาร์จไฟ AC 2 ตำแหน่ง และ DC 1 ตำแหน่ง
– On Board Charger (AC) รองรับได้สูงสุด 11 kW
– กระจังหน้าตกแต่งด้วยสี Hekla Grey
– หลังคาพาโนรามิค
– ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมไฟ Audi Laser และเอฟเฟกต์ไฟด้านหน้า (Light Staging)
– ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเอฟเฟกต์ไฟด้านหลัง (Light Staging)
– ไฟ Daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
– ระบบปรับไฟสูงแบบอัตโนมัติพร้อมเสริมทัศนวิสัยด้วยไฟ Audi Laser
– ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
– กระจกมองข้างตัดแสงและปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันบันทึกตำแหน่ง

ภายใน
– ระบบเลือกโหมดการขับขี่่ (Audi Drive Select)
– กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัต
– ตกแต่งห้องโดยสารภายในด้วยลาย Graphite Grey

ความสะดวกสบาย
– เบาะนั่งหุ้มหนัง
– เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports
– เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า อุ่นร้อน พร้อมฟังก์ชันบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่
– ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน
– พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน แบบสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง พร้อมฟังก์ชันอุ่นร้อน
– พวงมาลัยปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า
– ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
– กุญแจแบบ Comfort Key พร้อมระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ
– ระบบควบคุมอุณหภูมิก่อนเริ่มการขับขี่ (Comfort Stationary Air Conditioning)

ระบบข้อมูลและความบันเทิง
– ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ
– จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual Cockpit Plus ขนาด 12.3 นิ้ว
– ระบบ MMI Navigation Plus with MMI Touch Response พร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว
– ระบบ Audi Smartphone Lnterface
– รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
– ช่อง USB สำหรับห้องโดยสารด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
– ไฟเรืองแสงในห้องโดยสารแบบปรับสีได้ (Contour/Ambient Lighting)

ความปลอดภัย
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
– ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
– ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า
– ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi Hold Assist)
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-Lock Braking System)
– ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Distribution)
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction Control System)
– ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Control System with Stabilization Function)
– ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุแบบพื้นฐาน (Audi Pre Sense Basic)
– ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหน้า (Audi Pre Sense Front)
– ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหลัง (Audi Pre Sense Rear)
– ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Warning)
– ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist)
– ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านหน้ารถเมื่ออยู่ทางแยก(Front Cross Traffic Assist)
– ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อจะเปิดประตูลงจากรถ (Exit Warning)
– ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง (Rear Cross-Traffic Assist)
– เซ็นเซอร์หน้า-หลัง และด้านข้างช่วยในการนำรถเข้าจอด
– กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง
– จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
– ชุดปฐมพยาบาล

EXTERIOR ภายนอก Audi e-tron GT

การออกแบบที่ยึดมั่นใน DNA ของ Audi สะท้อนให้เห็นตัวตนที่โดดเด่น และแตกต่างอย่างลงตัว ความมุ่งมั่นในการพัฒนายานยนต์ที่เป็นนวัตกรรมแห่งโลกยุคใหม่ที่มีความสปอร์ตและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

ไฟหน้าแบบ Matrix LED ช่วยให้แสงสว่างที่คมชัด แม่นยำ ทั้งยังสามารถลดการกระจายแสงรบกวนแก่เพื่อนร่วมทาง ทั้งรถที่สวนทาง และรถคันที่อยู่ด้านหน้า

โดยระบบจะเลือกลดการกระจายแสงไฟสูงเฉพาะบริเวณที่รถคันอื่นอยู่ในระยะ เมื่อพ้นจากบริเวณที่ไม่มีรถสวนทาง หรือไม่มีรถอยู่ด้านหน้าในระยะที่แสงไฟจะรบกวนแล้วระบบจะปรับการใช้งานไฟสูงเต็มรูปแบบ ซึ่งส่งผลให้ผู้ขับขี่ได้ระบความสะบายมากขึ้น

นอกจากนี้แล้วเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง Laser Light ที่ติดตั้งในบริเวณไฟหน้าจะทำหน้าที่เป็นไฟสูงเสริมขึ้นมา ซึ่งในระยะการส่องสว่างได้ไกลถึงเกือยสองเท่า ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

e-tron GT กับเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) รูปทรงของรถที่มีความลู่ลม ช่องลมทั้งคันออกแบบเพื่อลดแรงต้านอากาศ ทำให้นำพลังงานไฟฟ้าไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

INTERIOR ภายใน Audi e-tron GT

การออกแบบที่ยึดมั่นใน DNA ของ Audi สะท้อนให้เห็น Design Language ตัวตนที่โดดเด่น และแตกต่าง ความมุ่งมั่นในการพัฒนายานยนต์ที่เป็นนวัตกรรมแห่งโลกยุคใหม่ที่มีความสปอร์ต และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

PERFORMANCE เครื่องยนต์ Audi e-tron GT

พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลังสูงสุด 530 แรงม้า (Boost Mode) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 4.1 วินาที แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงลิเธียมไอออน ความจุกว่า 93.4 กิโลวัตต์ ทำให้ขับได้ 540 กม./ชาร์จ ในรุ่น e-tron GT quattro และ 523 กม./ชาร์จ ในรุ่น e-tron GT quattro Performance

e-motors มอเตอร์ไฟฟ้า

สนุทรียภาพแห่งการขับขี่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะและประสิทธิภาพที่เหนือความคาดหมาย รถไฟฟ้า Audi e-tron ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 646 แรงม้า ในรุ่น RS e-tron GT quattro และ 530 แรงม้า ในรุ่น e-tron GT quattro

ไดชาร์จ และไดสตาร์ทแต่ละหน่วยจะถูกควบคุมด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในการแปลงพลังงานไฟฟ้า (Electric quattro) ที่จะเสริมสร้างให้การออกตัวในลักาณ์เร่งแซงมีประสิทธิภาพ และสร้างความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Beyond Performance สมรรถนะที่เหนือกว่า

การถ่ายทอดกำลังที่ได้จากมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกส่งผ่านไปยังล้อโดยตรงเพื่อสร้างการตอบสนองที่ฉับไวในการกระจายแรงบิดระหว่างเพลา รวมถึงการสร้างแรงขับเคลื่อนที่ได้จากการออกตัวและค่าความเร็วสูงสุดที่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องผ่านกระบวนการเชิงเทคนิค การระบายความร้อนภายในโรเตอร์

และจากการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงลิเธียมไอออนจัดเรียงจำนวน 33 โมดูล ในลักษณะแบนราบใต้ตัวถังรถยนต์ มีความจุพลังงาน 93.4 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้แรงดันไฟฟ้าถึง 800 โวลต์ เสริมสร้างให้การควบคุมการทรงตัวของรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังคงไว้ซึ่งพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง

นอกจากนั้นแล้ว รถไฟฟ้า Audi e-tron ได้ถูกออกแบบให้สอดคล้องตามหลักพลศาสตร์ด้วยการติดตั้งแผ่นอลูมิเนียมป้องกันใต้ท้องรถเพื่อหลีกเลี่ยงจากการกระแทกโดยตรง และลดแรงต้านอากาศอีกด้วย

Energy Recuperation การนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่

ด้วยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนและผลิตพลังงาน รถไฟฟ้า Audi e-tron ได้พัฒนาวิธีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (Recuoeration) จากพฤติกรรมการขับขี่ 2 รูปแบบ ที่จะก่อกำเนิดให้มีพลังงานในระบบเพิ่มขึ้น เพื่อผู้ขับขี่จะสามารถเดินทางได้ระยะทางมากกว่าเดิม

Coasting พลังงานจากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว

เมื่อผู้ขับขี่ถอนเท้าออกจากคันเร่ง กำลังของการชะลอความเร็วรถจะลดสูงสุดที่ 0.1 g โดยมีการนำพลังงานส่วนเกินกลับมาใช้ใหม่ 3 ระดับ ผ่านการตั้งค่าจากแป้น Paddle Shifts ที่ติดตั้งหลังพวงมาลัย

– ระดับที่ 1 การปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว
– ระดับที่ 2 การชะลอความเร็วในระดับปานกลาง
– ระดับที่ 3 การชะลอความเร็วในระดับสูง

นอกจากนั้นแล้ว ผู้ขับขี่สามารถเลือกที่จะตั้งระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่โดยอัตโนมัติผ่านฟังก์ชัน Predictive Efficiency Assist (PEA) ในระบบ MMI ได้อีกด้วย จากการประมวลและควบคุมการเคลื่อนที่เชิงฟิสิกส์ ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็วของรถได้จากการถอนเท้าออกจากคันเร่ง โดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรกได้

Braking พลังงานจากการเบรก เมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรก กำลังของการชะลอความเร็วรถจะลดลงถึง 0.3 g ระบบควบคุมการเบรกจะให้การตอบสนองเสมือนการเหยียบแป้นเบรกปกติ อย่างไรก็ตามในกรณีที่กำลังของการชะลอความเร็วรถลดลงมากกว่า 0.3 g จะทำให้แรงเสียดทานของเบรกไฮดรอลิกทำงานโดยอัตโนมัติ

ช่วงล่างระบบถุงลมแบบอากาศ 3 ส่วน จะมีการกักเก็บอากาศแบ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนออกจากกัน ซึ่งสามารถเปิดหรือปิดการทำงานในแต่ละส่วนแยกอิสระตามสถานการณ์การขับขี่ในแต่ละรูปแบบได้

ในกรณีที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ช่วงล่างจะถูกปรับให้แข็งขึ้นเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจรวมถึงความปลอดภัยในการขับขี่มากไปกว่านั้น การเปิดหรือปิดการทำงานของอากาศ ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่เมื่อเข้าโค้ง เร่งแซง หรือเบรกอีกด้วย

ระบบเกียร์อัตโนมัติ 2 จังหวะ ติดตั้งบริเวณเพลาหลัง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของกลุ่มรถไฟฟ้า เกียร์ 1 จะเป็นเกียร์ที่มีช่วงสั้นให้แรงบิดสูง ในการขับขี่แบบ Dynamic หรือเมื่อต้องการอัตราเร่งสูงสุด เช่น การเปิดใช้งานฟังก์ชัน Launch Control

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการขับขี่แบบ Comfort ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์การขับขี่ในขณะที่เกียร์ 2 ซึ่งเป็นเกียร์ช่วงยาวให้ความเร็วสูง จะใช้ในการขับขี่แบบ Efficiency หรือ Comfort

กระจกขนาดใหญ่ของหลังคาพาโนรามิค ช่วยให้แสงเข้าสู่ตัวรถได้มากขึ้น สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้ดูสว่างและกว้างขวาง หลังคาพาโนรามิคได้ผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยในการกรองแสง ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่ภายในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี

ระบบเบรกสมรรถนะสูง ที่เคลือบดิสก์เบรกหน้า-หลังด้วยสารทังสเตนคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide) ได้ถูกริเริ่มใช้พร้อมกับพัฒนาการระบายความร้อนเมื่อใช้งานเบรก ช่วยยืดอายุการใช้งานยาวนานขึ้นกว่าเบรกแบบสตีล (Steel) ถึง 30%

จานเบรกหน้า พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีส้มหรือสีแดง 6 ลูกสูบ พร้อมสัญลักษณ์ Audi Carbid จานเบรกหลัง พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีส้มหรือสีแดง 4 ลูกสูบ

SAFETY ความปลอดภัย Audi e-tron GT

– Audi Pre Sense Basic, Front and Rear ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุแบบพื้นฐาน, ด้านหน้า และด้านหลัง

– Exit Waring ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเปิดประตูลงจากรถ

– Lane Change Assist ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน

– Lane Departure Warning ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน

– Front Cross Traffic Assist ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านหน้ารถเมื่ออยู่ทางแยก

– Rear Cross Traffic Assist ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง

COLORS สี Audi e-tron GT
Audi e-tron GT มีให้เลือกทั้งหมด 9 สี ได้แก่
1.สีขาว (Ibis white, solid)
2.สีเงิน (Floret silver, metallic)
3.สีดำ (Mythos black, metallic)
4.สีเทา-ดำ (Daytona grey, pearl effect)
5.สีเทา-ฟ้า (Kemora grey, metallic)
6.สีเทา-เงิน (Suzuka grey, metallic)
7.สีแดง (Tango red, metallic)
8.สีน้ำเงิน (Ascari blue, metallic)
9.สีเขียว แทคติค (Tactics green, metallic)

Audi e-tron GT สีขาว (Ibis white, solid)

Audi e-tron GT สีเงิน (Floret silver, metallic)

Audi e-tron GT สีดำ (Mythos black, metallic)

Audi e-tron GT สีเทา-ดำ (Daytona grey, pearl effect)

Audi e-tron GT สีเทา-ฟ้า (Kemora grey, metallic)

Audi e-tron GT สีเทา-เงิน (Suzuka grey, metallic)

Audi e-tron GT สีแดง (Tango red, metallic)

Audi e-tron GT สีน้ำเงิน (Ascari blue, metallic)

Audi e-tron GT สีเขียว แทคติค (Tactics green, metallic)