เทคนิคการล้างรถและเคลือบสี ด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี โดยไม่ต้องง้อศูนย์บริการ ทำยังไงมาดูกัน !
ใครที่เป็นคนรักรถ แน่นอนว่าก็อยากให้รถยนต์ที่เรารัก สะอาด ใหม่ สีสดสวยอยู่ตลอดเวลา วันนี้เรามีวิธีและเทคนิคง่าย ๆ ในการล้างรถ ลงแว๊กซ์ และ เคลือบสีรถยนต์ด้วยตัวเองมาฝากให้ได้นำไปปรับใช้กัน บอกเลยว่าทำเองที่บ้านได้ง่ายมาก ๆ ไม่ต้องพึ่งศูนย์บริการ ให้เสียเงินหลักพันหลักหมื่นกันอีกต่อไป
ขั้นตอนง่าย ๆ มีดังนี้
1. ขั้นตอนแรก เราจะต้องทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนผิวสีของรถก่อน โดยการฉีดน้ำให้มีความแรงพอประมาณ เพื่อให้น้ำดันฝุ่นหรือเศษเม็ดกรวดเล็กๆที่ติดผิวสีรถออกก่อน ระหว่างนี้ยังไม่แนะนำให้เช็ดหรือถูบนผิวของรถ เพราะสิ่งสกปรกที่ยังไม่หลุดอาจจะทำให้รถเป็นรอบขีดข่วน หรือรอยขนแมวได้
2. เสร็จจากขั้นตอนแรก ให้ล้างรถด้วยแชมพูสำหรับล้างรถโดยเฉพาะ ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาล้างจานและแชมพูที่ไม่ได้คุณภาพ มันจะมีผลกับรถเราในระยะยาว ทำให้สีรถซีดจางและหมองคล้ำ อันเนื่องมาจากสารชำระล้างในน้ำยาล้างจานและแชมพูที่ไม่มีคุณภาพ แชมพูที่ไม่มีคุณภาพนั้นหลังจากล้างรถ อาจจะทำให้เกิดเป็นคราบแชมพูหรือคราบน้ำตามมาได้
บางคนเห็นคราบน้ำหลังจากล้างรถก็ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือเราต้องใช้ฟองน้ำสำหรับล้างรถโดยเฉพาะ ฟองน้ำที่ดีจะไม่ทำให้ผิวสีรถเกิดรอยขีดข่วน ฟองน้ำบางยี่ห้อนั้นสามารถกักเก็บฝุ่นหรือเม็ดกรวดไว้ได้ โดยไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนผิวสีรถด้วย
3.หลังจากล้างรถด้วย แชมพูล้างรถ ให้เราเช็ดรถให้แห้งด้วยผ้าชามัว หรือไมโครไฟเบอร์เท่านั้น ผ้าประเภทนี้จะสามารถซับน้ำได้ดี ที่สำคัญไม่ทำให้รถเราเป็นรอยขีดข่วน
4.เมื่อเราเช็ดรถให้แห้งแล้ว เราจะเห็นร่องลอยขีดข่วน, คราบมูลนก, รอยขนแมว, คราบฝนกรด, ยางไม้, ยางมะตอย ฯลฯ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ก็ให้เราใช้ น้ำยาขัดลบรอย ขัดคราบฝังแน่นต่าง ๆ เลือกยี่ห้อและประเภทให้เหมาะกับรอยนั้น ๆ
5. มาถึงขั้นตอนการ เคลือบสีรถ เราต้องใช้ฟองน้ำสำหรับ ลงแว็กซ์เคลือบสีรถโดยเฉพาะเช่นกัน ลักษณะของเนื้อฟองน้ำจะมีความละเอียดสูง เนื้อนุ่ม ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนขณะที่เคลือบ วิธีการเคลือบสีรถนั้น ให้เราเคลือบ หรือลงแว็กซ์ทีละส่วนของตัวรถ ลงเป็นวงกลมคล้ายก้นหอย วนไปเรื่อย ๆ จนครบทุกส่วนของผิวสีรถ
ข้อแนะนำในการลงแว็กซ์คือ
*ไม่ควรลงแว็กซ์ เคลือบสีรถ ในขณะที่เครื่องยนต์ หรือตัวรถร้อน หรือมีอุณหภูมิที่สูงอยู่
*เราไม่ควรลงแว็กซ์กลางแสงแดด เพราะจะทำให้เนื้อแว็กซ์เซ็ตตัวเร็ว ไม่ได้คุณภาพ แว็กซ์จะเซ็ตตัวโดยที่ยังไม่ได้ทำปฏิกิริยากับผิวสีรถเลย แต่จะมีแว็กซ์บางยี่ห้อที่สามารถ เคลือบสีรถ กลางแสงแดดได้ เนื่องจากผู้ผลิตได้พัฒนาเทคโนโลยีคุณสมบัติของเนื้อแว็กซ์มาแล้ว ลองเช็คหรือสอบถามข้อมูลจากผู้ขายดูว่าแว็กซ์ที่เราจะซื้อนั้นมีข้อควรระวังอะไรบ้างหรือไม่
กลับมาในส่วนของการ เคลือบสีรถ เมื่อเราลงแว็กซ์ วนเป็นลักษณะคล้ายก้นหอยจนทั่วทั้งคันแล้ว ให้ปล่อยทิ้งไว้จนขึ้นเป็นฝ้าซักประมาณ 10-15 นาที จากนั้นให้ใช้ ผ้าไมโครไฟเบอร์ ในการเช็ดแว็กซ์ออก
แนะนำให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ เท่านั้น แว็กซ์บางชนิดก็เช็ดออกง่าย บางชนิดก็เช็ดออกยาก ความยากง่ายของการเช็ดออก ไม่เป็นตัวบ่งบอกว่าแว็กซ์ชนิดนั้นดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและการพัฒนาคุณภาพของแว็กซ์นั้นๆมากกว่า
แต่ส่วนมากในปัจจุบันก็จะพัฒนาให้เช็ดออกง่ายเพราะไม่ทำให้เปลืองแรงในการเคลือบสีรถ แว็กซ์บางชนิด บางยี่ห้อ ก็ทิ้งคราบคล้าย ๆ ฝุ่นผงแป้ง ขัดแว็กซ์เสร็จยังต้องมาเช็ดผงฝุ่นของแว็กซ์อีก บางคนก็จะไม่ชอบเพราะเสียเวลามาก แนะนำให้เลือกแว็กซ์ที่มีคุณสมบัติที่ดี เหมาะกับรถของเรา และเหมาะกับตัวเราที่เป็นผู้ใช้ มากที่สุด
เพียงเท่านี้รถเราก็จะเงาเหมือนใหม่ อีกทั้งยังอุ่นใจในการปกป้องผิวสีรถในกรณีที่โดนฝนกรด, มูลนก, ฝุ่นละออง, เศษกรวด ฯลฯ สภาวะต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดคราบฝังลึกอีกด้วย ไม่มีใครดูแลรถของเราได้เท่าตัวเราเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : thaicarproducts
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " เทคนิคการล้างรถและเคลือบสี ด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี โดยไม่ต้องง้อศูนย์บริการ ทำยังไงมาดูกัน ! "