ใหม่ Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe 2024-2025 ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ ราคา-ตารางผ่อน-ดาวน์

ใหม่ Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe 2024-2025 ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ ราคา-ตารางผ่อน-ดาวน์

Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe 2024 รุ่นใหม่ เป็นรถไฮบริดหรูที่ถูกผลิตในประเทศมาเลเซียและส่งออกมายังประเทศไทย

โดยมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานและฟีเจอร์ที่เหนือกว่ารุ่นที่นำเข้าจากยุโรป การเปิดตัวในประเทศไทยครั้งนี้สะท้อนถึงการให้ความสำคัญของตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe 2024 รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 519 แรงม้า

สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 263 กม./ชม.

มีระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 90 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน

Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe ราคา 6,290,000.

Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupe 2024 ราคา-ตารางผ่อน-ดาวน์

อุปกรณ์มาตรฐานที่เหนือกว่า

ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ (Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupé) รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย

โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ทรงพลังและสปอร์ตยิ่งขึ้น

ลูกค้าชาวไทยสามารถเลือกสีตัวถังได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ได้แก่ สีขาวเมทาลิก Carrara White, สีดำเมทาลิก Chromite Black และสีเงินเมทาลิก Dolomite Silver

เสริมความโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ HD Matrix LED ดีไซน์ใหม่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ขณะที่ล้ออัลลอยลาย คาเยนน์ (Cayenne) ขนาด 20 นิ้ว สีเทา Vesuvius Grey มอบความหรูหราและสปอร์ตให้กับรถ SUV คันนี้ได้อย่างลงตัว

ภายในห้องโดยสาร ได้รับการยกระดับด้วยฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย  เป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งพวงมาลัย GT Sports และ แพ็คเกจ Sport Chrono พร้อมนาฬิกา Porsche Design เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งช่วยยกระดับความหรูหราให้กับผู้ขับขี่ตั้งแต่ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสาร

รถเอสยูวี (SUV) สุดหรูรุ่นนี้ ยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่ ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE® เบาะหนังคุณภาพเยี่ยม เลือกได้ 2 สี คือ สีดำ หรือ สีแดงบอร์โด (Bordeaux Red) พร้อมตราสัญลักษณ์ปอร์เช่บนพนักพิงศรีษะที่เบาะคู่หน้า

อีกทั้งระบบควบคุมอุณหภูมิแยก 4 โซน เครื่องฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งไฟฟ้าปรับได้ 14 ทิศทางพร้อมระบบจำตำแหน่งสำหรับเบาะผู้โดยสารด้านหลัง และม่านบังแดดด้านหลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ อาทิ
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
– ระบบช่วยจอด (ParkAssist) พร้อมกล้องรอบทิศทาง (Surround View) และรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple® CarPlay มอบความสะดวกสบายสูงสุด ทั้งยังเอาใจผู้โดยสารด้านหลังด้วยระบบเตรียมติดตั้ง Rear Seat Entertainment ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สามารถติดตั้งหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย เพื่อยกระดับความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง

เพิ่มเติมความทันสมัยให้กับห้องโดยสารด้วย Porsche Driver Experience ประกอบด้วย ชุดหน้าปัดดิจิตอลแบบโค้งมนขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอระบบ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว สำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวา ตำแหน่งคันเกียร์อัตโนมัติได้รับการย้ายไปทางซ้ายของพวงมาลัยบนคอนโซลกลาง  การปรับเปลี่ยนนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับช่องเก็บของและแผงควบคุมระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ ดีไซน์สวยงามทันสมัยในโทนสีดำ แผงควบคุมระบบปรับอากาศมาพร้อมปุ่มกดขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย พร้อมสวิทช์ปรับอากาศแบบหมุน และปุ่มปรับระดับเสียงแบบสัมผัส ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและดูหรูหรา

นิยามใหม่แห่งประสิทธิภาพ
คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ (Cayenne S E-Hybrid Coupé) รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย ผสมผสานความสปอร์ตอันทรงพลังของ Cayenne S เข้ากับระบบขับเคลื่อนอันล้ำสมัยของ Cayenne E-Hybrid นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตระดับโลกในการมอบประสบการณ์การขับขี่อันเร้าใจ ผสานเทคโนโลยีไฮบริดที่ทั้งทรงประสิทธิภาพและล้ำหน้า

คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ (Cayenne S E-Hybrid Coupé) ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 260 กิโลวัตต์ (353 แรงม้า) แรงกว่าเครื่องยนต์ใน Cayenne E-Hybrid ถึง 36 กิโลวัตต์ (49 แรงม้า) เมื่อผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ ส่งผลให้ระบบมีกำลังรวม 382 กิโลวัตต์ (519 แรงม้า) รถเอสยูวีคูเป้รุ่นนี้เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 263 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 90 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน EAER City) เหมาะสำหรับการขับขี่ภายในกรุงเทพฯ ในชีวิตประจำวันได้อย่างสบาย

ระบบช่วงล่างใหม่ เสริมความสะดวกสบาย

ปอร์เช่ ได้ยกระดับ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ (Cayenne S E-Hybrid Coupé) ด้วยระบบช่วงล่างลมอัจฉริยะแบบใหม่ ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Porsche Active Suspension Management (PASM) เทคโนโลยี Two-Chamber Two-Valve ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ เพิ่มความมั่นคง และง่ายต่อการควบคุมรถยนต์ทั้งบนถนนและทางออฟโรด เมื่อเทียบกับระบบช่วงล่างมาตรฐานและรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ยังช่วยเพิ่มความแม่นยำและสมรรถนะของการขับขี่ ลดการโคลงของตัวรถในขณะขับขี่แบบสปอร์ต อีกทั้งยังช่วยให้การปรับโหมดการขับขี่ระหว่าง Normal, Sport และ Sport Plus แตกต่างกันอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมของ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ (Cayenne S E-Hybrid Coupé) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการขับขี่ที่มากขึ้น เทคโนโลยี Two-Chamber Two-Valve ช่วยปรับช่วงล่างได้หลากหลาย ตั้งแต่เน้นความนุ่มนวลสำหรับการขับขี่สบายๆ ไปจนถึงโหมดสปอร์ตที่เน้นการตอบสนองฉับไว

ลูกค้าสามารถปรับแต่งรถผ่านไมโครไซต์พิเศษที่สร้างขึ้นสำหรับรถรุ่นนี้ ซึ่งเปิดโอกาสให้แฟน ๆ ปอร์เช่สามารถออกแบบรถในฝันได้ตามต้องการ ทั้งสีตัวถัง การตกแต่งภายใน และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ

โดยมีกำหนดส่งมอบตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 ลูกค้าที่สนใจสามารถจองรถผ่านเว็บไซต์ thcayenne.online

FAQ : Porsche Cayenne S E-Hybrid Coupé

Q1. ทำไมประเทศมาเลเซีย จึงถูกเลือกให้เป็นสถานที่ประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ปอร์เช่

A: ประเทศมาเลเซียเป็นประเทศที่อุตสาหกรรมยานยนต์มั่นคงและแข็งแรง ประกอบกับการที่ทางปอร์เช่เป็นพันธมิตร(หุ้นส่วน) กับ Sime Darby ซึ่งทาง Sime Darby เป็นดีลเลอร์ปอร์เช่ในประเทศต่างๆ อาทิ นิวซีแลนด์ มาเลเซีย ฯลฯ นอกจากนี้ทาง Sime Darby มีประสบการณ์การประกอบรถหลากหลายรุ่นให้กับ    แบรนด์ต่างๆ ในประเทศไทย ประเทศมาเลเซียจึงได้ถูกเลือกให้เป็นประเทศที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การเติบโตของอาเซียนของเรา

โรงงานประกอบรถยนต์ปอร์เช่ในกูลิม ประเทศมาเลเซีย เป็นโรงงานที่สร้างขึ้นมาใหม่ ที่มีมาตรฐานเทียบเท่าปอร์เช่เยอรมนี พร้อมมีทีมวิศวกรจากประเทศเยอรมนีประจำอยู่ที่มาเลเซีย เพื่อควบคุมคุณภาพ

Q2. ทำไมประเทศไทยจึงไม่ถูกเลือกให้เป็นประเทศในการประกอบรถยนต์

A: สำหรับปอร์เช่ ตลาดในอาเซียนนับเป็นตลาดที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีความสำคัญทางการตลาดกับปอร์เช่เป็นอย่างมาก การตัดสินใจร่วมมือกับ Sime Darby ในมาเลเซีย เกิดจากปัจจัยหลายประการ ทั้งนี้ประเทศไทยยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Q3. ทำไม โมเดล Cayenne S E-Hybrid Coupe’ ถึงถูกเลือกให้ผลิตในประเทศมาเลเซีย

A: เรามีการพิจารณาว่ารถรุ่นไหนเป็นที่นิยมของลูกค้าปอร์เช่ประเทศไทยมากที่สุด รุ่นตัวถังคูเป้ Coupé เป็นที่นิยมมากในประเทศไทย และการที่เราเลือกโมเดล รุ่น Cayenne S E-Hybrid Coupé เป็นการเพิ่ม Value ให้กับลูกค้าคนไทย เพราะเป็นรุ่นที่เราไม่เคยจำหน่ายมาก่อนในประเทศ

Q4. เนื่องจาก Cayenne S E-Hybrid Coupe’ ผลิตในประเทศมาเลเซีย จะทำให้เรื่องของระยะเวลาการรอสั่งอะไหล่ เร็วขึ้นและราคาถูกขึ้น หรือไม่

A: ระยะเวลารอรับรถ: เวลาในการรอรับรถขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความต้องการของตลาด ถึงแม้ว่าการประกอบในมาเลเซียจะใช้ระยะเวลาขนส่งมาที่ประเทศไทยสั้นกว่ามากเมื่อเทียบกับขนส่งจากยุโรป

ระยะเวลาการรออะไหล่: ระยะเวลาการรออะไหล่ยังคงเหมือนเดิมเนื่องจากว่า อะไหล่ที่สต๊อกในมาเลเซีย จะใช้สำหรับการประกอบรถมาเลเซียเท่านั้น ส่วนอะไหล่สำหรับรถรุ่นทั่วไป ยังคงสั่งตรงจากโรงงานเช่นเดิม

แต่ด้วยการที่รถเป็นสเปคเดียวกันหมด ทางปอร์เช่ประเทศไทยได้มีการสั่งรถล่วงหน้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ สำหรับใครที่ต้องการสั่งซื้อ สามารถเป็นเจ้าของรถคันนี้ได้ก่อนสิ้นปีอย่างแน่นอน

อะไหล่ของปอร์เช่จะออกมาจากคลังสินค้ากลางที่ยุโรป แต่เนื่องจากรถที่เราขายมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังเป็นรถในรุ่นสเปคเดียวกัน ทางปอร์เช่ ประเทศไทย จะทำหน้าที่สต๊อกอะไหล่ให้มีความเหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการ

Q5. ในประเทศไทย ใครจะเป็นผู้ดูแลบริการหลังการขายสำหรับคาเยนน์นี้? การรับประกันเป็นอย่างไร?

A: ปอร์เช่ ประเทศไทยจะเป็นผู้ดูแลด้านบริการหลังการขายและการรับประกัน Cayenne S E-Hybrid Coupe’ รุ่นนี้ มาพร้อมการรับประกันมาตรฐาน 2 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ลูกค้าสามารถซื้อแพ็คเกจขยายการรับประกันเพิ่มเติมได้สูงสุด 15 ปี ผ่านผู้จำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่ทุกสาขาในประเทศไทย

Q6. หลังจากที่มีการนำเข้ารถปอร์เช่ที่ประกอบในมาเลเซีย จะส่งผลให้มีรถปอร์เช่บนท้องถนนมากขึ้นในประเทศไทย ทางปอร์เช่มีแผนรองรับอย่างไร สำหรับการให้บริการหลังการขายให้เพียงพอ

A: ปอร์เช่ประเทศไทยกำลังขยายศูนย์บริการ โดยจะมีศูนย์บริการเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง ได้แก่ Porsche Centre Bangna ที่ก่อสร้างกำลังจะเสร็จ และ Porsche Centre Pattaya ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมาณช่วงต้นปีหน้า รวมถึงในอนาคตอันใกล้เรามีแผนขยาย Porsche Centre Pattanakarn และ Porsche Centre Bangkok นอกจากนี้เรากำลังจะมีอีกหนึ่งศูนย์บริการ คือที่ Porsche Centre Kalapapruek ซึ่งศูนย์บริการทั้งหมดนี้จะสามารถรองรับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นจากการนำเข้ารถปอร์เช่ที่ประกอบในประเทศมาเลเซีย

Q7. ถ้าไม่อยากสั่งรถปอร์เช่ Cayenne ที่ประกอบในประเทศมาเลเซีย ยังจะสามารถสั่ง Cayenne ที่กระกอบโดยตรงจากยุโรปได้ไหม

A: สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการจะสั่งรถปอร์เช่ Cayenne S E-Hybrid Coupe ที่ประกอบในประเทศมาเลเซีย สามารถสั่ง Cayenne รุ่นอื่นตามความต้องการได้โดยตรงจากยุโรป

Q8. คุณภาพการประกอบของรถปอร์เช่ที่ประกอบในประเทศมาเลเซีย กับที่รถปอร์เช่ประกอบในเยอรมนี มีความแตกต่างกันหรือไม่

A: รถปอร์เช่ที่ประกอบในประเทศมาเลเซียยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานของปอร์เช่

Q9. วัสดุที่ใช้ประกอบปอร์เช่จากประเทศมาเลเซียเหมือนกับเยอรมนีหรือไม่ ส่งผลต่อสมรรถนะและอายุการใช้งานของรถอย่างไร พนักงานประกอบมาเลเซียมีทักษะระดับเดียวกับเยอรมนีหรือไม่”

A: ปอร์เช่ที่ประกอบในมาเลเซียนั้น มั่นใจได้ว่ามีคุณภาพเทียบเท่ากับรุ่นที่ผลิตในเยอรมนี ทั้งในด้านวัสดุ ความทนทาน อายุการใช้งาน และทักษะของพนักงาน ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับเช่นเดียวกัน

Q10. ความแตกต่างระหว่าง Cayenne S E-Hybrid Coupe ที่ประกอบในประเทศมาเลเซีย กับรุ่นที่นำเข้าจากยุโรป มีอะไรบ้าง

A: Cayenne S E-Hybrid Coupe รุ่นประกอบในมาเลเซีย ได้รับการปรับแต่งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ

มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานระดับพรีเมี่ยมและอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมที่เลือกสรรมาอย่างพิเศษ เช่น ไฟหน้า LED HD Matrix ล้อ Cayenne Design ขนาด 20 นิ้ว สีเทา Vesuvius

ลูกค้าสามารถเลือกสีตัวถังได้ 3 สี และภายในได้ 2 แบบ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ภายในห้องโดยสาร เน้นความหรูหรายิ่งขึ้นด้วยพวงมาลัย GT Sport หุ้มหนัง แพ็คเกจ Sport Chrono พร้อมนาฬิกา Porsche Design

เบาะ Comfort Seats ปรับไฟฟ้า 14 ทิศทางพร้อมระบบจำตำแหน่ง สัญลักษณ์ปอร์เช่บนพนักพิงศีรษะเบาะคู่หน้า ม่านบังแดดด้านหลังที่เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า

ระบบเสียงรอบทิศทาง Bose® ระบบปรับอากาศแยก 4 โซน เครื่องฟอกอากาศภายใน

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)  และอื่นๆ อีกมากมาย

Q11. ปอร์เช่ Cayenne ที่ประกอบในมาเลเซียจะส่งผลต่อ ราคาขายต่อ ของ Cayenne ในอนาคตหรือไม่
A: ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ หากในอนาคตรถยนต์ปอร์เช่ยังคงได้รับความนิยมอยู่เฉกเช่นทุกวันนี้ เราเชื่อว่าราคาขายต่อของรถยนต์ปอร์เช่จะยังคงแข็งแกร่งอยู่เช่นเดิม

Q12. การประกอบ Cayenne รุ่นใหม่ในมาเลเซีย  เพื่อลดต้นทุน และ ทำราคาให้ถูกกว่า 

อาจส่งผลต่อ ภาพลักษณ์ ของแบรนด์ปอร์เช่หรือไม่
A: ไม่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของปอร์เช่เลย การประกอบในมาเลเซียมีเป้าหมายเพื่อขยายฐานลูกค้าของ  ปอร์เช่ให้กับคนไทย ซึ่งตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของแบรนด์ ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถตอบโจทย์สำหรับกลุ่มคนที่สนใจรถยนต์สมรรถนะสูง พร้อมด้วยคุณภาพที่คุ้มค่าเกินราคา