รีวิว 2016 Subaru Forester 2.0i เจ้าป่าแห่ง SUV เด่นที่ช่วงล่างขับ 4 ตามสไตล์ดาวลูกไก่
2016 Subaru Forester ใหม่ได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อช่วงงาน Bangkok International Motor Show 2016 ที่ผ่านมานี้ พร้อมชูสโลแกน “Is there Anything You Can’t Do?” (มีอะไรบ้างที่คุณทำไม่ได้)
ซึ่ง New Subaru Forester นี้ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ Forester 2.0i, 2.0i-P และ XT (เทอร์โบ) ซึ่งในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 นั้นจะประกอบที่ประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย (CKD) ขณะที่รุ่น XT ยังคงประกอบที่ญี่ปุ่น (CBU)
ในในวันนี้เองทาง 9carthai รีวิว 2016 Subaru Forester 2.0i รถ Forester ใหม่ โฉม CKD (ประกอบเพื่อน)ในราคาเริ่มต้นกันครับ
ในอดีตเจ้า Forester โฉมปี 2014 เคยคว้ารางวัล SUV of The Year 2014 จาก Motor Trend มาแล้ว และก่อนหน้านี้ผู้เขียนได้เคยขับเจ้า Subaru Forester XT โฉมปี 2014 ไปก่อนหน้านี้แล้วด้วยเช่นกัน วันนี้เราจะดูกันต่อว่า 2016 Subaru Forester นั้นจะยังคงดีเยี่ยมเพียงใดกัน
หากเรามองดูจากรูปลักษณ์ภายนอก จะพบว่าในโฉมใหม่ 2016 นี้ เป็นการปรับโฉมใบหน้าใหม่เล็กน้อย ตั้งแต่ กระจังหน้ารูปแบบใหม่ ไฟท้ายใหม่ ล้ออัลลอยลายใหม่
ในรุ่น 2.0i จะใช้ไฟหน้าแบบโคมฮาโลเจน มีไฟ DRL LED เรียงนอน อยู่ที่ช่องด้านล่างบริเวณที่เป็นไฟตัดหมอก แต่ในคันนี้ไม่มีให้
ไฟท้ายเป็นแบบผสมทั้ง LED และแบบหลอด ซึ่งดูทันสมัยขึ้น สปอยเลอร์ท้ายพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 บริเวณประตูบานหลัง
ล้ออัลลอย 17” ลายใหม่ รัดยาง 225/60/R17 จาก Continental
ด้านบนให้ราวหลังคามาสำหรับติดตั้งสัมภาระเดินทาง
ขณะที่มิติตัวนั้น 2016 Subaru Forester มีมิติที่เท่าเดิม ความยาว x กว้าง x สูง = 4,610 x 1,795 x 1,735 มม. ระยะฐานล้อ 2,640 มม. ความสูงใต้ท้อง 220 มม. และน้ำหนักตัวราว 1,519 กก. มีถังน้ำมันจุ 60 ลิตร นับได้ว่า Subaru Forester ถือเป็นรถที่มีสัดส่วนสูสีกับคู่แข่งรถ SUV ขนาดกลางจากญี่ปุ่นคันอื่นๆ
สำหรับห้องโดยสารภายใน เมื่อเราเปิดประตูเข้ามาผ่านกุญแจรีโมท (น่าเสียดายที่รุ่น 2.0i นี้ไม่มีระบบ Keyless) จะพบภายในตกแต่งด้วยวัสดุหุ้มหนังสีดำ ดูไม่ต่างจากโฉมเดิมนัก จุดต่างหลักๆอยู่ที่การติดตั้งหน้าจอ Multimedia แบบ Touch Screen เพิ่มเข้ามา มีฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อครบครัน รวมไปถึงแสดงภาพจากกล้องมองหลัง 2 มุมมอง โดยส่งกำลังเสียงผ่านลำโพง 4 ตำแหน่ง
แผงแดชบอร์ด จะมีเพียงเซ็ท Trip ซึ่งการดูค่าต่างๆ จะต้องไปดูผ่านยังหน้าจอแสดงผลทางด้านบนสุดของคอนโซลกลาง ซึ่งแสดงว่า นาฬิกา, อุณหภูมิ, ระยะทางคงเหลือ, อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย และ Real Time ของทั้ง ทริป A, B
เครื่องปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ
พวงมาลัย 3 ก้านหุ้มหนัง ทรงใหม่ มาพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, ปุ่มรับ-วางโทรศัพท์ ที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth, ปุ่ม Siri Eyes Free
ด้านขวาของพวงมาลัยมีปุ่มเปิด-ปิด VDC บริเวณที่คอนโซลเกียร์ทางด้านบนจะมีปุ่ม X-Mode
X-Mode = ฟังชั่นสำหรับช่วยการขับขี่ Off-Road ให้มีประสิทธิภาพ โดยระบบจะเข้ามาควบคุมเครื่องยนต์ เกียร์ และการทำงานของชุดขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมยังกระตุ้นการทำงานของระบบ HDC ควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน รวมถึงการทำงานระบบเบรก
เบาะนั่งแบบมือปรับมือโยก พนักพิงศรีษะเอนปรับระดับได้ ตัวเบาะค่อนข้างใหญ่ สามารถรองรับผู้มีสรีระใหญ่ให้นั่งได้ไม่อึดอัด และตำแหน่งท่านั่งอยู่ในวิสัยทัศน์ที่ค่อนข้างดี
เบาะหลังปรับได้แบบ 60:40 มีพื้นที่ Leg Room กว้างพอสมควร เบาะเอนในตำแหน่งที่นั่งสบาย
พื้นที่เก็บสัมภาระทางด้านท้ายเมื่อพับเบาะราบลงจะมีพื้นที่กว้างขวางสามารถใส่รถจักรยานออกไปขี่เที่ยวได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมีถาดรองให้วางของพร้อมดึงมาเป็นม่านบังแดดได้อีกด้วย
เมื่อเปิดฝากกระโปรงขึ้น โช้คค้ำฝากระโปรงจะทำงานโดยอัตโนมัติ จึงทำให้ไม่ต้องหาก้านค้ำ จะพบ เครื่องยนต์ Boxer ลูกสูบนอน ถือเป็นเอกลักษณ์ของค่ายดาวลูกไก่ ที่เด่นในเรื่องช่วยสมดุลของรถ และลดการสั่นสะเทือน ในพิกัดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรคันนี้ เป็นบล๊อกเดียวกับที่พบใน XV มีความจุจริง 1,995cc ให้กำลัง 150 แรงม้า@6,200rpm มีแรงบิด 198 Nm@4,200rpm ส่งกำลังลงสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (All Time) ผ่านเกียร์ Lineartronic CVT เอกสิทธิ์เฉพาะ Subaru อีกเช่นกัน ซึ่งใช้โซ่แทนสายพาน ที่พบใน CVT ทั่วๆไป ทนต่อแรงบิดในการกระจายแรงผ่านเพลาขับเคลื่อนลงสู่ล้อทั้ง 4
ทาง Subaru เคลมตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ 8.2 ลิตร/100 กม. (12.19 กม./ลิตร) และคายไอเสีย (CO2) 189 กรัม/กม.
เมื่อลองขับดูจะพบว่า ในช่วงกดคันเร่งออกตัวนั้น พบว่ารถดูมีอัตราเร่งตอนต้นค่อนข้างดี รถพุ่งทันทีที่เหยียบคันเร่ง
แต่อัตราเร่งแซงในช่วงกลาง นั้นยังทำได้ใกล้เคียงกับรถยนต์ Compact พิกัด 1.8 หรือ เพื่อน SUV ที่ใช้เครื่องยนต์บล๊อก 2.0 คันอื่นๆ ยังไม่ดูหวือหวาอะไรมากมาย มันมีสมรรถนะในด้านอัตราเร่งแซงที่สู้ XV ไม่ได้แน่นอน เนื่องจากต้องแบกน้ำหนักตัวที่หนักใช่ย่อยระดับ 1.5 ตัน
ทางผู้เขียนได้มีโอกาสทดสอบ 0-100 กม./ชม. และ Top Speed บนถนนโล่งและปลอดภัย
น่าเสียดายที่ผมลืมหยิบ OBD Bluetooth คู่ใจติดมาด้วยจึงต้องจับผ่านนาฬิกาข้อมือ ซึ่งม๊โอกาสจับได้เพียงครั้งเดียว ได้ตัวเลข 0-100 กม./ชม. = 11.77 วินาที (มองตามมาตรวัด) และ Top Speed ที่ 190 กม./ชม.
ด้านอัตราสิ้นเปลือง ผู้เขียนทดสอบวิ่งที่ความเร็ว 100 กม./ชม. โดยพยายามรักษาระดับความเร็วคงที่เป็นระยะทาง ประมาณ 10 กม. ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองโชว์ที่ 13.51 กม./ลิตร
ว่ากันต่อที่ระบบบังคับเลี้ยว 2016 Forester ใช้พวงมาลัยผ่อนแรงไฟฟ้า EPS ให้การตอบสนองที่ดี ผ่อนแรงดีในช่วงสาวออกตัว
ให้แม่นยำ และมีน้ำหนักเบาในช่วงที่ควรจะเบา แม้ฟีลลิ่งพวงมาลัยอาจจะไม่ได้เป็นธรรมชาตินักในช่วงที่ผ่อนแรง แต่ทว่า
มันให้ความคล่องตัวที่ความเร็วต่ำได้อย่างเยี่ยมยอด ช่วยให้การควบคุมขณะเคลื่อนออกตัว ถอยจอด เปลี่ยนเลนทำได้กระฉับกระเฉงไม่แพ้รถไซส์เล็ก ขณะที่ความเร็วสูงค่อนข้างให้การควบคุมที่มั่นใจได้เป็นอย่างดี การตอบสนองในโค้งทำได้นั้นช่วยทำให้เจ้า Forester นี้เข้าโค้งได้อย่างสนุก
นับได้ว่าแฮนด์ลิ่งการควบคุมของเจ้า Forester นี้เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งที่น่าประทับใจมากทีเดียว
ระบบกันสะเทือน 2016 Forester ใช้ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ Macpherson Strut ด้านหลังเป็นแบบ Double Wishbone ฟีลลิ่งโดยรวมยังให้ความใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้าที่เคยได้มีโอกาสทดสอบ การขับขี่บนถนนทั่วๆไป ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับรถ SUV ญี่ปุ่นคันอื่นๆ แต่เมื่อขับผ่านพื้นผิวที่ ไม่ราบเรีบบนัก ระบบซับแรงกันสะเทือนของ Forester นี้ยังทำหน้าที่ได้ดีเช่นเคย แต่ไม่พบอาการยวบยาบที่ผู้เขียนเคยพบใน XT โฉมเก่า
ขณะที่การยึดเกาะถนนช่วงความเร็วสูง ผู้เขียนพบว่ามันดูแน่นเฟิร์มกว่าเดิม ไม่โคลงเคลงที่ความเร็วสูง เหมือนเมื่อก่อน แต่จุดหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ แม้การเก็บเสียงโดยรวมนั้นค่อนข้างดี แต่เมื่อขับที่เความเร็วสูงมากในระดับ 150 กม./ชม. ขึ้นไปด้วยทรงรถเช่นนี้ทำให้เสียงลมปะทะทางด้านหน้าบริเวณเสา A เริ่มมากขึ้น
มาลองเข้าโค้งกันดูบ้างจากการที่ได้กล่าวชมไปในเรื่องแฮนด์ลิ่งมันทำให้ผู้เขียนสนุกสนานกับการเล่นโค้งต่อเนื่อง การเข้าโค้ง S โดยรวมนั้นทำได้ดีสนุกสนานยึดเกาะได้ดีเกิน SUV คันไหน แต่เมื่อเข้าโค้งกว้างๆ ที่พอใช้ความเร็วสูงได้ จะพบอาการโยนตัวน้อยๆ ตามสไตล์รถ SUV เช่นนี้ แต่ผู้เขียนยอมรับว่ามันมีอาการโคลงตัวน้อยกว่าเจ้า XT โฉมเก่า
เอาเป็นว่าเจ้าป่า Forester อาจไม่ชอบโค้งหนักๆ ความเร็วสูงนัก ขอตะกุยตามป่า ปีนเขาจะดีกว่า
ระบบเบรก Forester ใช้เบรกแบบดิสก์มีครีบระบายความร้อน ทั้งด้านหน้าและหลัง มาพร้อมด้วยระบบเบรก ABS, EBD, BA ตลอดจนระบบ HSA (ช่วยออกตัวบนทางชัน), HDC (ช่วยควบคุมขณะลงทางชัน)
ฟีลลิ่งในการเบรกนั้น พบว่ามันดูจะเป็นปัญหาเสียหน่อย เนื่องจากไม่มีแรง Engine Brake ของเครื่องยนต์ที่เข้ามาช่วยดึงกลับในการชะลอความเร็วนั้นแทบไม่มีเลย และการเซ็ทแป้นเบรกออกแนวนุ่มเท้า ต้องกดแป้นเบรกค่อนข้างลึก ซึ่งที่จริงจะว่าไปก็ถือเป็นแนวทางการเซ็ทเบรกของรถ Subaru รุ่นใหม่ แน้นความนุ่มนวลแบบฉบับรถครอบครัว
เหมาะสมกับการขับขี่แบบสไตล์คนเมืองทั่วไป หากขับขี่มาด้วยความเร็ว หรือโดยเฉพาะการเดินทางไกล ควรยกคันเร่งเผื่อแน่เนิ่นๆ และเติมเบรกลงไปโดยเร็ว เพื่อการชะลอความเร็วที่เหมาะสมอย่างนุ่มนวลไม่ต้องมาลงน้ำหนักมากตอนท้าย หรือในบางจังหวะคุณอาจผลักตำแหน่งเกียร์ไปที่ L เพื่อใช้ Engine Brake จากเครื่องยนต์ช่วยในการชะลอความเร็วของตัวรถลงด้วย
ระบบความปลอดภัย ในรุ่น 2.0i นี้จะมีระบบเบรก ABS, EBD, BA ตามที่กล่าวไป
ระบบ VDC (ช่วยควบคุมการทรงตัว) X-Mode เพื่อใช้ลุยทาง Off-Road
ถุงลมนิรภัย และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง รวมทั้งสิ้น 7 จุด
กล้องมองภาพด้านหลัง
สรุป
2016 Subaru Forester 2.0i กับเจ้าป่าขับ 4 รุ่นเริ่มต้นคันนี้ กับค่าตัวแตะ 1.2 ล้านบาท
ถ้าคุณมองหารถ SUV ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่มีมาพร้อมระบบควบคุม และกันสะเทือนที่ดีเยี่ยมพร้อมลุย Off-Road Forester นี้จะเป็นรถที่ตอบโจทย์คุณ ทำให้คุณไม่ต้องหันไปคบกับรถ PPV อีกด้วย แต่อย่างว่าสาวกดาวลูกไก่อย่าได้แคร์ราคาขายต่อ ศูนย์บริการที่มีน้อย ฯลฯ ที่เอามาเป็นปัจจัยในการซื้อรถ SUV อย่างเจ้าป่าขาลุยคันนี้ แล้วคุณจะพบว่าคุณได้ครอบครองรถ SUV ที่โดดเด่นในเรื่องของระบบการควบคุมและช่วงล่าง ขณะที่เทคโนโลยีที่น่าสนใจจัดเต็มต่างๆ จะไปอยู่ที่รุ่น 2.0i-P ซึ่งคุณต้องประเมินดูว่าเพิ่มเงินอีก2 แสนบาท จัดเต็มเทคโนโลยีไปเลยจะคุ้มกว่าไหม
จุดเด่น
จุดที่น่าจะมีเพิ่ม
ขอขอบคุณ TC Subaru สำหรับรถทดสอบ Subaru Forester 2.0i ราคา 1.198 ล้านบาท
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
*** ราคาอัพเดทใหม่ล่าสุด วันที่ 1 กันยายน 2016 (ก่อนปรับขึ้นราคาอีกระลอก)***
XV 2.0i-P – 1,198,000 Bath
XV 2.0i-P (Crosstrek) 1,258,000 Bath
Forester 2.0i – 1,298,000 Bath
Forester 2.0i-P – 1,498,000 Bath
Forester XT – 2,290,000 Bath (นำเข้าJapan)
Outback 2.5i-S – 2,590,000 Bath (นำเข้าJapan)
Levorg – 2,390,000 Bath (นำเข้าJapan))
BRZ 6MT – 2,150,000 Bath (นำเข้าJapan)
BRZ 6AT – 2,220,000 Bath (นำเข้าJapan)
WRX 6MT – 2,640,000 Bath (นำเข้าJapan)
WRX CVT – 2,740,000 Bath (นำเข้าJapan)
WRX STi – 3,350,000 Bath (นำเข้าJapan)
**หมายเหตุ** รีบตัดสินใจเป็นเจ้าของก่อนปรับราคาขึ้นอีกระลอก (รถบางรุ่น/บางสีเริ่มขาดสต็อค อาจต้องรอสั่งนำเข้าเพิ่มเติม) ครับ
***************************มาเป็นครอบครัวซูบารุกับเรานะครับ*************************************
*รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทฯ (บริษัทฯอาจมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและรายละเอียดได้ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า*
อาร์ท เซลล์SUBARU ศูนย์ ถนน เพชรบุรี ยินดีให้บริการครับ
รับจอง SUBARU XV CROSSTREK พิเศษ มีเพียง 300 คันในไทย
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Art Subaru(ถ.เพชรบุรี) โทร. 064-1785859 หรือ Fackbook : Art Subaru
– สนใจทดลองขับ(นัดล่วงหน้า) และเข้าชมรถที่โชว์รูมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-17.30 ครับ
– พร้อมรับข้อเสนอของแถมและแคมเปญสุดพิเศษ
***ยินดีให้บริการทุกท่านครับ***
กรุณาสอบถามรายระเอียดเพิ่มเติม : 064-178 5859 (Art).
https://www.facebook.com/art.subaru.5