รีวิว Honda CBR650F 2017 มิดไซส์ 4 สูบ ปีนก ปรับปรุงทั้งสมรรถนะ และรูปลักษณ์

รีวิว Honda CBR650F 2017 มิดไซส์ 4 สูบ ปีนก ปรับปรุงทั้งสมรรถนะ และรูปลักษณ์

หลังจากที่ค่ายปีกนก Honda ได้แนะนำรถมิดไซส์ขนาดกลางเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงคันแรกในประเทศไทย เมื่อปลายปี 2013 ซึ่งครั้งนั้น ถือได้ว่าเป็นการสร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการรถ BigBike 4 สูบเรียงในบ้านเรา นั่นก็คือ Honda CBR650F และ CB650F 2 คู่หู สปอร์ต และเน็คเกท หลังจากที่ทำตลาดมาเป็นเวลา 3 ปีด้วยกัน ในงาน EICMA 2016 ที่ผ่านมาปลายปีที่แล้ว ก็ได้มีการเปิดตัว 2017 Honda CBR650F และ CB650F โฉม Big Minor Changed เรียกได้ว่าเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ ที่น่าสนใจไม่น้อย

และหลังจากนั้นเมื่อต้นปีมานี้ในประเทศไทยเราก็ได้เปิดให้จับจองกันเรียบร้อย และสำหรับผู้ที่กำลังให้ความสนใจในโมเดลนี้อยู่ ในวันนี้ 9carthai เราขอมานำเสนอ 2017 Honda CBR650F ใหม่ ให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันครับว่าได้มีการปรับปรุงอะไรใหม่บ้าง มาดูกันครับ

รูปลักษณ์ Honda CBR650F นั้นยังคงความเป็นสปอร์ตตามสไตล์ CBR Series รุ่นอื่นๆ แต่ด้วยรหัส F นั้นทำให้เบาะนั่ง 2 ตอนที่คุ้นเคยนั้นกลายเป็นเบาะนั่งแบบตอนเดียว

สำหรับรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ในโมเดล 2017 Honda CBR650F นี้ ได้แก่

การปรับใช้ไฟหน้าแบบ Full LED แทนที่โฉมเดิมซึ่งจะเป็น LED เฉพาะไฟหรี่เท่านั้น

ไฟท้ายเปลี่ยนกรอบใหม่เป็นแบบโคมใส

ชุดแฟริ่งใหม่ ได้มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย รวมถึงลายกราฟฟิคใหม่ เช่นสีแดง ตัดด้วย Trim ขาว-ดำ คันนี้ ให้ความรู้สึกเหมือน CBR1000RR Fireblade มากยิ่งขึ้น

ท่อไอเสียปรับรูปทรงใหม่ ที่มีความเฉียบคมมากขึ้น

ฝาแคร้งเครื่องยนต์ ปรับเปลี่ยนสีใหม่ พ่นสีทองแทนสีเทาเดิม

สวิงอาร์มพ่นสีดำ และจุกลมแบบข้อตรง ปรับเป็นข้องอ ซึ่งทำให้เวลาไปเติมลมยางในปั๊มน้ำมันนั้น สามารถเติมลมได้ง่ายไม่ยุ่งยากอีกต่อไป

ขณะที่มาตรวัดยังคงเป็นแบบดิจิตอล LCD เช่นเคย แสดงผลความเร็วเป็นตัวเลข, วัดรอบเครื่องยนต์แสดงผลเป็นสเกลทางด้านบน  ส่วนด้านขวา เป็นนาฬิกา, เกจ์น้ำมัน พร้อมแสดงอัตราสิ้นเปลือง และ Set Trip A, B ได้กุญแจนิรภัยแบบ HISS และ Wave Key ฝังชิป ป้องกันพวกขโมยโดยใช้กุญแจผีได้

สวิตช์ฝั่งซ้าย มีปุ่มไฟ Pass ให้อยู่ในชุดปรับไฟสูง นอกจากนี้ยังมี ปุ่มไฟฉุกเฉิน มาให้ด้วย

ก้านเบรกปรับได้ 6 ระดับ เพียงแค่หมุนก็สามารถปรับใช้งานได้อย่างสะดวก

มิติรถ 2017 CBR650F
ยาว x กว้าง x สูง = 2,107 x 753 x 1,149 มม.
ความสูงเบาะอยู่ที่ 810 มม. น้ำหนักตัว Curb Weight 211 กก.
มีความจุถังน้ำมัน 17.3 ลิตร

ท่านั่ง CBR650F จะมีความสปอร์ต (หมอบ) มากกว่า CBR-Series อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น CBR150R, 250R, 300R, 500R เนื่องจาก CBR650F ใช้แฮนด์แบบจับโช้กซึ่งมีตำแหน่งที่ต่ำ ผู้ขี่จะต้องหมอบกว่ารุ่นอื่นๆ ตามที่กล่าวมา แต่ถึงอย่างไรก็ดียังไม่หมอบเท่าโมเดลรหัส RR

ด้านความสูงเบาะ 810 มม. ผู้เขียนสูง 174 ซม. สามารถวางขาได้เต็มฝ่าเท้าทั้ง 2 ข้าง เข่าหย่อนเล็กน้อย เมื่อสวมรองเท้าผ้าใบ

เรียกได้ว่าขี่ใช้งานในเมืองได้อย่างไม่เมื่อยล้า ขณะที่การขี่เดินทางก็ค่อนข้างสบาย แต่ถ้าอยากจะหมอบซิ่งก็ขี่ได้อย่างเพลินสนุก ท่านั่งเอื้ออำนวยอยู่แล้ว แค่หมอบลงไปติดถังหนีบข้อศอกนิด ลมที่ไล่จากวินชิลด์หน้าก็ไล่ผ่านศีรษะไปได้อย่างสบายไม่ต้านลม นอกจากนี้เราพบว่าในโมเดลปี 2017 นี้ ท่านั่งจะดูสปอร์ตขึ้นจากเดิม เนื่องจากตำแหน่งพักเท้าที่ขยับไปด้านหน้าอีกเล็กน้อย

สำหรับผู้ซ้อนนั้น แน่นอนว่า รหัสทิ้งท้าย F ที่หมายถึง Street Fighter เป็นเบาะนั่งแบบตอนเดียวขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ซ้อนนั่งได้สบายเต็มก้น ไม่เมื่อยไม่ว่าจะต้องซ้อนใกล้ หรือไกล

เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ความจุ 649cc DOHC 16 วาล์ว  หัวฉีด PGM-FI  ระบายความร้อนด้วย บล็อกเดิม ปรับจูนใหม่ ให้แรงกว่าเดิม อยู่ที่ 89.8 แรงม้า@11,000rpm (แรงขึ้น 4 แรงม้า) และแรงบิด 64Nm@8,000rpm (แรงบิดมากขึ้น 1 Nm)

พร้อมปรับปรุงระบบไอเสียให้ผ่านมาตรฐาน Euro4  รวมไปถึงการปรับอัตราทดเกียร์ใหม่ ที่เน้นอัตราเร่งช่วงรอบต้นและกลางให้ดียิ่งขึ้น ทำให้การขี่ในเมือง บิดติดมือ เมื่อต้องเร่งแซงที่รอบต่ำ รอบมาไวกว่าเดิมใช้งานได้ทันท่วงทีมากขึ้น

ขณะที่ความดุดันนั้นที่รอบสูงๆ ยังแรงเร้าใจ (แรงกว่าเดิม) เมื่อเปิดคันเร่งพารอบเครื่องไปเกิน 8,000rpm จะสามารถสัมผัสกับความแรงได้แบบถึงใจ แรงไม่น้อยหน้าใครในรถมิดไซส์ญี่ปุ่นพิกัดเดียวกัน

นอกจากนี้ในเรื่องของสุ้มเสียง แม้จะเปลี่ยนท่อไอเสียใหม่ ให้ผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวด แต่มันยังคงให้เสียงที่นุ่มทุ้มฟังสบายหูที่รอบต่ำ ขณะที่รอบสูงก็ให้โสตประสาทที่เร้าใจ ในสไตล์หวานหูของเครื่องยนต์ 4 สูบที่ทรงพลัง (ในรอบสูงๆ นี้พบว่าเสียงดูทรงพลังมากกว่าเดิม)

ระบบกันสะเทือน โช้กอัพหน้าปรับมาใช้ของ Showa Dual Bending Valve (SDBV) ขนาดแกน 41 มม. มีระยะยุบ 120 มม. สามารถขันปรับ Preload ได้

ขณะที่ด้านหลังยังคงใช้แบบ Monoshock ปรับ Preload ได้ โดยยังคงจุดเด่น คือ ติดตั้งบนสวิงอาร์มอลูมีนัมพ่นสีดำ

2017 Honda CBR650F ยังซับแรงสะเทือนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการขี่ผ่านทางรถไฟ หรือ พื้นผิวที่ขรุขระนั้น ก็ยังนั่งได้สบายๆ ไม่กระเด้งกระดอน เหมือนรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ

ขณะที่ไฮไลท์สำคัญ คือ โช้กหน้าใหม่ ที่มีวาล์วแยกทั้งในฝั่งของ Rebound และ Compression ซึ่งช่วยให้มีการหมุนเวียนของน้ำมันภายในแกนโช้ก เป็นไปตามจังหวะ ทั้ง Compression (กดลง) และ Rebound (เด้งคืน) ให้ความมั่นคงมากกว่าเดิม ในการควบคุม โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็ว และขี่ด้วยความเร็วสูง รวมถึงจังหวะที่มีการ Bump กระแทกหนักๆ ประสิทธิภาพของ SDBV จะออกมาให้คุณสัมผัสได้อย่างชัดเจน เฟิร์มหนักแน่นกว่าเดิมเสริมความมั่นใจในการขี่ได้เป็นอย่างดี

ระบบเบรก ABS หน้า-หลัง

ด้านหน้าจานดิสก์คู่ขนาด 320 มม. มาพร้อมคาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ จาก Nissin ปรับปรุงใหม่

ด้านหลังจานดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มม. คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ จาก Nissin

โดยรวมการเบรกชะลอความเร็วนั้น การทำหน้าที่ชะลอความเร็วในโมเดลเดิมที่ค่อนข้างดีกว่าเพื่อนอยู่แล้ว ด้วยการปรับปรุงปั๊มเบรกหน้าใหม่ทำให้ประสิทธิภาพในการชะลอความเร็วลงทำได้ดียิ่งขึ้น น้ำหนักเบรกหนักแน่นดีกว่ารถมิดไซส์ค่ายอื่นๆ

ขณะที่การทำงานของระบบเบรก ABS นั้นดู ดีกว่าเดิมเช่นกัน แรงสะเทือนจากการทำงานของ ABS ลดลง การตอบสนองของ ABS ทำได้แม่นยำยิ่งขึ้นไม่เร็วเกินไป เหมือนโมเดลเก่า อยู่ในจังหวะที่เหมาะสม

สรุป

2017 Honda CBR650F ใหม่ ถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ สำหรับรถสปอร์ตมิดไซส์ 4 สูบเรียงจากค่ายปีกนก

ทั้งรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยขึ้นจากไฟหน้า Full LED และสมรรถนะที่โดดเด่นขึ้นในทุกด้าน ปรับจูนเครื่องยนต์แรงขึ้น แต่รักษ์โลกกว่าเดิม, โช้กหน้า และ เบรกหน้า ปรับปรุงประสิทธิภาพการควบคุมให้ดีขึ้น

แพงขึ้น 3 พันบาท โดย 2017 CBR650F มีราคาอยู่ที่ 3.03 แสนบาท หากเทียบกับโมเดลเดิม แค่อัพเกรดไฟหน้าก็น่าจะเกินงบไปแล้ว

ดังนั้นหากเพื่อนๆ ต้องการมองหารถ Bigbike ในสไตล์สปอร์ต ขนาดมิดไซส์ แบบ 4 สูบเรียงแล้วล่ะก็ 2017 Honda CBR650F นี่ล่ะ เป็นรถที่ตอบโจทย์สุด คุ้มค่าสุดคันหนึ่งที่พึงจะหาได้

ขอขอบคุณ A.P.Honda และ Honda BigBike สำหรับ 2017 Honda CBR650F
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver