รีวิว All New Honda Click 160 ดีไหม? มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง!!
Honda Click ถือเป็นรถสปอร์ตสกู๊ตเตอร์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานและได้มีการปรับปรุงเรื่อยมา ในวันนี้จึงได้พัฒนารุ่นใหม่ล่าสุดสู่ตลาดนั้นก็คือ Honda Click 160 นั้นเอง จะเป็นอย่างไรนั้นทีมงาน 9Carthai จะพาเพื่อน ๆ ไปชมพร้อมกันครับ
ราคา
รุ่นย่อย | Click 160 | Aerox 155 | Click 125 |
ล้อซี่ลวด | – | – | 51,900 |
Standard | 63,500 | 68,900 | 56,900 |
ABS | 69,900 | 79,900 | – |
จากตารางราคาจะเห็นว่า Honda Click 160 มีราคาต่ำกว่าคู่แข่งในทุกรุ่นย่อย และมีราคาสูงกว่ารุ่นน้อง Honda Click 125 อยู่ประมาณนึง
รูปลักษณ์ภายนอก
Honda Click 160 ได้มีการปรับโฉมมาใหม่ทั้งคัน ทรงตัวรถมีความสปอร์ตมากขึ้นชัดเจน แฟริ่งหน้ามี DNA เดียวกับรถแข่งตระกูล CBR ส่วนด้านท้ายเรียวเล็กเชิดขึ้น
ทางด้านหน้าตัวรถ มีชุดไฟ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างตอนกลางวัน (Daytime Running Light: DRL) ลายเส้นสวยงาม
ไฟท้ายทรงแหลมเพรียว มีไฟเลี้ยวแยกเป็นก้านออกมาแบบ Full LED เช่นเดียวกัน
คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Yamaha Aerox ยังให้ไฟเลี้ยว-ไฟหลังแบบหลอดไส้ธรรมดามาอยู่เลย
ประกับแฮนด์
ปุ่มควบคุมต่าง ๆ ที่แฮนด์เหมือน Honda รุ่นอื่น ๆ ทั่วไป ความสูงของแฮนด์อยู่ระดับเดียวกับรถเก๋ง แต่แฮนด์แคบทำให้มุดผ่านช่วงรถติดได้ง่าย
ทางขวามี Ideling stop system ที่สามารถเลือกเปิด/ปิดได้
กระจกข้างแข็งแต่ปรับทีเดียวจบ มีความสูงประมาณรถ SUV หรือรถกระบะที่ไม่ยกสูง ทำให้มุดรถติดค่อนข้างยาก
หน้าจอ
ด้านบนเป็นไฟแจ้งเตือนสถานะต่าง ๆ ของรถ ด้านล่างเป็นจอ Digital LCD บอกระดับน้ำมัน มีเลขความเร็วตัวใหญ่ตรงกลาง นาฬิกา ระยะทางโดยรวม วัดแบต TripA TripB น้ำมันเฉลี่ยTripA ถือว่าให้มาครบ
Yamaha Aerox จะมีจุดเด่นกว่าในรุ่น Top ที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้
ที่เก็บของด้านหน้า
ทางซ้ายมีช่องเก็บของพร้อมฝาปิดที่เปิดได้กว้าง ขนาดช่องไม่ค่อยใหญ่ ด้านในมีช่องจ่ายไฟ USB type A และฝาปิดกันน้ำมาให้ โดยช่องนี้ล็อกไม่ได้ ตรงกลางมีที่เกี่ยวแขวนของ
ทางขวาเป็นชุด Honda Smart key แค่พกรีโมทไว้ใกล้ ๆ ตัวรถก็ใช้งานได้เลย ไม่ต้องกดปุ่มรีโมทให้เสียเวลา สามารถบิดใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ได้จากตรงนี้เลย และมีช่องเก็บของแบบไม่มีฝาปิดด้านล่าง ขนาดใกล้เคียงกับทางซ้าย
หากเทียบกับคู่แข่งจะพบว่า Yamaha Aerox มีช่องเก็บฝั่งซ้ายข้างเดียวเป็นแบบมีฝาปิด ภายในมี A/C Socket จ่ายไฟได้ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่สำหรับระบบกุญแจ Smart key อย่างเดียว
หากเทียบกับรุ่นน้อง Honda Click125 นั้นจะมีช่องเก็บของ 2 ฝั่งเช่นกัน แต่ไม่มีฝาปิดและช่องจ่ายไฟมาให้
ที่เก็บของใต้เบาะ
ใต้เบาะเปิดโดยการบิด Honda Smart key ไปยัง SEAT และกดปุ่ม SEAT ที่ด้านหน้า
ภายในจะพบ Ubox ขนาด 18 ลิตร ซึ่งสามารถใส่หมวกแบบ open face ได้บางรุ่น (รุ่นของผมใส่ไม่ได้ครับ) มีความใกล้เคียงกับ Honda Click125 ซึ่งถือว่าเก็บของได้น้อยกว่า Yamaha Aerox ที่สามารถเก็บหมวกเต็มใบได้ เพราะ Honda Click ทั้ง 2 รุ่นมีถังน้ำมันอยู่ด้านหลัง
ช่วงล่างและระบบเบรก
Honda Click 160 มีช่วงล่างด้านหน้าเป็นโช๊คอัพเทเลสโคปิกธรรมดา ด้านหลังเป็นโช๊คอัพเดี่ยวปรับระดับไม่ได้ หากเป็นรุ่น Top ของ Yamaha Aerox จะให้ซับแท้งมาและสามารถปรับระดับ Preload ได้
เบรกรุ่น STD เป็นแบบหน้าดิสก์หลังดรัม ส่วนรุ่น ABS ในภาพให้ดิสก์เบรกทั้ง 2 ล้อพร้อมระบบ ABS ที่ล้อหน้า ทำงานร่วมกับกับปั๊ม Nissin 1 พอตทั้งหน้าและหลัง ทำให้เบรกได้อย่างมั่นใจ
ในรุ่น ABS มาพร้อมกับล้อสีทอง ยางหน้าขนาด 100/80 R14 ยางหลัง 120/70 R14 เหมาะสมกับตัวรถและช่วยประหยัดน้ำมัน แต่อาจจะดูไม่ใหญ่สะใจเหมือนคู่แข่งที่หน้ากว้างถึง 140
ท่านั่งการขับขี่
ตัวรถมีน้ำหนักเพียง 118 กก. ทำให้สามารถพลิกรถตั้งตรงได้ง่าย เบาะสูง 778 มม. ทำให้ผู้ขี่ส่วนสูง 170 ซม.สามารถวางเท้าได้ทั้ง 2 ข้างพอดี แต่ถ้าขยับไปด้านหลังก็จะมีอาการส้นลอยเล็กน้อย
ในส่วนของท่าการขับขี่นั้นมีที่วางเท้า (Floor Board) กว้างกว่ารุ่นเดิมและกว้างกว่าคู่แข่ง เบาะยาวสามารถขยับตัวไปด้านหลังได้อีก แต่ถ้าใครสูงเกิน 180 ซม.เข่าอาจจะชนกับที่เก็บของด้านหน้ารถได้
เบาะผู้ขับขี่นั้นมีความแข็งมากไม่นุ่มเลย ขี่นาน ๆ ค่อนข้างปวดก้นโดยเฉพาะช่วงรถติดที่ต้องเอาขาขึ้นลงบ่อย ๆ หากใครต้องการความสบายทาง Honda มีรุ่น PCX ที่เบาะสบายกว่าให้เป็นตัวเลือก หรือจะนำเจ้า Honda Click 160 คันนี้ไปแต่งเบาะเพิ่มเองก็ทำได้
เบาะผู้ซ้อนเน้นความสปอร์ตจึงมีขนาดเล็กและแข็ง นั่งนาน ๆ ไม่สบายแน่นอน แต่ก็นิ่มกว่าเบาะคนขี่นิดหน่อย หากผู้ซ้อนตัวไม่ใหญ่มากก็พอจะนั่งได้
ทดสอบขับขี่
ในส่วนของการขับขี่ เครื่องยนต์ esp+ 160 ตัวใหม่ มีความจุกระบอกสูบจริงอยู่ที่ 156.3 ซีซี ตัวเดียวกันกับที่อยู่ใน Honda PCX 160 แต่ด้วยน้ำหนักตัวที่เบากว่าถึง 7 กก. ทำให้รู้สึกได้ถึงพลังเครื่องยนต์ที่แท้จริง
เครื่องยนต์ตัวนี้มีกำลังอยู่ที่ 15.3 แรงม้าที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิด 13.8 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบ/นาที ตัวเลขใกล้เคียงกับ Yamaha Aerox เเต่คู่แข่งนั้นมีน้ำหนักตัวมากกว่าเยอะ
เมื่อขับขี่จริงพบว่า ช่วงต้นคันเร่งมีความแรงกว่ารุ่นอื่นในค่ายเดียวกันเล็กน้อยแต่ยังนุ่มนวลอยู่ ทำให้ควบคุมรถในช่วงการจราจรติดขัดได้ง่าย
ความแรงของเครื่องยนต์จะแสดงออกมาในย่านความเร็ว 20 – 90 กม./ชม. ที่มีแรงดึงที่ต่างจากรุ่นอื่นในคลาสเดียวกันอย่างชัดเจน บิดติดมือและไม่ต้องเค้นคันเร่งมากนัก ถ้าคนซ้อนนั่งไม่ดีอาจจะมีหงายหลังกันได้
ช่วงความเร็วที่ 0-90 กม./ชม. นั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นที่ความเร็ว 105 กม./ชม. เป็นต้นไปจะค่อย ๆ ไต่ขึ้นจนถึง top speed ที่ 125 กม./ชม.
แรงจริงแน่นอน สมกับที่เป็น The Alpha of Speed นำหน้าอย่างจ่าฝูง
ถึงจะแรงแต่ก็ยังคงประหยัดน้ำมันโดย Honda เคลมอัตราการบริโภคน้ำมันไว้ที่ 46.9 กม./ลิตร ขับขี่จริงในช่วงรถติด+ความเร็วไม่เกิน 80 + top speed 2 ครั้ง ทำได้อยู่ที่ 40 กม./ลิตร แต่ถ้าขับชิว ๆ แบบรถไม่ติดมากก็จะทำได้ถึง 45 กม./ลิตร เลยทีเดียว ประหยัดดีเหมาะสมกับความแรง
เครื่องยนต์แรงก็ต้องมาคู่กับช่วงล่างและระบบเบรกที่ซัพพอร์ตกันด้วย โดยเบรกทำงานได้ดี หยุดได้ดั่งใจ แต่คงจะดีกว่านี้หากมีการเพิ่ม ABS ที่ล้อหลังมาให้ด้วย
ช่วงล่างในความเร็ว 100 กม./ชม. กับฐานล้อ 1,277 มม. ถือว่าทำได้นิ่งมาก และที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่น ๆ น่าจะเป็นการเข้าโค้งแรง ๆ สัมผัสได้ถึงความคมของช่วงล่างด้านหลังที่ไม่มีอาการย้วยเลยแม้แต่น้อย ถูกใจสายซิ่งแน่นอนเพราะให้อารมณ์สปอร์ตมาก
แต่ไม่ถูกใจสายสบายแน่นอน เพราะช่วงล่างมีความแข็งกระด้าง สัมผัสได้ทุกรอยต่อหลุมบ่อบนท้องถนน รวมกับเบาะแข็ง ๆ ยิ่งไม่สบายเข้าไปใหญ่ อาจจะต้องหาเปลี่ยนกันภายหลัง
สรุปข้อดี
ข้อสังเกต
เมื่อเปรียบกับ Honda Click125 จะพบว่าหน้าตาภายนอกแตกต่างกันเล็กน้อยแต่ถือว่าสวยงามทั้งคู่ แต่ช่องเก็บของด้านหน้าของ Honda Click125 จะยังไม่มีฝาปิดและจุดจ่ายไฟมาให้ ส่วนหน้าจอและพื้นที่ใต้เบาะมีความใกล้เคียงกัน
ในส่วนของการขับขี่นั้นแน่นอนว่า Honda Click 160 ต้องมีความแรงมากกว่า แต่จะมีอัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 40 กม./ลิตร ขึ้นไป ส่วน Honda Click125 จะประหยัดน้ำมันมากกว่าอยู่ที่ 45 กม./ลิตรขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการขับขี่ของแต่ละบุคคลด้วย
โดยสรุปแล้ว Honda Click 160 ถือเป็นรถที่มีความคุ้มค่าด้วยความแรงจากเครื่องยนต์ตัวใหม่ และมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันอีกทั้งยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย
ในส่วนของเบาะและช่วงล่างอาจจะมีความชอบแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล แต่ 2 สิ่งนี้ก็สามารถหาของแต่งมาใส่ให้เหมาะสมกับความต้องการได้ไม่ยาก
ดูข้อมูลเพิ่มเติม และตารางผ่อนคลิก
https://www.9carthai.com/new-honda-click-price/
https://www.9carthai.com/new-honda-click-160-price/
อ่านรีวิวรถใหม่ ที่น่าสนใจ…
รีวิว Vespa LX 125 i-Get รถที่ขายดีที่สุดของ Vespa แต่ราคาราคาเฉียดแสน คุ้มหรือไม่?
รีวิว Vespa SPRINT S 150 i-Get ABS เครื่องแรงใช้ได้ แต่ราคาแรงกว่า แล้วมันน่าซื้อไหม?
รีวิว Vespa Primavera Color Vibe 150 i-Get ABS ขับสนุกจริง จนท้าให้ลอง
รีวิว Honda Scoopy Minions Limited Edition ลายใหม่สุดคูล ใช้งานได้คล่องตัวและประหยัดน้ำมัน
รีวิว Yamaha Grand Filano เท่ห์กว่าเดิม มาพร้อมสีใหม่
รีวิว Yamaha Fazzio 2023 เครื่องไฮบริด แรงพอได้ ประหยัดดี
รีวิว Honda LEAD 125 ตัวใหม่ เน้นใช้งาน หน้าตาพิมพ์นิยม
รีวิว Honda Click 160 นำหน้าอย่างจ่าฝูง
รีวิว Yamaha NMAX Connected 2023 เบาะนุ่ม แรงกำลังดี คันเดียวจบทุกเส้นทาง
รีวิว Yamaha Xmax Connected 2023 ขับมันส์ นั่งสบาย ช่วงล่างนุ่มหนึบมาก!!
รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ...
รถยอดนิยม
Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000.
Mazda 3 ราคาเริ่มต้น 969,000.
Mazda CX-3 ราคาเริ่มต้น 769,000.
Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 499,000.
Nissan Kicks ราคาเริ่มต้น 889,000.
Nissan Navara ราคาเริ่มต้น 599,000.
Honda City ราคาเริ่ม 579,500.
Honda City Hatchback ราคาเริ่ม 599,000.
Honda City e:HEV ราคา 839,000.
Honda Civic ราคาเริ่ม 874,000.
Mitsubishi Triton ราคาเริ่มต้น 539,000.
Mitsubishi Xpander ราคาเริ่มต้น 789,000.
Mitsubishi Pajero Sport ราคาเริ่มต้น 1,299,000.
Toyota Revo ราคาเริ่มต้น 544,000.
Toyota Yaris ATIV 4 ประตู ราคาเริ่มต้น 529,000.
Toyota Yaris 5 ประตู ราคาเริ่มต้น 539,000.
Toyota Corolla Cross ราคาเริ่มต้น 989,000.
Toyota Fortuner ราคาเริ่มต้น 1,319,000.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว All New Honda Click 160 นำหน้าอย่างจ่าฝูง "