Nissan และ Mitsubishi จับมือพัฒนารถกระบะ PHEV และ EV สำหรับตลาดอเมริกา

Nissan และ Mitsubishi จับมือพัฒนารถกระบะ PHEV และ EV สำหรับตลาดอเมริกา

นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่พวกเขากลายเป็นพันธมิตรกัน Nissan และ Mitsubishi จะร่วมมือกันด้านยานยนต์สำหรับตลาดอเมริกาเหนือ บริษัททั้งสองจะแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีการใช้พลังงานไฟฟ้า ทั้ง PHEV และ EV ที่จะนำไปสู่งการสร้างรถกระบะสำหรับทั้งสองแบรนด์

แผนดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสองที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการพัฒนาระบบส่งกำลังไฟฟ้า รวมถึงจะช่วยลดต้นทุนในการพัฒนา บางทีผลิตภัณฑ์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับชาวอเมริกาเหนืออาจเป็นรถกระบะ ซึ่งคาดว่าจะทำหน้าที่เป็นรุ่นต่อจาก Frontier สำหรับ Nissan

ในขณะเดียวกัน ในที่สุดอาจทำให้ผู้แทนจำหน่าย Mitsubishi ได้รถกระบะที่พวกเขาต้องการมานานหลายปี รายงาน Autonews แม้ว่าจะขายรถกระบะ Triton ในต่างประเทศ แต่ภาษีของอเมริกาทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไม่สามารถขายรถกระบะที่นี่ได้ รถกระบะรุ่นใหม่นี้ประกอบในเม็กซิโก โดยไม่ต้องเสียภาษี 25%

ในระยะยาว ผู้ผลิตรถยนต์อาจตัดสินใจเพิ่มตัวเลือกระบบขับเคลื่อนไฮบริดและไฟฟ้าให้กับรถกระบะ แม้ว่าจะยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการก็ตาม

สิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับตัวแทนจำหน่าย Nissan ก็คือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด PHEV ที่ Nissan จะได้รับจากการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีในครั้งนี้ แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์อาจขาย EV ในสหรัฐอเมริกามานานแล้ว แต่ความสนใจในรถไฮบริดเมื่อเร็ว ๆ นี้กลับไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร

แม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์จากการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีในครั้งนี้ของทั้งสองบริษัทจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ปัจจุบัน Mitsubishi จำหน่าย Outlander PHEV ในสหรัฐอเมริกา ที่ผสมผสานขุมกำลังเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวที่ให้กำลัง 248 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร พร้อมชุดแบตเตอรี่ 20 kWh ที่ให้ระยะวิ่งไฟฟ้าล้วนสูงสุด 61 กม.

ส่วนทั้งฝั่ง Mitsubishi ก็จะได้รับเทคโนโลยีเกี่ยวกับ EV จาก Nissan ในความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งปัจจุบัน Nissan มีรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ทำตลาดอยู่ก็คือ Nissan Ariya ซึ่งมีให้เลือกทั้งรุ่นแบตเตอรี่ 63 kWh หรือแบตเตอรี่ 87 kWh ที่ให้ระยะวิ่งระหว่าง 348-489 กม./ชาร์จ ส่วนกำลังสูงสุดอยู่ที่ 389 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 599 นิวตัน-เมตร

มีการคาดเดากันว่ารถกระบะรุ่นใหม่อาจมาในช่วงปี 2027 – 2031 แต่ก็ไม่มีข้อบ่งชี้ว่า Mitsubishi EV หรือ Nissan PHEV จะออกสู่ตลาดเมื่อใด อย่างไรก็ตามผู้ผลิตรถยนต์กล่าวว่าการทำงานร่วมกันจะมีความสำคัญ เนื่องจากแต่ละแบรนด์ต้องการความช่วยเหลือในการเติมเต็มช่องว่างเชิงกลยุทธ์ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตน

สุดท้ายนี้ ทางทีมงานจะคอยติดตามข้อมูลนี้ต่อไป และถ้าหากทราบรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อนๆ ทราบอีกครั้งนะครับ