MG เตรียมเปิดตัว MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ลุยงาน Motor Show 2024

11 มี.ค. 67 – MG เตรียมเปิดตัว MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ซึ่งเป็นรถแฮทช์แบคพลังงานไฟฟ้า 100%
MG4 XPOWER ยังคงความเป็น “อีวีสายพันธุ์แท้” ที่มีความโดดเด่นในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่การเป็นยนตรกรรมที่พัฒนาบน NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
เหนือกว่าด้วยการเป็นอีวีสมรรถนะขั้นสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ MG
ที่มาพร้อมกับขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้พละกำลังสูงสุด 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร
สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที
ทั้งยังใช้เทคโนโลยี Rubik’s Cube Battery ขนาดความจุ 64 kWh สามารถวิ่งในระยะทางไกลสูงถึง 480 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)

คงจุดเด่นของ MG4 ELECTRIC ไม่ว่าจะเป็นการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ (Low Centre of Gravity) กับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ทำให้ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนได้ดีเยี่ยม และช่วยให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนดียิ่งขึ้น
เพิ่มเติมระบบ One Pedal เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและทำให้ระยะทางการขับขี่เสถียรยิ่งขึ้น คำนึงถึงผู้ใช้รถด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ครอบคลุม 23 ระบบ
สะกดทุกสายตาด้วยการออกแบบภายนอกสปอร์ตรอบคันกับตัวถังสีใหม่สีเขียว (Wild Hunter Green) พร้อมด้วยหลังคาแบบทูโทน (Blacktop) ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว และคาลิปเปอร์เบรกสีส้มสุดร้อนแรง
ภายในห้องโดยสารสีดำโดยเสริมความสปอร์ตพรีเมียมด้วยวัสดุหุ้มเบาะที่ผสมผสานระหว่างหนังสังเคราะห์และหนังอัลคันทาร่า (Alcantara)
สะดวกยิ่งขึ้นกับระบบอัจฉริยะ Intelligent Smart Access ที่คนขับสามารถเหยียบเบรกแล้วระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ และช่วยทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ง่ายด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART เต็มฟังก์ชัน
โดย MG4 XPOWER พร้อมเผยโฉมจริงอย่างเป็นทางการ ให้คนไทยได้สัมผัสกับความเร็วและแรงครั้งใหม่ในงาน “MG EVERYDAY ELECTRIC” ระหว่างวันที่ 13-19 มีนาคมนี้ ที่ ลานโปรโมชั่น ฮอลล์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว
และมีกำหนดประกาศราคาและเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25 มีนาคม ที่งาน MOTOR SHOW 2024






ICONIC DESIGN โดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบ
MG4 XPOWER ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตรอบคัน โฉบเฉี่ยวในทุกการเคลื่อนไหว
- การออกแบบตัวรถใหม่แบบ AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN
- ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS
- ไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT
- หลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING
- ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว
- มิติตัวถัง 4,287 x 1,836 x 1,516 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
- ระยะความยาวฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร
- เติมความเป็นสปอร์ตด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีส้ม XPOWER






ภายในห้องโดยสารเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เน้นการใช้งานที่สะดวก เพื่อให้ดูโปร่งโล่งสบาย มาพร้อมความเหนือระดับ
- คอนโซลกลาง FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM พร้อมอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charger)
- ดีไซน์พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง
- พวงมาลัย ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
- กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
- หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 25 นิ้ว ลำโพง 6 จุด
- ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V
- รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ สมาร์ทโฟนระบบ Android
- พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C
- ระบบกรองอากาศ 5
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง ปรับ 60:40
- โหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ
- ให้ความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยวัสดุที่ใช้หุ้มเบาะที่ผสมผสานระหว่างหนังสังเคราะห์และหนังอัลคันทาร่า (Alcantara)
ICONIC PERFORMANCE อีวีเลือดใหม่ที่ขับสนุก และเร้าใจ
เปิดมิติใหม่ให้กับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้ากับ MG4 XPOWER ที่มาพร้อมกับสมรรถนะและการควบคุมที่เป็น “ต้นแบบและมาตรฐานใหม่ของรถ EV ที่ขับสนุกและเร้าใจกว่าที่เคย”
- ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor จำนวน 2 ตัว โดยมอเตอร์หน้า กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) และมอเตอร์หลัง กำลังสูงสุด 231 แรงม้า (170 กิโลวัตต์) รวมให้พละกำลังสูงสุดที่ 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ด้วยอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.8 วินาที
- สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 200 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
- มาพร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 64 kWh (NMC battery) สามารถวิ่งได้ระยะทาง 480 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
- ระบบ One Pedal ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น และทำให้ระยะทางการขับขี่เสถียรยิ่งขึ้น
- แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
- ระบายความร้อนด้วยระบบ LIQUID COOLING SYSTEM
- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ALL WHEEL DRIVE
- ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE)
- ระบบโครงสร้างพวงมาลัยรูปแบบใหม่ DUAL PINION ควบคุมด้วยไฟฟ้า
- รัศมีวงเลี้ยว 3 เมตร
- การกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ควบคู่กับการออกแบบลักษณะ Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเพื่อการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
- ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension
- โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW
*ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE (NEDC)
ICONIC SAFETY ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางกับระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุม
MG4 XPOWER มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 23 ระบบ ได้แก่
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
- ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
- ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- ระบบ One Pedal ช่วยให้ขับขี่ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)
EASY CHARGE ง่าย สะดวกสบาย ทุกการชาร์จ ด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุม
MG4 XPOWER ทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 146 แห่งทั่วประเทศ
- ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาประมาณ 26 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 140 kWh
- ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 10% – 100% ใช้เวลาประมาณ
6 ชั่วโมง 30 นาที* ที่สูงสุด 11 kWh - รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
พร้อมด้วย ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ เอ็มจี ที่ประกอบด้วย
ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check)
- ระบบตรวจสอบแบตเตอรี่ Battery Doctor บันทึกและวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำ ในการดูแลรักษาแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น
- ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
- ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
- ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
- ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ
ระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command)
- กุญแจดิจิตอล
- ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
- ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
- ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน
- ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE ผ่านทางสมาร์ทโฟน
ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)
- ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
- ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
- อัพเกรดระบบผ่านออนไลน์
- ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
- อัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
- ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน
* อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " MG เตรียมเปิดตัว MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ลุยงาน Motor Show 2024 "