เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ SUV อเนกประสงค์ ยอดนิยม ปรับโฉมใหม่ อัดแน่นเทคโนโลยี และความพรีเมียม

เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ SUV อเนกประสงค์ ยอดนิยม ปรับโฉมใหม่ อัดแน่นเทคโนโลยี และความพรีเมียม

ในปัจจุบันนี้ ต้องถือได้ว่า เทรนด์ของรถยนต์อเนกประสงค์ SUV กำลังมาแรง เพราะเป็นรถคันเดียวที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุมทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะใช้งานในชีวิตประจำวัน เดินทางไกลเพื่อท่องเที่ยว หรือใช้กิจกรรมแบบตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ บรรทุกสัมภาระ หรือ ผู้โดยสาร นั่นจึงเป็นสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ มองหารถยนต์แบบ SUV กันมากขึ้นในปัจจุบัน

และแน่นอนว่าการจะซื้อทั้งที ควรต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ครบตอบโจทย์ได้ครอบคลุม รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ได้รับทั้งในด้านความปลอดภัย และออปชั่นที่ทันสมัย ซึ่งในวันนี้ 9carthai เราขอพาทุกท่านมารู้จักกับ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ซึ่งเป็นรถ SUV ยอดนิยมของคนไทยคันหนึ่ง กับการปรับปรุงใหม่ ที่พัฒนาในหลากหลายด้าน ซึ่งถือได้ว่าเป็นรถที่น่าสนใจมากที่สุดคันหนึ่งในกลุ่ม SUV หรู

แคปติวา เป็นหนึ่งในรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเชฟโรเลต จึงเป็นโจทย์ให้ทีมออกแบบต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ แคปติวา ใหม่ โดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งและยังรักษาความเป็นเอกลักษณ์ SUV เฉพาะตัว

การเปลี่ยนแปลงหลักอยู่ที่ด้านหน้า โดยเฉพาะกรอบไฟหน้า ซึ่งมีขนาดเล็กลงและมาพร้อมไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันในตัว การปรับดีไซน์ยังรวมถึงกระจังหน้าซึ่งปรับตำแหน่งโบว์ไทของเชฟโรเลตให้สูงขึ้นบนกระจังหน้าเอกลักษณ์แบบดูอัลพอร์ทที่ถูกปรับดีไซน์ใหม่เช่นกัน

ด้านหลังรถได้รับการปรับการออกแบบใหม่ ปลายท่อไอเสียโครเมียม ไฟท้ายแบบ LED เพิ่มความทันสมัย

ล้ออัลลอยลวดลายใหม่สีทูโทนขนาด 19” (รุ่น LTZ) ช่วยให้ดูเต็มซุ้มล้อ แกร่งพร้อมลุย ในขณะที่ดูหรูหราแบบรถ SUV ระดับพรีเมียม

สำหรับ แคปติวา ใหม่ มีจำหน่ายทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีขาว Summit White สีเงิน Switchblade Silver Metallic สีเทา Satin Steel Grey Metallic สีน้ำตาล Auburn Brown Metallic และ 2 สีใหม่ สีขาว Abalone White Metallic และ สีดำ Black Meet Kettle Metallic โดยรุ่นท๊อป LTZ จะมาพร้อมบันไดข้างสแตนเลสและล้อห้าก้านสีทูโทนรุ่นใหม่เพื่อความสปอร์ตและหรูหรายิ่งขึ้น

ภายในห้องโดยสาร แคปติวา ได้ออกแบบให้หรูหรา ถูกยกระดับให้ดูดีขึ้นทั้งในด้านของรูปลักษณ์ให้สวยงามหรูหรา มีการตกแต่งด้วยไฟ Ambient Light สีฟ้าไอซ์บลูให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย บริเวณที่วางเท้าด้านหน้าและหลัง

นอกจากนี้ยังมีบันไดข้างขึ้นรูปเรืองแสง ช่วยให้การก้าวขึ้นรถ แคปติวา ไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมอบความสวยงามในยามค่ำคืน

ด้านเทคโนโลยีระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิง MyLink ถือเป็นไฮไลท์ของรถเชฟโรเลต รุ่นใหม่ๆ

โดย Apple CarPlay เป็นแอปฯ แสดงผลสมาร์ทโฟนที่พัฒนาโดยแอปเปิล เพื่อให้ผู้ที่ใช้ iPhone 5 เป็นต้นไป สามารถยกมือถือของคุณมาทำงานได้ผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์ อาทิ MyLink ซึ่งใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดายบนหน้าจอทัชกรีนขนาด 7 นิ้ว รุ่นใหม่ของแคปติวา หรือผ่านระบบควบคุมบนพวงมาลัยด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง Siri Eyes Free

สำหรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับ MyLink ก็แสนง่าย เพียงเสียบผ่าน USB Port ซึ่งจะเป็นการชาร์จไฟโทรศัพท์ไปในตัว เพียงเท่านี้โทรศัพท์ที่รองรับ Apple CarPlay ก็จะเปิดการทำงานโดยอัตโนมัติ โดยจะแสดงผลขึ้นมาบนจอทัชสกรีน MyLink ขนาด 7 นิ้ว นี้ ฟังก์ชั่นนี้ถิอเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะช่วยให้สามารถสั่งงานโทรศัพท์ด้วยเสียง หรือ ผ่านสวิทช์บนพวงมาลัย ช่วยเพิ่มความความสะดวก และปลอดภัยโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน

พวงมาลัยสามก้านรุ่นใหม่เติมเต็มความสปอร์ต ขณะที่ จอแสดงข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่รูปแบบใหม่ มีกราฟฟิกที่อ่านง่ายมากขึ้น รวมถึงสัญลักษณ์ที่แสดงความแตกต่างระหว่างการใช้งานครูสคอนโทรลหรือ Cruise Control Engaged และก่อนการใช้งานครูสคอนโทรล หรือ Cruise Control Ready อีกทั้งยังสามารถเช็คแรงดันลมยางของแต่ละล้อได้ซึ่งถือเป็นรถ SUV  รุ่นแรกในระดับเดียวกัน

แคปติวา ยังให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่งนั่งได้อย่างเย็นสบาย ด้วยแอร์แบบ Dual Zone แยกอิสระ ซ้าย – ขวา พร้อมระบบฟอกอากาศ Ionizer กำจัดแบคทีเรีย ช่วยให้อากาศสะอาดสดชื่น

นอกจากนี้ ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง และสาม ช่วยให้การกระจายความเย็นไปได้อย่างทั่วถึง

ระบบกุญแจ Keyless แบบเอกสิทธิ์เฉพาะ (Passive Entry Passive Start – PEPS) มีสวิทช์ที่ติดตั้งด้านขวาของพวงมาลัยที่สามารถเปิดหรือปิดระบบนี้ได้ด้วย

เบรกมือไฟฟ้า ใช้งานง่าย หยุดรถได้รวดเร็วและสะดวกง่ายดาย ไม่ต้องมีก้านเบรกมือขึ้นมาเกะกะบริเวณตำแหน่งคันเกียร์

เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง

ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนแรงดันลมยาง ทั้ง 4 ล้อ ที่จะแจ้งบนหน้าจอแดชบอร์ด ถือได้ว่าโดดเด่นกว่าใครในคลาสเดียวกัน

จุดเด่นของแคปติวา ใหม่ อีกจุด นั่นคือความเป็นรถ SUV 7 ที่นั่ง กว้างที่สุดในรถระดับเดียวกัน โดย FLEX 7 SEAT ของ แคปติวา สามารถปรับได้ 23 รูปแบบ พับเบาะได้ง่าย ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการบรรจุสัมภาระได้เยอะขึ้น กว้างขึ้น ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ซึ่งพื้นที่จัดเก็บสัมภาระกว้างขวางจุได้สูงสุดถึง 930 ลิตร

หัวใจขับเคลื่อนที่แรงทรงพลังไว้ใจได้ แคปติวา ใหม่ ยังใช้ระบบขับเคลื่อนและขุมพลังที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว พร้อมกับมีการปรับปรุงอัตราทดเฟืองท้ายที่ทำให้เฟืองขับเคลื่อนมีรอบหมุนน้อยลงในการหมุนล้อหรือเพลาขับ รอบหมุนที่น้อยลงต่อการขับเคลื่อนเพลาช่วยลดรอบเครื่องยนต์เมื่อรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงขึ้น จึงส่งผลให้มีความประหยัดเชื้อเพลิงดีขึ้นและลดปริมาณมลพิษลง

แคปติวา มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.4 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E85 พละกำลัง 167 แรงม้า (123 กิโลวัตต์) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 230 นิวตันเมตร (23.45 กก.-เมตร) ที่ 4,600 รอบ/นาที และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร พละกำลัง 163 แรงม้า (120 กิโลวัตต์) ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร (40.78 กก.-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที โดยทั้งคู่ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดครั้งแรกในระดับเดียวกัน พร้อมระบบ Driver Shift Control (DSC)

ในด้านของระบบความปลอดภัย แคปติวา ใหม่ ยกระดับการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุให้สูงขึ้นอีกขั้น ทั้งระบบความปลอดภัยแบบ Active (ป้องกันก่อนเกิด) และ Passive (เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว) โดยระบบแบบ Active นั้นอัดแน่น ทั้ง

ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (Side Blind Zone Alert)  ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา เป็นการช่วยเหลือขณะเปลี่ยนช่องจราจรที่ช่วยให้ผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงการเฉี่ยวชนด้วยการระบุว่ามีรถอยู่ในมุมอับสายตาทั้งขณะเคลื่อนที่หรือจอดนิ่ง เมื่อระบบตรวจจับว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตา สัญลักษณ์สีเหลืองจะปรากฏบนกระจกมองข้างด้านดังกล่าวและไม่กะพริบ ถ้าผู้ขับขี่เปิดไฟเลี้ยวเพื่อทำการเปลี่ยนช่องจราจรขณะที่มีรถคันอื่นอยู่ในจุดอับสายตา สัญลักษณ์บนกระจกดังกล่าวจะกะพริบเพื่อยกระดับการเตือนผู้ขับขี่ถึงความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ระบบช่วยเตือนการจราจรที่ด้านหลัง ขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเตือนการจราจรที่ด้านหลัง ขณะถอยรถ ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับทัศนวิสัยของลูกค้า โดยทำงานร่วมกับระบบกล้องมองหลังเพื่อตรวจจับสภาพการจราจรเมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด ถ้าระบบตรวจจับว่าถนนด้านหลังรถมีวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ อาทิ เด็กที่กำลังปั่นจักรยาน สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสีแดงจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอถอยหลังด้านที่มีวัตถุเคลื่อนที่ พร้อมกับเสียงเตือนจากลำโพงด้านที่มีวัตถุเคลื่อนที่

ระบบช่วยเหลือการถอยจอดด้านหลัง  ระบบช่วยเหลือการถอยจอด ทำงานขณะเข้าจอดด้วยความเร็วต่ำ ด้วยการแจ้งข้อมูล “ระยะห่างระหว่างวัตถุที่ใกล้ที่สุด” บนหน้าจอแสดงข้อมูล (Driver Information Center) และมีสัญลักษณ์เตือนบนหน้าจอกล้องมองหลัง ระบบจะส่งเสียงเตือนอย่างต่อเนื่องหากตัวรถเคลื่อนเข้าใกล้วัตถุมากเกินไปและควรหยุดทันที

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบเสริมแรงเบรกแบบไฮดรอลิก (HBA)

นอกจากนี้ แคปติวา ยังมีเทคโนโลยี ระบบป้องกันการถอยหลัง เมื่อขึ้นทางลาดชัน (HSA) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เมื่อลงทางลาดชัน (HDC) ตามแบบฉบับรถ SUV ยุคใหม่

รวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย พร้อมลุยตะกุยตะกายได้ทุกสภาพผิวถนน

สำหรับระบบ Passive ก็ได้แก่ ถุงลมนิรภัยก็มีให้ครบทั้งคู่หน้า และม่านนิรภัย

หมอนรองศีรษะนิรภัย ที่ช่วยลดแรงกระแทกที่ต้นคอ

เบาะ ISOFIX ที่ออกแบบมาเพื่อยึดเบาะนั่งเด็กอย่างอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้เข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ใหญ่

เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ

นอกจากนี้ แคปติวา ใหม่ ยังเป็นรถคันแรกที่ให้ระบบ Self Levelizer เพื่อรักษาความสูงที่เหมาะสมไม่ว่าจะบรรทุกหนักเพียงใด การรักษาความสูงรถเพื่อช่วยให้เสถียรภาพการขับขี่และการควบคุมมั่นคงตลอดการเดินทาง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ที่เราได้แนะนำเพื่อนๆ กันไป ถือได้ว่าเป็นรถยนต์ SUV ที่อัดแน่นเทคโนโลยีความปลอดภัย และความทันสมัยอย่างแท้จริง ซึ่งน่าจะถูกใจคนที่กำลังมองหารถที่ครบเครื่องตอบโจทย์ในทุกด้าน

สำหรับราคาจำหน่ายของ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย โดยมีราคาดังต่อไปนี้
New Captiva 2.4 GAS AT LSX FWD 1,249,000 บาท
New Captiva 2.0 DSL AT LSX FWD 1,389,000 บาท
New Captiva 2.0 DSL AT LTZ FWD 1,539,000 บาท
New Captiva 2.4 GAS AT LTZ AWD 1,549,000 บาท
New Captiva 2.0 DSL AT LTZ AWD 1,689,000 บาท

ผู้สนใจ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ สามารถไปสัมผัส พร้อมจับจองได้แล้ววันนี้ที่ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลตทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1734 หรือเข้าชมที่เว็บไซต์ http://www.chevrolet.co.th/